5 วิธีบริหารจัดการความเครียด รับมือกับความผิดหวัง
ปัจจุบันหลายคนเจอปัญหาไม่เหมือนกัน อาจทำให้เครียดและวิตกกังวลในหลายเรื่อง แนะ5เทคนิคคลายเครียด
ความเครียด เป็นสภาวะของอารมณ์ของคนที่ต้องเจอกับปัญหาต่างๆ บางคนแสดงออกมา แต่บางคนเก็บไว้ข้างในและแสดงออกมาด้วยโรคต่างๆ อาทิ เครียดลงกระเพาะ ความดันโลหิตสูง ไมเกรน โรคนอนไม่หลับ ตลอดจนโรคหัวใจ ด้านจิตใจอาจสุ่มเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าอารมณ์และพฤติกรรมรุนแรงขึ้นได้อีกด้วย โดยความเครียดเกิดได้จากหลายปัจจัย อาทิ ความไม่สบายใจ ความวิตกกังวล ความคาดหวัง หากเรารู้วิธีจัดการ และบรรเทาความเครียดต่างๆ เหล่านั้นได้ อย่างน้อยก็ช่วยให้เราพร้อมรับมือกับความเครียดได้มากขึ้น
เทคนิคหยุดพักหายใจ ภายใน 90 วินาที คลายเครียด ลดความวิตกกังวล
3 ธัญพืชยอดนิยม กินแล้วอารมณ์ดี ช่วยบำรุงสมองและหัวใจ
วิธีคลายเครียด อยู่กับตัวเองฮิลจิตใจ
- ออกกำลังกาย ขยับนิด ยืดเส้นหน่อย
เมื่อเราเครียด ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) จะทำงานอย่างหนัก เราสามารถแก้ได้โดยการให้ฮอร์โมนเอนดอร์ฟีนทำงานบ้างด้วยการออกกำลังกาย หลายคนกลัวการออกกำลังกายเพราะคิดว่าจะทำให้เราเหนื่อยมากกว่าเดิม แต่เราไม่จำเป็นต้อง ออกกำลังกายหนัก อย่างน้อยๆ ถ้าเรารู้สึกตัวว่ากำลังเครียดอยู่ การได้ออกจากโต๊ะทำงานไปยืดเส้นสาย หรือเดินขึ้นลงบันไดอาจทำให้เราหลุดโฟกัสเรื่องเครียดสักพักหนึ่ง หรือแค่เดินปกติสัก 10 นาที ให้ได้ผลทางจิตใจมากกว่าร่างกายโดยการหักเหเรื่องเครื่องไปสนใจในเรื่องทางบวกมากขึ้นแต่ถ้ามีเวลาหลังเลิกงานควรจะไปออกกำลังกายอย่างจริงจัง อย่างน้อยวันละ 30 นาที แค่ 3 - 5 วันต่อสัปดาห์ก็เพียงพอให้ฮอร์โมนแห่งความสุขทำงานได้อย่างเต็มที่บ้าง อีกทั้งการวิ่งหรือออกกำลังกายจะทำให้เราได้คิดทบทวนบางเรื่องได้ดีอีกด้วย
- นั่งสมาธิ ฝึกจิต
หากลองสังเกตตัวเองเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกเครียด จะเหมือนมีก้อนความคิดบางอย่างวิ่งอยู่ในหัวตลอดเวลา ซึ่งเมื่อมีความเครียดวิ่งวนอยู่ในหัวตลอดทำให้เราต้องคิดซ้ำไปซ้ำมาในเรื่องเครียดนั้นๆ เราจะจัดการแก้ปัญหากับมันอย่างไรดี การจมอยู่กับความเครียดอาจทำให้เราไม่อยากทำอย่างอื่นเลย ดังนั้น การแก้ปัญหาง่ายๆ เมื่อรู้สึกวิตกกังวลมากเกินไป ลองหาเวลาทำสมาธิ หรือสวดมนต์ไหว้พระ ฝึกลมหายใจ ลองกำหนดลมหายใจเข้า - ออกง่ายๆ ทำให้ชีพจรเต้นช้าลง เอาใจไปโฟกัสการกำหนดลมก็ทำให้เราลืมเรื่องเครียดๆ ไปได้ประมานหนึ่งเลยล่ะ
- จัดสรรเวลาในชีวิตประจำวัน
เป็นหนึ่งในวิธีที่คลายเครียดได้ดี โดยการยึดหลัก “Work Life Balance” ที่เราได้ยินกันมานานแล้วแต่หลายคนยังคงไม่สามารถทำได้ นอกจากการจัดสรรเวลาการทำงาน และการใช้ชีวิตส่วนตัวให้ดีจะช่วยให้ชีวิตส่วนตัวดีขึ้นแล้ว ยังช่วยในเรี่องของการที่เราไม่เอาความเครียดต่างๆ ไปให้กับครอบครัวด้วย 8 ชั่วโมงการทำงานหลังจากนั้นควรจะหยุดคิดเรื่องงาน ไม่นำงานไปทำในขณะที่ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ให้โฟกัสกับเรื่องครอบครัว และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
อาการ“กล้ามเนื้อหัวใจตาย”ภัยแฝงความเครียด กว่าครึ่งเสียชีวิตทันที
- การดูหนัง ฟังเพลง ทำกิจกรรมที่ชอบ
การที่เราเอาตัวเองออกมาจากความเครียดได้สักพักหนึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีได้ทำตามใจตัวเองบ้าง เช่น การนอนดูหนัง ฟังเพลงสบายๆ หรือออกไปหากิจกรรมทำที่นอกจากการนั่งจมกับความคิดเครียดๆ แน่นอนว่าช่วยให้สมองปลอดโปร่งสักพัก และอาจทำให้เรากลับมาคิดแก้ไขปัญหาหรือเรื่องเครียดได้ด้วย
- ปรับเปลี่ยนความคิด
ทางวิทยาศาสตร์พบว่าความคิดสัมพันธ์กับสมอง เมื่อคิดอย่างหนึ่งสมองก็จะตอบสนองไปตามนั้น หากเราตกอยู่ในภาวะเครียดเรื่องงาน สุขภาพ หรือเพื่อนร่วมงาน วิธีการคือให้เอาตัวเองออกจากความเครียดนี้ด้วยการลองปรับมุมมองปัญหาต่างๆ เอาตัวเองออกมายืนเป็นคนนอกดูบ้าง อาจทำให้เราเห็นสาเหตุของปัญหาและวิธีแก้ไขได้ง่ายกว่าการเอาตัวเองไปจมอยู่กับตรงนั้น หรือหากเรามองข้ามเรื่องเล็กน้อย และยอมรับข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นของงานหรือเพื่อนร่วมงาน อาจทำให้เราเข้าใจสถานการณ์ และหายเครียดได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังน่าจะป้องกันตัวจากความทุกข์ต่างๆ ได้ดีอีกด้วย
เมื่อพยายามดูแลสุขภาพจิตแล้วก็ต้องไม่ลืมดูแลสุขภาพกายด้วยการรับประทานอาหาร และนอนหลับให้เพียงพอ ก็จะช่วยบรรเทาความเครียดที่เกิดขึ้น และอย่าลืมว่าชีวิตของคุณไมได้มีเพียงด้านเดียวลองเอาตัวเองออกมาจากกรอบและมองให้รอบด้าน มองถึงข้อดีของปัญหา ปลดปลงและปล่อยให้บางอย่างไหลไปตามกระแสของมัน เพราะบางอย่างเราไม่สามารถเอาตัวเข้าไปขวางทุกเรื่องได้ มีสติบางครั้งอาจทำให้คุณมองเห็นทางออกก็ได้นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล
วัดระดับความเครียด รับมือก่อนลุกลามอันตรายทั้งตัวเองและผู้อื่น
“เครียด” เสพติดได้โดยไม่รู้ตัว รู้ทันก่อนหมวกไตล้า