กลุ่ม 608 ที่ได้วัคซีนไม่ครบ ควรสวมแมสก์เมื่ออยู่กับคนอื่น แม้ศบค.ผ่อนคลาย
กระทรวงสาธารณสุข ย้ำกลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ควรสวมหน้ากากเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นตลอดเวลา แม้ ศบค.ให้ถอดหน้ากากได้ แต่เน้นความสมัครใจของแต่ละบุคคล
เช็กที่นี่! มติศบค. ปรับพื้นที่สีเขียว- ถอดหน้ากากอนามัย ดีเดย์ 1 ก.ค. นี้
สธ.อัปเดต! สูตรการฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น ให้ฉีดทุก 4 เดือน
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แนวโน้มการติดเชื้อ โควิด-19 ลดลง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จึงมีมติเห็นชอบ ให้ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักรเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 77 จังหวัด และยังเห็นชอบผ่อนคลาย ให้ถอดหน้ากากได้ นอกอาคารหรือที่โล่งแจ้ง โดยเน้นความสมัครใจของแต่ละบุคคล ซึ่งเริ่มดำเนินการได้หลังประกาศราชกิจจานุเบกษา
โดยกลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ควรสวมหน้ากาก เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น รวมทั้งผู้ติดเชื้อ และผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เมื่อจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นเช่นเดียวกัน สำหรับประชาชนทั่วไป หากเป็นสถานที่ภายนอกอาคาร ที่โล่งแจ้ง ถอดหน้ากากได้ แต่ให้สวมหน้ากาก เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น โดยไม่สามารถเว้นระยะห่าง มีความแออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก หรือมีการระบายอากาศไม่ดี เช่น ขนส่งสาธารณะ ตลาด สนามกีฬา หรือสถานที่แสดงดนตรีที่มีผู้ชม เป็นต้น
ทั้งนี้เมื่ออยู่ภายในอาคาร ให้สวมหน้ากาก สามารถถอดได้ในกรณีที่อยู่คนเดียว หากอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่พำนักเดียวกัน ต้องสามารถเว้นระยะห่างได้ ไม่รวมกลุ่มแออัด ให้อยู่ในที่ระบายอากาศได้ดี และกรณีมีกิจกรรมที่จำเป็น ต้องถอดหน้ากาก เช่น รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย บริการบริเวณใบหน้า ศิลปะการแสดง เป็นต้น โดยให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เมื่อกิจกรรมนั้นเสร็จสิ้น ควรสวมหน้ากากทันที
“สำหรับสถานที่ประกอบกิจการหรือกิจกรรมได้กำหนดเงื่อนไข ดังนี้ 1. ผู้ให้บริการ ขอให้สวมหน้ากากตลอดเวลาขณะให้บริการ โดยได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเข็มกระตุ้น ให้ตรวจ ATK เมื่อมีอาการ หรือมีความเสี่ยง ส่วนผู้ติดเชื้อ ให้งดมาปฏิบัติงาน และผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงไปทำงานได้ แต่ให้แยกพื้นที่กับผู้อื่น 2. สถานที่ ให้ปฏิบัติตามหลักของสุขาภิบาล และอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด โดยจัดให้มีอุปกรณ์และสถานที่ล้างมือ อย่างเพียงพอ มีการทำความสะอาด มีการจัดการของเสีย ส้วมและสิ่งปฏิกูลเป็นไปตามมาตรฐาน พื้นที่สัมผัส/อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน ให้ทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง จัดให้มีการระบายอากาศ และกำหนดความจุคนในอาคารให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า จากข้อมูลการสำรวจอนามัยโพลของกรมอนามัย เกี่ยวกับมาตรการสวมหน้ากากตลอดเวลาในสถานที่สาธารณะ และสถานประกอบการ พบว่า ประชาชนร้อยละ 93.3 เห็นว่ายังคงต้องสวมหน้ากากต่อไป มีเพียงร้อยละ 6.7 ที่เห็นว่าให้เลิกทำ ดังนั้น เมื่อต้องสวมหน้ากากทุกครั้ง จึงต้องสวมให้ถูกวิธี และให้กระชับกับใบหน้า
สำหรับกลุ่ม 608 คือ กลุ่มผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัวในกลุ่ม 7 โรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และกลุ่มสุดท้าย หญิงตั้งครรภ์