"หลอดเลือดแดงโป่งพอง" โรคที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการ
อีกหนึ่งโรคหลอดเลือกที่น่ากลัวไม่แพ้ โรคหลอดเลือดตีบตัน ก็คือโรคหลอดเลือดแดงโป่งพอง
หลอดเลือดแดงโป่งพอง (Aneurysm) คือ สภาวะที่หลอดเลือดขยายใหญ่ขึ้น (โป่งพอง) ซึ่งการโป่งพองของหลอดเลือดเอออร์ตา (Aorta) ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการอะไร ยกเว้นในกรณีที่หลอดเลือดแดงที่โป่งพองมีการปริแตก อาจมีอาการปวดท้อง ปวดหลัง หรือปวดในช่องอกได้เฉียบพลัน และมักจะพบร่วมกับอาการช็อก เนื่องจากมีการเสียเลือดอย่างเฉียบพลัน หลอดเลือดโป่งพองโดยทั่วไปสามารถตรวจพบได้จากการตรวจด้วยเครื่องตรวจคลื่นสะท้อนความถี่สูงหรือเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
รักษาความดันโลหิตสูงไม่สม่ำเสมอ ระวัง "หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองแตก"
หลอดเลือดหัวใจตีบตัน รู้ทันโรครีบรักษาก่อนสายเกินแก้
สาเหตุบอกโรค
สาเหตุหลักของโรคนี้ คือ
- การสูบบุหรี่
- ภาวะความดันโลหิตสูง
- ภาวะไขมันในเลือดสูง
- น้ำหนักเกิน
- ความเครียด
- กรรมพันธุ์
รักษาหลอดเลือดแดงโป่งพอง
การรักษามี 2 วิธีหลัก ได้แก่
1.การผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเลือดแดง
การผ่าตัดหลอดเลือดแดงโป่งพอง หลอดเลือดที่ผิดปกติจะถูกตัดออกและใส่หลอดเลือดเทียมที่เรียกว่า WOVEN GRAFT แทน วิธีนี้ศัลยแพทย์จำเป็นต้องผ่าตัด ซึ่งแผลผ่าตัดอาจมีขนาดใหญ่ ไม่ว่าเป็นที่ช่องอกหรือช่องท้อง ซึ่งโดยปกติผู้ป่วยอาจต้องอยู่โรงพยาบาลประมาณ 7 – 10 วัน และใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน
2.การรักษาด้วยขดลวดดามหลอดเลือดจากภายในหรือที่เรียกว่า ENDOVASCULAR REPAIR
วิธีการรักษาที่เรียกว่า ENDOVASCULAR REPAIR เป็นการรักษาจากภายในหลอดเลือดเอง โดยการใส่ขดลวดที่หุ้มด้วยใยสังเคราะห์ผ่านทางแผลผ่าตัดขนาดเล็กที่ขาหนีบ ขดลวดดังกล่าวจะถูกใส่ตรงตำแหน่งที่หลอดเลือดโป่งพอง ทำให้เลือดไม่สามารถไหลผ่านหลอดเลือดที่โป่งพองได้ หลอดเลือดที่โป่งพองจะค่อย ๆ ฝ่อไปในที่สุด ผู้ป่วยจะมีแผลขนาดเล็กและพักฟื้นในโรงพยาบาลไม่นาน สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็ว
ไขมันในเลือดสูง ทำเสี่ยงโรคหลอดเลือดตีบตัน
"โรคฝีดาษลิง" คืออะไร เผยอาการ วิธีการติดต่อ และการป้องกัน
ป้องกันหลอดเลือดแดงโป่งพอง
การดูแลป้องกันตนเองจากหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ทำได้โดยตรวจสุขภาพปีละ 1 ครั้งในผู้ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี แต่หากอายุ 45 ปีขึ้นไป ควรตรวจร่างกายโดยใส่ใจการเอกซเรย์ปอด อัลตราซาวนด์ช่องท้อง ตรวจการทำงานของตับ ไต ทดสอบประสิทธิภาพของหัวใจ
สำหรับคนที่อายุ 30 – 45 ปีเป็นช่วงอายุกึ่งกลาง ที่ต้องดูจาก 7 ปัจจัยเสี่ยงข้างต้น หากพบว่าน้อยกว่า 3 ประการก็สามารถตรวจสุขภาพเหมือนคนอายุ 30 ปี แต่หากพบปัจจัยเสี่ยงมากกว่า 3 ประการ ควรตรวจสุขภาพเหมือนคนอายุ 45 ปีขึ้นไป แต่หากพบว่า หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองในช่องท้องแตก ต้องรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด ยิ่งเร็วยิ่งมีโอกาสรอด
อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงคือการป้องกันที่ดีที่สุด ควรรับประทานอาหารให้เหมาะสม ไขมันน้อย แคลอรี่ต่ำ เปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะจะทำให้ความดันโลหิตต่ำลง ชีพจรเต้นช้าลง ทำให้แรงกระแทกภายในหลอดเลือดแดงใหญ่น้อยลง โอกาสเกิดโรคหลอดเลือดแดงโป่งพองก็น้อยลงเช่นกัน และควรลดความเสี่ยงด้วยการไม่ทานอาหารที่กระตุ้นทำให้ความดันโลหิตสูงและชีพจรเต้นเร็ว เช่น คาเฟอีน และอย่าเครียด เพราะหัวใจของเรามีดวงเดียว การดูแลถนอนมให้แข็งแรงอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับร่างกายอันมีคุณค่าของทุกคน
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลกรุงเทพ
"วราวุธ"สั่งกรมอุทยานฯตรวจสุขภาพลิงในประเทศ-ห้ามขนย้ายสัตว์ข้ามแดน