"ผู้สูงอายุ" ป่วยโควิดทำอย่างไร? เช็กอาการ - วิธีปฏิบัติของผู้ดูแล
เผยวิธีเช็กอาการเมื่อผุ้สูงอายุติดเชื้อโควิด-19 และวิธีปฏิบัติของผู้ดูแล
หลังเทศกาลหยุดยาวซึ่งมีการเดินทางเคลื่อนย้ายของคนจำนวนมาก ทำให้อัตราผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่มมากขึ้นอย่างตามมา โดยหากมีการติดเชื้อในผู้ที่ร่างกายไม่แข็งแรงรวมถึงผู้สูงอายุ จะมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนทั่วไป เนื่องด้วยสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง ภูมิคุ้มกันลดลงตามวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว ดังนั้นการเตรียมรับมือจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในสถานการณ์นี้
กรม สบส.ไฟเขียว "บ้านพักคนชรา" ให้ขออนุญาตเป็นสถานพยาบาลชั่วคราวได้
เหนื่อยหอบแน่นหน้าอก รู้ให้ชัด "โรคหัวใจ" หรือ "โควิด-19"
อาการ
- อาการในระยะแรกจะมีความรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ทั้งนี้อาจวัดไช้ได้ไม่สูงตลอด
- อาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย
- อ่อนเปลี้ยเพลียแรง ซึ่งอาจกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
- หายใจเร็วบางรายมากกว่า 30 ครั้งต่อนาที
- ความแปรปรวนในระบบทางเดินอาหาร
- ผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 80 ปี อาจล้มและมีอาการหมดแรงทันทีเป็นอาการสำคัญ
- ในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางสมองอยู่ด้วย อาจมีอาการสับสน ทับซ้อนขึ้นมาได้ และมีความผิดปกติในการรับรู้ รู้สึกตัวร่วมด้วย
- หากมีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ค่าออกซิเจนต่ำกว่า 94% หายใจหอบเหนื่อย เป็นสัญญาณอันตราย ให้รีบติดต่อโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที
อัปเดต! 12 ข้อควรปฏิบัติ กักตัว แบบ Home Isolation (HI)
รักษาความสัมพันธ์ชีวิตคู่ เมื่อต้อง “Work from home”
การอยู่ร่วมบ้านกับผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยติดเตียงในช่วงโควิดระบาด
- แยกห้องนอนผู้สูงวัย ผู้ป่วยติดเตียง ออกจากคนอื่น หากพื้นที่จำกัด ให้ใช้แผ่นกั้นห้อง หรือผ้าม่าน และเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
- แยกของใช้และการทำความสะอาด แยกภาชนะ และเครื่องใช้เป็นส่วนตัวรวมถึงการทำความสะอาด
- กำหนดพื้นที่แยกจากกัน เว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร
- แยกจุดกินอาหาร พักผ่อน ห้องน้ำ
- กำหนดจุดวางอาหาร สิ่งของให้ผู้สูงวัยมารับด้วยตนเองและวางเจลแอลกอฮอล์ไว้เพื่อล้างมือ
- ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ก๊อกน้ำ
- สังเกตอาการผู้สูงอายุทุกวัน วัดอุณหภูมิวันละ 2 ครั้ง สังเกตอาการหายใจ หากมีการติดเชื้อ อาจซึมลง ทานน้อยลง หายใจเหนื่อย
- ดูแลสภาพจิตใจ คุยกับผู้สูงอายุผ่านโทรศัพท์ วิดีโอคอลหรือถ่ายภาพส่งหากันบ่อยๆ
การดูแลผู้สูงอายุ
- ใช้ผู้ดูแลเพียงคนเดียว ไม่เปลี่ยนคน
- ควรเป็นคนที่อยู่ติดบ้าน ติดต่อคนภายนอกน้อยที่สุด
- สวมหน้ากากอนามัย ถุงมือทุกครั้ง ที่พยาบาลผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย
- ผู้สูงอายุที่หายใจลำบากหรือว่าช่วยตนเองไม่ได้ ไม่ควรสวมหน้ากากอนามัยให้
การปฏิบัติตัวของผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันโควิด-19
- ยึดหลัก DMHTT คือ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ ตรวจวัดอุณหภูมิ และตรวจเชื้อโควิด-19
- ควรรับวัคซีน เพื่อลดการเจ็บป่วยรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต
- ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น และบุคคลในครอบครัว
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน
- หากเป็นไปได้ควรแยกห้องพักและของใช้ส่วนตัว
สธ. แนะ ATK แยกขยะก่อนทิ้ง ป้องกันแพร่โควิด พร้อมเผยวิธีจัดการที่ถูกต้อง
วิธีกำจัดขยะติดเชื้อที่ถูกต้อง ช่วยลดการกระจายโควิด-19 และรักษาสิ่งแวดล้อม
การผู้สูงอายุอย่างไรไม่ให้เกิดการถดถอยของร่างกาย สมอง และ เกิดความเครียดระหว่างที่ผู้สูงอายุต้องเก็บตัวอยู่กับบ้าน
โดยยึดหลัก 5อ. ได้แก่ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ เอนกายพักผ่อน ออกห่างสังคมนอกบ้าน ดังนี้
1.อาหาร
รับประทานอาหารที่สะอาดถูกสุขลักษณะปรุงสุกใหม่ ไม่รับประทานอาหารที่หวานหรือเค็มเกินไป เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงเสริมภูมิคุ้มกัน และควรให้รับประทานอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามความต้องการของร่างกายและสมอง
ห่างจากโรคภัย! เปิดเคล็ดลับเลือกทานอาหารตาม “ธาตุเจ้าเรือน” ปรับสมดุลร่างกายให้สุขภาพดี
“อาหารเพื่อสุขภาพ” กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ครบถ้วน ?
ผู้สูงอายุมักมีปัญหาสุขภาพในช่องปากซึ่งส่งผลต่อการรับประทานอาหาร เพื่อลดความเสี่ยงที่ต้องออกมาพบทันตแพทย์ในช่วงวิกฤตนี้ ขอแนะนำผู้สูงอายุให้รักษาสุขภาพช่องปากโดยใช้สูตร 2 - 2 – 2 ดังนี้
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
- แปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที
- ไม่รับประทานอาหารหลังการแปรงฟัน 2 ชั่วโมง
หากมีฟันปลอมให้ถอดฟันปลอมออกล้างหลังรับประทานอาหาร และก่อนเข้านอนเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หลีกเลี่ยงอาหารแข็งหรือเหนียว
2.ออกกำลังกาย
ชวนผู้สูงอายุออกกำลังกายด้วยท่าง่ายๆ เช่น การเดิน หรือแกว่งแขนออกกำลังกายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 - 60 นาที หรือเท่าที่ทำได้ตามสภาพของผู้สูงอายุ
3.อารมณ์
หยุดรับข่าวสารที่มากเกินไป โดยจำกัดการติดตามข้อมูลประมาณวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและตอนเย็นหรือตอนกลางคืน เพื่อป้องกันภาวะวิตกกังวลจากการรับข่าวสารมากเกินไปไม่ควรกังวลหรือตระหนกกับข่าวร้ายให้มาก
ปรึกษาผู้รู้ใจหรือไว้ใจได้ เช่น ครอบครัว ลูกหลาน ญาติ เพื่อนๆ เพื่อระบายความไม่สบายใจ ความกังวลและความกลัวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
การทำกิจกรรมที่ผู้สูงอายุชื่นชอบ มีความถนัด มีความภูมิใจ เช่น ท้าอาหาร เล่นดนตรี วาดรูป อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ ปลูกต้นไม้ ทำสวน ฯลฯ หัวใจสำคัญที่สุด คือ ต้องรู้ก่อนว่าผู้สูงอายุในบ้านของเราชอบอะไรแล้วหากิจกรรมที่สอดคล้องกับที่เขาชื่นชอบ
สร้างความสุขให้ตนเองและสมาชิกในครอบครัวทำสิ่งที่เพลิดเพลินและมีความสุข พูดคุยเรื่องที่ทำให้มีความสุข สนุกสนาน ดูรูปภาพที่เป็นความสุขของครอบครัว
หากยังไม่ได้ผล ใช้เทคนิคจัดการความเครียด เช่น การฝึกหายใจคลายเครียด การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การนวดคลายเครียดด้วยตนเอง
หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา ยาเสพติด
โทรปรึกษาสายด่วนกรมสุขภาพจิต โทร. 1323 ถ้าพบว่ามีความผิดปกติด้านอารมณ์ หงุดหงิด ฉุนเฉียว โกรธง่าย สมาธิไม่ดี มีความคิดในแง่ลบ หมกมุ่นแต่เรื่องการระบาด และกลัวว่าตนเองจะติดเชื้อ นอนไม่หลับ ต้องพึ่งเหล้า บุหรี่ ยาและยาเสพติดมากขึ้น
4.เอนกายพักผ่อน
ผู้สูงอายุต้องพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนส้าคัญมาก ควรให้นอนประมาณไม่เกิน 3 ทุ่ม เพื่อให้พักผ่อนได้เต็มที่ยาวนาน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7 - 9 ชั่วโมง/วัน
5.ออกห่างสังคมนอกบ้าน
ระหว่างมีการระบาดทั้งผู้สูงอายุและผู้ดูแลควรเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านให้มากที่สุดแต่ญาติหรือผู้ดูแลที่ยังต้องออกไปนอกบ้านด้วยเหตุผลความจำเป็นต่างๆ ไม่ควรเข้าไปคลุกคลีกับผู้สูงอายุ รักษาระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร และควรใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่เข้าไปพูดคุยกับผู้สูงอาย
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข, กองส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิตกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, ศบค.