โอมิครอน Ba.5 แพร่ได้ดีกว่าเดิม ดื้อต่อภูมิคุ้มกันถึง 3 เท่า
หมอธีระเผยข้อมูลโอมิครอน Ba.5 มีสมรรถนะในการแพร่มากกว่ารุ่นเดิม ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่า BA.1 ราว 3 เท่า
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat อัพเดตสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในไทยและทั่วโลก โดยส่วนหนึ่งของโพสต์ได้กล่าวถึงโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 ทั้งความสามารถในการแพร่ระบาดและดื้อภูมิคุ้มกันโดยระบุว่า
BA.5 เป็นลูกหลานในตระกูล Omicron ที่กลายพันธุ์แตกออกมา โดยมีลักษณะพันธุกรรมแตกต่างจากรุ่นดั้งเดิมอย่าง BA.1 และต่างจากรุ่นพี่ BA.2 มาก
จับตาโควิด Ba.4 และ Ba.5 ทำปอดอักเสบ หนีภูมิ "ติดเชื้อ - วัคซีน" ได้
เหนื่อยง่าย หลังป่วยโควิด-19 รู้ชัดจะหายหรือไม่ ต้องดูแลอย่างไร
ในแง่ความแข็งแรงหรือ fitness ของไวรัสนั้น หากเทียบกันในแต่ละสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นรอบสองปีกว่าที่ผ่านมา จะพบว่า ไวรัสโรคโควิด-19 มีความแข็งแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สายพันธุ์อู่ฮั่น D614G อัลฟ่า เดลต้า จนมาถึง Omicron BA.1 BA.2 ที่สูงสุดตามลำดับ
แต่สำหรับ BA.5 นั้นแม้จะยังไม่ได้คำนวณและพล็อตลงไปในกราฟก็ตาม ข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ชี้ให้เห็นว่ามีสมรรถนะในการแพร่มากกว่ารุ่นพี่อย่าง BA.1 และ BA.2 อย่างชัดเจน โดยมีอัตราการเติบโต/ขยายเพิ่ม สูงกว่า และดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่า BA.1 ราว 3 เท่า ทำให้ได้รับการประเมินว่าจะมี Viral fitness สูงกว่าทุกสายพันธุ์ที่เคยมีมา
ด้วยข้อมูลข้างต้น ทำให้เราต้องตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันตัว ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้นมีความจำเป็น เพื่อลดโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เน้นย้ำว่า แม้จะฉีดวัคซีนแล้ว หากไม่ป้องกันตัว ก็จะติดเชื้อได้ ป่วยได้ ตายได้ และมีโอกาสเกิดภาวะผิดปกติระยะยาวอย่าง Long COVID
ดังนั้น การออกตะลอนนอกบ้าน ทำมาค้าขาย ศึกษาเล่าเรียน ทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันนั้น จึงควรใส่หน้ากากเสมอ ให้คุ้นชิน เป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกาย จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อได้มาก
ใส่หน้ากากนะครับ...สำคัญมาก
อ้างอิง: UK HSA, Topol E., และ Bedford T.
ตัวเหลือง ตาเหลือง สัญญาณเตือนจากร่างกาย ภัยร้ายมากกว่าที่คิด
“หมอพร้อม” มี 2 ฟังก์ชันใหม่ ประเมินภาวะลองโควิด - ตรวจสุขภาพใจ