เปิดใจประธานนิสสัน ในวันที่เจอมรสุมรุมบริษัทหนักก่อนก้าวสู้ยุคใหม่
สัมภาษณ์พิเศษ "อิซาโอะ เซคิกุจิ" ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ถึงประเด็นข่าวลือการยุติการขายในประเทศไทย และ ยอดขายในปี 2565 ที่ได้รับผลกระทบ
ในปี 2565 นี้นับเป็นปีที่มีความท้าทายอย่างมากสำหรับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่นับตั้งแต่ต้นมาปีมายอดขายรวมสะสม 4 เดือน (มกราคม - เมษายน) ยังมีอัตรายอดขายที่ติดลบอยู่ 25.4%
นิสสัน ลุยตลาด รถยนต์ขนาดเล็ก ยุติ 3 รุ่นดัง เอ็กซ์เทรล,เทียน่า,ซิลฟี่
นิสสัน ดึง ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ Nissan Navara 2022
ขณะที่ ในช่วงก่อนหน้านี้กระแสข่าวลือบนโลกออนไลน์ในประเด็นที่ นิสสัน จะยกเลิกการทำตลาดในประเทศไทย เช่นเดียวกับแบรนด์ เชฟโรเลต โดยเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้มีข่าวลือเช่นนั้น การยกเลิกการทำตลาดหลายรุ่นพร้อมกัน อาทิ นิสนัน ซิลฟี, นิสสัน เอ็กซ์เทรล และ นิสสัน เทียน่า ในช่วงเวลาพร้อม ๆ กัน
นายอิซาโอะ เซคิกุจิ ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดใจให้ฟังว่า ในแผนธุรกิจของ นิสสัน ทั่วโลก ประเทศไทยนับเป็นประเทศที่สำคัญที่สุดและเป็นฐานการผลิตสำคัญในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจากการเดินทางเยือนประเทศไทยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาของ Ms. Asako Hoshino executive vice president for Nissan Motor Co., Ltd (รองประธานบริหารของ นิสสัน มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น) ได้ยืนยันถึงแผนการลงทุนและการเดินหน้าในการทำธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
บทเรียนด้านนโยบายธุรกิจ
ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้กล่าวยอมรับว่า ที่ผ่านมาในด้านผลิตภัณฑ์ของ นิสสัน เป็นบทเรียนที่ทำให้เราเรียนรู้ถึงทิศทางด้านผลิตภัณฑ์ของ นิสสัน หลังจากนี้เป็นต้นไป ในทุกผลิตภัณฑ์ที่จะมีการเปิดตัวในประเทศไทยจะต้องมีความสม่ำเสมอ เพื่อความเชื่อมั่นและการรักษาสัญญาต่อผู้บริโภคที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ นิสสัน
“ผมต้องการให้แน่ใจว่านิสสันในประเทศไทยมีความสม่ำเสมอ (Consistency) ซึ่งนั่นหมายความว่า เราให้คำสัญญากับลูกค้าแล้วเราต้องรักษาสัญญา โดยนั่นเป็นการเรียนรู้สำหรับ นิสสัน ภาพลักษณ์แบรนด์ของเราไม่ได้อยู่ที่นั่น เราต้องการสร้างความมั่นใจว่าเรามีกลยุทธ์และแผนที่ดีจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค”
สำหรับแผนการตลาดหลังจากนี้ของ นิสสัน ประเทศไทย จะมุ่งเน้นใน 4 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ นิสสัน อัลเมร่า (Nissan Almera), นิสสัน คิกส์ (Nissan Kicks), นิสสัน นาวารา (Nissan NAVARA) และ นิสสัน เทอร์รา (Nissan Terra) และจะมีรุ่นจำหน่ายเสริมอย่าง นิสสัน ลีฟ (Nissan Leaf) และ นิสสัน จีที-อาร์ (Nissan GT-R)
นอกจากนี้ แผนการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยตามที่มีกระแสข่าวว่า นิสสัน จะมีการทำตลาดในรุ่น นิสสัน อริยะ (Nissan Ariya) บริษัทขอยืนยันว่า บริษัทได้มีการศึกษากับบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ โดยยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดได้ในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นิสสัน สนใจเข้ารวมโครงการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลหรือไม่ นาย เซคิกุจิ กล่าวว่า สิ่งที่ นิสสัน หารือ กับ รัฐบาลไทย มีหลายโครงการส่วนขณะนี้ยังไม่มีการลงนามในสัญญาใด ๆ อย่างเป็นรูปธรรม แต่ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกับพันธมิตรทางธุรกิจและกับทางรัฐบาลบ้างแล้ว ซึ่งเมื่อทุกอย่างแน่ชัดจะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้งโดยเชื่อว่าภายใน 2-3 เดือน จากนี้จะมีความเคลื่อนไหวด้านความร่วมมือกับรัฐบาลและพันธมิตรทางธุรกิจภาคเอกชน
ขณะเดียวกัน ปัจจุบันในประเทศไทยมีจุดชาร์จไฟฟ้าอยู่ที่ 2,000 หัวชาร์จ ขณะที่ในประเทศญี่ปุ่นมีมากกว่า 30,000 หัวชาร์จ ซึ่งมากกว่าสถานีบริการน้ำมัน ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่เพียง 1% ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งปัจจุบันผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยไม่ใช่ผู้ที่ซื้อรถเป็นคันแรก ดังนั้นจะต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของหลายภาคส่วนว่าจะเป็นอย่างไร เนื่องจากเราเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีตัวอย่างเช่น การเปิดตัวแบรนด์ ดัสสัน (Datsan) ที่ประเทศอินโดนีเซีย ดังนั้นเราต้องมั่นใจก่อนว่าแผนการเปิดตัวนั้นยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ด้านยอดขายที่ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีสาเหตุสำคัญมาจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตรถยนต์ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับสถานการณ์ล็อกดาวน์ในประเทศจีน เนื่องจาก นิสสัน พึ่งพาการนำเข้าชิ้นส่วนหลายอย่างจากประเทศจีน แม้ว่ามีบางส่วนในจีนเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้ถึงสถานการณ์ในอนาคตอีก 6 เดือนข้างหน้า เพราะยังเผชิญปัญหาสงครามในรัสเซีย-ยูเครน โดยมองหาแหล่งนำเข้าชิ้นส่วนใหม่อยู่
“นิสสัน ในระดับโลกกำลังวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอะไรขึ้นหากไต้หวันกลายเป็นเหมือนยูเครนและรัสเซีย สำหรับระยะสั้น ประเด็นหลักคือการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ แน่นอน สถานการณ์เช่นนี้ โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ของจีน เราเริ่มคิดถึงการหาชิ้นส่วนภายในประเทศเพื่อทดแทน เพื่อลดความเสี่ยงเพิ่มเติม เรากำลังมีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องนี้อยู่”
จับตา กนง.เร่งขึ้นดอกเบี้ย หวั่นไม่ทันเงินเฟ้อพุ่ง ทำข้าวของแพง-ค่าครองชีพสูง
เปิดสายด่วน “ปรึกษากัญ 1667” ให้คำปรึกษาใช้กัญชาอย่างปลอดภัย
เปลี่ยนวิธีการสื่อสาร-รูปแบบการตลาดอย่างสิ้นเชิง
เราได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดและการสื่อสาร ด้วยการมอบสิ่งที่ไม่คาดคิดให้ผู้บริโภค ซึ่งเริ่มต้นจาก นิสสัน นาวารา ที่มีการใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ ซึ่งเราเรียกวิธีนี้ว่า Branded House Approach สร้างความสอดคล้องในการสร้างแบรนด์และการตลาด โดยวิธีการนิ้อาจจะต้องใช้เวลาอยู่บ้างแต่เชื่อว่าจะทำให้เรากลับมามียอดขายและตำแหน่งที่แน่นอน โดยเป้าหมายของเราคือ ท็อป 5 ด้วยการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้น
แม้ว่าก่อนหน้านี้ นิสสัน เคยชูจุดแข็งของตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์อิมบาสเดอร์ในตัวเองอยู่แล้ว แต่วันนี้เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่หันมาใช้พรีเซ็นเตอร์ในทุกรุ่นซึ่งเราเชื่อว่าเรามาถูกทาง
ส่วน นิสสัน คิกส์ (Nissan Kicks) ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ก็จะมีจุดเปลี่ยนสำคัญในการสื่อสารและการทำการตลาดครั้งใหญ่เช่นกัน ด้วยการใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์/พรีเซ็นเตอร์ พร้อมการเปลี่ยนวิธีการสื่อสารจากเดิมที่มีการให้ข้อมูลเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ที่มีความทันสมัยและโดดเด่นอย่างไร เปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้รับจากเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ โดยทั้ง 2 ส่วน จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน