โตโยต้า เตรียมแนะนำรถไฮบริดอีก 4 รุ่นในปีนี้ เล็งคุยรัฐหนุนไฮโดรเจน
โตโยต้า แย้มแผนเปิดตัวรถยนต์พลังงาน ไฮบริด อีก 4 รุ่น ภายในปี 2566 เตรียมเข้าคุยกับรัฐขอสนับสนุนพลังงานอื่น-แท็กซี่ เพื่อไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภายในปี 2566 บริษัทมีแผนการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฮบริด (HEV) อีก 4 รุ่น เพื่อตอบสนองนโยบายการนำไปสู่ความเป็นกลางทางด้านคาร์บอน (Carbon Neutral) ซึ่งบริษัทจะนำเทคโนโลยีหลากหลายมาให้ผู้บริโภคได้เลือก
พาชม Toyota Yaris Hatchback 2023 โมหน้าใหม่ เติมออปชั่น เสริมความสด
โตโยต้าปรับฐานเงินเดือนรอบ 20 ปี หลังรัฐบาลเรียกร้องเพิ่มค่าจ้าง
โตโยต้า ชี้ตลาดรถยนต์ปี'66 ฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป คาดตัวเลข 9 แสนคัน
ทั้งนี้ การไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนบริษัทมีการพิจารณาว่าจะใช้เทคโนโลยีอะไรที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด โดยเทคโนโลยีที่ไม่ต้องรอโครงสร้างพื้นฐานคือ เทคโนโลยีไฮบริด
รถยนต์ทั้ง 4 รุ่นดังกล่าว ไม่เพียงเป็นรถยนต์นำเข้าเพียงอย่างเดียวแต่เป็นรุ่นที่ประกอบในประเทศไทยด้วย ซึ่ง โตโยต้า พรีอุส ใหม่ นั้น ไม่ได้รวมในจำนวนดังกล่าว
ขณะที่ ประเด็นเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอนนั้น การผลิตรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน แต่ในปัจจุบันทุกภาคส่วนมองว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) เป็นทางออกในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดย โตโยต้า มองว่า อยากให้รัฐบาลส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบในรูปแบบอื่น ๆ ที่สามารถนำไปสู่ความเป็นกลางด้านคาร์บอนเช่นกัน
ปัจจุบันรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบมีมากมาย อาทิ รถยนต์พลังงานไฮบริด (HEV), รถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV), รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV), รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน (FECV), รถยนต์สันดาปภายในที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง (HICEV) รวมไปถึงรถยนต์พลงงานไบโอฟิว (Bio Fuel) เป็นต้น
นายยามาชิตะ กล่าวว่า หากเป็นไปได้ โตโยต้า อยากพูดคุยกับรัฐบาลไทยถึงมาตรการส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับการนำรถยนต์เทคโนโลยีที่หลากหลายเข้าไปจัดแสดงในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 หรือ มอเตอร์โชว์ 2023 (Motor Show 2023) โดยเฉพาะในรุ่นของ Toyota Thai TAXI Concept เป็นการนำเสนอเทคโนโลยีที่มีความประหยัดพลังงานและนำไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วยเทคโนโลยีของ LPG+Hybrid มาใช้ในรถขนส่งสาธารณะรวมถึงความสะดวกสบายใจการใช้งานที่ถูกพัฒนามาเป็นรถแท็กซี่โดยเฉพาะ เป็นการส่งสัญญาณถึงภาคประชาชนที่จะเป็นกระบอกเสียงส่งไปถึงรัฐบาล ในความต้องการของภาคประชาชนที่ต้องการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนี้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในประเทศไทย
นอกจากนั้น ยังเป็นการรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำไปพิจารณาการนำเสนอลงสู่ตลาดของ โตโยต้า แต่ทั้งนี้ ปัจจุบันกฎหมายของประเทศไทยที่อนุญาติให้ทำรถแท็กซี่ได้จะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่มีขนาดมากกว่า 1,600 ซีซี. ขึ้นไป และมีมาตรฐานขนาดของตัวรถ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นอาจจะเป็นเรื่องยากในการนำเสนอเทคโนโลยีใด ๆ มาทำเป็นรถขนส่งสาธารณะ โดย โตโยต้า จะต้องเข้าไปเจรจากับทางภาครัฐซึ่งบริษัทอยากให้มีการสนับสนุนทางด้านการปรับปรุงข้อกำหนดและเงื่อนไขรวมถึงมาตรการทางด้านภาษีเพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ใช้เทคโนโลยีที่ดี