10 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ "โรคหัวใจ" ที่ควรทำความเข้าใจใหม่ให้ถูกต้อง
ความเชื่อผิดๆอาจทำให้เกิดการป้องกันและการดูแลที่ไม่ถูกวิธี ซึ่งหัวใจเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย จึงควรรู้และดูแลอย่างถูกต้อง
นับจากวินาทีแรกที่ได้ยินเสียงหัวใจเต้น นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความมีชีวิตของคนเรา หัวใจจึงเป็นอวัยวะสำคัญที่ควรใส่ใจดูแล ไม่ใช่เพียงเพื่อให้เราได้ยินเสียงหัวใจเต้นอยู่ได้นานที่สุด แต่เพื่อให้เสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีของชีวิต
อย่างไรก็ตาม โรคหัวใจยังถือว่าเป็นภัยร้ายของคนไทย จากสถิติพบว่าโรคหัวใจติดอันดับ 1 ใน 3 โรคที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดมาตลอด ปัจจุบันก็มีแนวโน้มสถิติเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี
5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ "โรคความดันโลหิตสูง"
"หลอดเลือดแดงโป่งพอง" โรคที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการ
เหตุเพราะรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป เต็มไปด้วยความเร่งรีบและตึงเครียด เรื่องอาหารการกินที่เปลี่ยนมานิยมอาหารฟาสต์ฟู้ดส์ สูบบุหรี่ อ้วน หรือไม่ออกกำลังกาย เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญของโรคหัวใจ
อีกทั้งยังมีเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับหัวใจแบบผิดๆ ทำให้ได้รับการป้องกันดูแลกันไม่ถูกวิธี ซึ่งความเชื่อผิดๆและข้อเท็จจริงมีดังต่อไปนี้
1. ความเชื่อ: คนอายุน้อย คนผอม ระดับไขมันในเลือดปกติจะไม่มีโอกาสเป็นโรคหัวใจ
ความจริง: ในคนอายุน้อยและระดับไขมันเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีโอกาสเกิดโรคน้อยกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิด เพราะโรคหัวใจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม และยังพบภาวะหัวใจวายเฉียบพลันในกลุ่มคนอายุน้อยหรือนักกีฬาจากสาเหตุโรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมชนิดหนาตัว (Hypertrophic Cardiomyopathy)
2. ความเชื่อ: คนที่เป็นโรคหัวใจห้ามออกกำลังกาย
ความจริง: การออกกำลังกายช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น เพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมองและอวัยวะภายใน และทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น แต่ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ที่ดูแลเป็นรายบุคคล
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หนึ่งในกลุ่ม NCDs ตัวร้ายอันตรายถึงชีวิต
6 โรคยอดฮิต "เด็ก" เสี่ยงเป็นมากที่สุดในหน้าฝน
3.ความเชื่อ: เมื่อรับประทานยาลดไขมันแล้ว สามารถรับประทานอาหารอะไรก็ได้
ความจริง: ไขมันในเลือดสร้างมาจากตับและมาจากแหล่งอาหาร เมื่อรับประทานยาลดไขมันจะช่วยลดไขมันที่สร้างมาจากตับ แต่ไม่ได้ช่วยลดไขมันที่มาจากอาหาร หากรับประทานอาหารที่มีไขมันมากก็จะทำให้ระดับไขมันในเลือดเพิ่ม
4.ความเชื่อ: คนที่เป็นเบาหวานและรับประทานยาคุมเบาหวานจะไม่มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
ความจริง: การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจะช่วยลดหรือทำให้โรคหัวใจพัฒนาได้ช้าลง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและเส้นเลือดสมองแตก ตีบ ตัน (Stroke) ได้ เนื่องจากน้ำตาลในเลือดที่สูงจะทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติ และทำลายผนังหลอดเลือด กระตุ้นให้เกิดการอักเสบในเส้นเลือด ส่งผลทำให้เส้นเลือดเปราะง่ายขึ้น
5.ความเชื่อ: ความดันโลหิตสูงเป็นเรื่องปกติของผู้สูงอายุ
ความจริง: ถึงแม้ว่าความดันโลหิตในผู้สูงอายุจะมีแนวโน้มสูงกว่าปกติจากผนังหลอดเลือดแข็งตัวขึ้น ความดันโลหิตสูงทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นเพื่อบีบเลือดไปเลี้ยงร่างกาย กล้ามเนื้อหัวใจที่ทำงานหนักขึ้นก็เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหัวใจวาย และโรคเส้นเลือดสมอง แตก ตีบ ตัน (Stroke) ได้ จึงควรควบคุมความดันโลหิตไม่ให้เกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท
6.ความเชื่อ: ไม่จำเป็นต้องตรวจไขมันในเลือดจนกว่าจะอายุเข้าสู่วัยกลางคน
ความจริง: การตรวจไขมันเลือดตั้งแต่อายุน้อย ๆ จะช่วยป้องกันความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ โดยเฉพาะหากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ สมาคมโรคหัวใจอเมริกา ได้แนะนำให้ตรวจระดับไขมันในเลือดทุก ๆ 5 ปี หลังอายุครบ 20 ปี
7.ความเชื่อ: ผู้หญิงจะไม่เป็นโรคหัวใจ เพราะมีฮอร์โมนเพศหญิงควบคุมไม่ให้เป็นโรค
ความจริง: การเกิดโรคหัวใจเป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง และพบในผู้หญิงมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอายุมากกว่า 65 ปีขี้นไป
8.ความเชื่อ: หากในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ เราก็ต้องเป็น ไม่สามารถป้องกันได้
ความจริง: ถึงแม้ว่าคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจจะมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจสูงกว่า แต่ก็สามารถลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้ โดยการควบคุมความเสี่ยงของการเกิดโรค คือ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมระดับไขมัน ความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมน้ำหนัก และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
9. ความเชื่อ: หากป่วยเป็นโรคหัวใจต้องงดอาหารที่มีไขมันทั้งหมด
ความจริง: ไขมันที่ต้องงดคือ ไขมันอิ่มตัว ไขมันที่ผ่านขบวนการเติมไฮโดรเจน หรือไขมันทรานส์ หลีกเลี่ยงขนมขบเคี้ยว เบเกอรี่ คุกกี้ ไขมันจากสัตว์ แต่ไขมันที่มีประโยชน์ก็สามารถรับประทานได้ เช่น ไขมันไม่อิ่มตัวจากพืช ปลาที่มีไขมัน เช่น แซลมอน ถั่วต่าง ๆ และน้ำมันมะกอก ซึ่งมีโอเมก้า 3 มีประโยชน์ต่อร่างกาย
10. ความเชื่อ: ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Heart Attack) ต้องเริ่มจากมีอาการแน่นหน้าอก
ความจริง: ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมีอาการแน่นหน้าอกเริ่มก่อน แต่ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอาจแสดงอาการอย่างอื่นเช่นกัน คือ หายใจไม่อิ่ม หายใจสั้น คลื่นไส้ ปวดหัว หรือรู้สึกไม่สุขสบายบริเวณ แขน กราม คอ และหลัง ในคนที่เป็นโรคหัวใจ หากมีอาการสงสัยต้องรีบมาโรงพยาบาล หรือเรียกรถพยาบาลทันที
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ
สภาพอากาศวันนี้!มรสุมพาดผ่านไทย เตือนฝนตกหนัก 41 จว. กทม.โดนบ่ายถึงค่ำ