"ไอเรื้อรัง" ควรพบแพทย์เพราะนั่นคือสัญญาณเตือน “มะเร็งปอด”
อาการ “ไอเรื้อรัง” เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนของมะเร็งปอด แนะสังเกตอาการไอหากผิดปกติควรรีบพบแพทย์
หากคุณมีอาการไอเรื้อรังนานนับสัปดาห์ หลายคนคิดว่านี่คืออาการป่วยธรรมดาทั่วไป แต่จริงๆ แล้ว อาการไอเรื้อรังยังเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือน “มะเร็งปอด” โรคที่พบบ่อยในประชากรชาวไทยทั้งเพศชายและเพศหญิง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตในระดับต้นของผู้ป่วยมะเร็ง เมื่อรู้อย่างนี้แล้วอย่าละเลยอาการไอ
"ไอ" แบบไหนที่เสี่ยงเป็นมะเร็งปอด
ไอเรื้อรัง ไอนานติดต่อกันเกินกว่า 3 สัปดาห์ หรือในบางรายอาจไอนานเป็นเดือน
ไอรุนแรงจนเหนื่อยหอบ ไอแบบรุนแรง ไอจนเหนื่อยหอบ ไอและผอมลง หรือไอจนเสียงเปลี่ยน
สิ้น “สรพงศ์ ชาตรี” พระเอกดังตลอดกาล จากไปด้วยโรคมะเร็งปอด ในวัย 73 ปี
คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับ 2! “มะเร็งปอด” โรคร้ายที่ไม่มีสัญญาณเตือน
"มะเร็งปอด" ภัยร้ายคร่าชีวิตคนไทยแนะใส่ใจทั้งตัวเองและคนที่คุณรัก
ไอปนเลือด บางทีไอมีเสมหะปนเลือด ซึ่งลักษณะการไอแบบนี้ จะต้องมีเลือดสดออกมาปนบ่อย ๆ
ข้อบ่งชี้ในการตรวจหามะเร็งปอดในระยะแรกเริ่ม
ผู้ที่อายุตั้งแต่ 55-74 ปี ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือหยุดสูบบุหรี่น้อยกว่า 15 ปี
ผู้ที่สูบบุหรี่ 30 แพคต่อปี (หรือวันละ 1 ซอง เป็นระยะเวลา 30ปี)
ปัจจัยเสี่ยง “มะเร็งปอด” มีอะไรบ้าง?
สูบบุหรี่ โดยตรง หรือสัมผัสควันบุหรี่จากบุคลอื่น
สัมผัสสารก่อมะเร็ง หรือ แร่ใยหิน gas radon โลหะหนัก แข็ง Arsenic , Chromium , Nickel
มีประวัติบุคคลในครอบครัวป่วยเป็นโรคมะเร็ง
"มะเร็งปอด" ไม่มีสัญญานเตือนในระยะเริ่มแรก
แนะ “โภชนบำบัด” อาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
อาการเตือน..ที่มีความเสี่ยง “มะเร็งปอด”
ไอเรื้อรัง
ไอเป็นเสียง
หายใจติดขัดไม่สะดวก
แน่นหน้าอก
เสียงแหบ
ปวดกระดูก,ปวดศีรษะ
ในบางรายอาจมีอาการทางมะเร็ง เช่น เพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือหากเกิดการแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่างๆ ก็อาจมีอาการอื่นร่วม เช่น ไปที่ต่อมน้ำเหลือง จะมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต หรือบางรายอาจเกิดการอุดที่หลอดเลือด เช่น อุดหลอดเลือดดำที่คอทำให้เลือดคั่งบวมที่หน้า
ไปที่เยื่อหุ้มปอด ทำให้มีน้ำในช่องเยื่อบุหุ้มปอด (Pleural Effusion)
ไปที่สมอง ทำให้ปวดศีรษะ ชัก อัมพาต ซึม หมดสติ
ไปที่ตับ ก็จะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง
ในขณะเดียวกัน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการที่เรียกว่า Paraneoplastic Syndrome ซึ่งเรายังไม่รู้สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการพวกนี้แน่นอน เช่น มีไข้หนาวสั่น ปวดข้อและกล้ามเนื้อ ข้อบวม ระดับแคลเซียมในเลือดสูง และระดับฮอร์โมนบางตัวในเลือดสูง อาการเหล่านี้จะหายไปถ้าเราตัดก้อนมะเร็งออกไป และถ้าโรคกลับมาอาการก็จะกลับมาใหม่ได้
วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปอด
การตรวจสุขภาพ โดยเริ่มโดยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และตรวจเลือด
การตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบใช้ปริมาณรังสีต่ำ low-dose computed tomography (low-dose CT)
มะเร็งปอดไม่ใช่โรคติดต่อ และไม่สามารถส่งผ่านไปยังคนอื่นๆ ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจไม่เกี่ยวเนื่องกับมะเร็งได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้ที่มีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว
"เนื้องอกโพรงมดลูก" ภัยร้ายของผู้หญิงและส่งผลให้มีบุตรยาก
ขอขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก : โรงพยาบาลพญาไท