Motor Show 2023 : 3 แบรนด์จีนในงานมอเตอร์โชว์เบียดแบรนด์หลักหลุดตาราง
การแข่งขันของแบรนด์ต่าง ๆ ในงาน มอเตอร์โชว์ 2023 สะท้อนได้จากยอดจองภายในงาน ที่มาแรงคงหนีไม่พ้นแบรนด์จีนที่ครอง 3 อันดับจาก 10 แบรนด์ที่ขายดีที่สุด
ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 หรือ มอเตอร์โชว์ 2023 (Motor Show 2023) ซึ่งมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก และในปีนี้มียอดจองภายในงานรวมทั้งสิ้น 45,983 คัน เติบโตขึ้น 35.5% เมื่อเทียบกับปี 2565
ขนส่งเริ่มอิ่มตัว ! กระทบตลาดกระบะเดือน ก.พ. หดตัวแรง สวนทางรถนั่งโต
โตโยต้า เตรียมแนะนำรถไฮบริดอีก 4 รุ่นในปีนี้ เล็งคุยรัฐหนุนไฮโดรเจน
เปิด 11 รายชื่อ รถไฮไลท์ในงาน Motor Show 2023 จัดเต็มหลังอั้นมานาน !
การแข่งขันของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในปีนี้ถือได้ว่ามีความเข้มข้นอย่างมากจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และรถยนต์รุ่นปรับปรุง (ไมเนอร์เชนจ์)
ภายในงานสร้างกระแสความน่าสนใจดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามาร่วมภายในงานครั้งนี้ได้อย่างดีไม่น้อย โดยเหล่าบรรดาค่ายรถต่างนำเสนอเทคโนโลยีและความคุ้มค่าเป็นที่มาของการตอบรับผู้บริโภคที่มีให้ต่อแบรนด์ดังนี้
10 อันดับยอดจองรถยนต์สูงสุด ในงาน Motor Show 2023
- Toyota 6,042 คัน
- Honda 4,304 คัน
- MG 3,929 คัน
- Suzuki 3,887 คัน
- GWM 3,117 คัน
- ISUZU 3,064 คัน
- Mazda 2,989 คัน
- Nissan 2,808 คัน
- BYD 2,737 คัน
- Ford 1,630 คัน
ที่น่าสนใจคือ 3 ใน 10 แบรนด์ที่ผู้บริโภคให้การตอบรับสูงสุดในงานเป็นแบรนด์จากประเทศจีน อย่าง เอ็มจี (MG), เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) และ BYD ซึ่งเป็นสัญญาณการแข่งขันของแบรนด์จีนที่มีต่อแบรนด์ญี่ปุ่น ส่งผลให้แบรนด์ญี่ปุ่นคุ้นชื่อหลายแบรนด์หายออกไปจากอันดับหัวตาราง อาทิ มิตซูบิชิ เป็นต้น
ไม่เว้นแม้กระทั่งแบรนด์ขายดีตลอดกาลอย่าง ISUZU ที่เดิมทีไม่หนี Top 5 ครั้งนี้ยังติดอยู่ในดับดับที่ 6 ซึ่งมียอดจองน้อยกว่า MG และ GWM เสียอีก ... หรือนี่จะเป็นการสะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไป ไม่ติดยึดกับแบรนด์ชั้นนำและพร้อมที่จะมองหาเทคโนโลยีใหม่และความน่าสนใจอื่น ๆ หรือไม่ !?!
ถ้าเจาะลงในรายละเอียดในอันดับ Top 5 ของตารางนั้น ต้องยอมรับว่าเป็นแบรนด์ที่มีการเปิดตัว รถยนต์รุ่นใหม่ หรือ รุ่นปรับปรุง ทำให้ไฟฟอลโลว์ถูกฉายไปยังแบรนด์ต่าง ๆ เหล่านั้น ซึ่งแน่นอนว่า ความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์และการนำเสนอทางเลือกใหม่นั้นเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค นั้นจึงทำให้ผลลัพธ์ของการเข้าร่วมงานในครั้งนี้สะท้อนออกมาผ่านตัวเลขยอดจอง
กระนั้น คงต้องจับตาดูแบรนด์หลักญี่ปุ่นฝรั่งทั้งหลายถึงการปรับตัวสู้กับแบรนด์จีนที่วันนี้ก้าวขึ้นมาในระดับ Top ของตารางถึง 3 แบรนด์ ถ้าพูดก็พูด ก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวไม่น้อยในด้านการแข่งขันที่เป็น 'เสือนอนกิน' อยู่นาน ครั้งนี้ถ้ายังนอนกินอยู่อาจจะพลาดเสียเหยื่อไปให้กับแบรนด์จีนกันไปมากโขพอตัวเลยล่ะ