เพจดังแชร์ภาพ เด็กตาแดง-เลือดกำเดาไหล คาดปัญหาสะสมจากฝุ่นพิษ PM 2.5
คุณแม่ที่อยู่จังหวัด เชียงใหม่ แชร์ประสบการณ์ PM2.5 สุดอันตราย ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "Drama-addict" ลูกสาว 9 ขวบเลือดกำเดาไหลรุนแรง เผยนอกจากกระทบระบบหายใจ ยังมีผลกับดวงตาด้วย
สถานการณ์ฝุ่นPM2.5 ยังคงน่ากังวลและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างหนัก ล่าสุดแม่รายหนึ่งตัดสินใจ นำภาพและข้อความผ่านเพจ Drama-addict เผยให้เห็น "ทิชชูเปื้อนเลือด" ซึ่งเป็นเลือดกำเดาของ ลูกสาว อายุ 9 ขวบ พร้อมอ้อนวอนเพจร่วมให้เป็นกระบอกเสียง เนื่องจากชาวเชียงใหม่และประชาชนในจังหวัดอื่นๆ ต้องสูดฝุ่นพิษมาหลายปีแล้ว โดยเธอบอกว่า เลือดกำเดาลูกไหลเป็นน้ำ ใช้ทิชชูซับเลือดเยอะกว่านี้ แต่ด้วยความตกใจ ขยำทิ้งไปแล้ว เหลือเพียงเท่านี้
ฝุ่น PM 2.5 วันนี้! เกินมาตรฐาน 39 จว. เชียงใหม่-กทม.ติดท็อปโลก
ฝุ่น PM2.5 กระตุ้นภูมิแพ้-ปวดหัวไมเกรน อาการแพ้และวิธีการหลีกเลี่ยง
จากกรณีที่ ได้มีการแชร์เรื่องราวจากสมาชิกเพจ " Drama-addict" ส่งภาพทิชชู่ซับเลือดกำเดา โดยระบุข้อความว่าลูกเพจจากเชียงใหม่ฝากมาครับ สวัสดีค่ะจ่าอยู่เชียงใหม่ค่ะ ลูกสาว 9 ขวบ เลือดกำเดาไหลเป็นน้ำเลยค่ะทิชชูซับเลือดเยอะกว่านี้ แต่ด้วยความตกใจ ขยำทิ้งไปแล้วเหลือซากเท่านี้ค่ะยังไงจ่าช่วยเป็นกระบอกเสียงให้เด็กๆในเชียงใหม่ด้วยนะคะสูดฝุ่นควันพิษ มาหลายปีต่อเนื่องอยู่บ้านก้อเปิดเครื่องฟอกทั้งวัน ในรถก้อเปิดเครื่องฟอกแต่เวลาออกด้านนอก มันเลี่ยงไม่ได้จิงๆค่ะ
จากนั้นได้มีการร้องเรียนเข้ามาต่อเนื่องผ่านทางเพจ อย่างกรณีนี้ ที่ส่งภาพเด็กชายตาแดงที่อาศัยอยู่จังหวัดเชียงใหม่เช่นกัน
ในคนที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว จะทำให้อาการภูมิแพ้ที่ตา เช่น ตาแดง คัน เคืองตา และขี้ตา เป็นมากขึ้น ในคนปกติทั่วไป จะทำให้ตาแห้ง และเป็นตาแดงง่ายขึ้น
ในเวลาต่อมา เพจ " Drama-addict" ได้โพสต์ภาพของลิ่มเลือดกำดาว และ ข้อความว่า
คุณแม่อีกท่านฝากมา ลูกสาวคนกลางก็เลือดกำเดาไหล และผื่นขึ้นเต็มตัว เหมือนกันคะเวลาออกนอกบ้าน หรือเปิดประตูหน้าต่างริมระเบียงคอนโดพระราม3หาหมอที่ศิริราชปิยการุณย์อาการนี้มีมาตั้งแต่ฝุ่น PM บุกมาใหม่ๆ จะหายไปก็พร้อมฝุ่นหนักมากเลยค่าเลือกตกอยู่ประมาณต่ำเลยคะน้องกดอัดคลิปไว้ตอนแม่คุยกับหมอพอดีขออภัยที่คลิปไม่น่าดูนะคะคุณแม่ต้องถ่ายเอาไว้ให้คุณหมอดูเพราะตอนนั้นหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมลูกเลือดไหลบ่อย ถี่ ใน 1 วันลูกต้องทานยาเยอะมากๆคะค่าเลือดตกจนแทบจะต้องให้เลือด
ปัจจุบัน องค์การอนามัยโลก หรือ WHOได้จัดให้ PM 2.5 เปรียบเสมือนสารก่อเกิดมะเร็ง ( Carcinogen) อย่างหนึ่ง และหากเราหายใจในสภาพอากาศที่มีฝุ่นชนิดนี้อยู่มาก นานวันเข้าก็ทำให้เกิดอันตรายและเกิดโรคต่างๆ ได้อีกมาก เช่น โรคเยื่อบุตาอักเสบ,ภูมิแพ้ที่ตาเรื้อรัง,โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง,โรคหลอดเลือดในสมอง,โรคผิวหนังอักเสบ และหากสูดเข้าปอดเป็นเวลานานหลายปี ก็จะเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งปอด และมะเร็งอื่นๆ ได้
จะเห็นได้ว่า ฝุ่น PM 2.5 สามารถสร้างอันตรายได้อย่างหลากหลายหากสะสมเป็นเวลานาน และที่สำคัญดวงตาก็เป็นหนึ่งในคือ
- โรคเยี่อบุตาขาวอักเสบ หรือโรคตาแดงเรื้อรัง จนทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียแทรกซ้อนเพราะเยี่อบุตาขาวอ่อนแอ
- โรคกระจกตาอักเสบ และหากขยี้ตาจะส่งผลให้กระจกตาถลอกได้ง่าย เนื่องจากกระจกตาอ่อนแอ
- โรคเยื่อบุตาเป็นภูมิแพ้เรื้อรัง ในคนที่มีภูมิแพ้จมูกอยู่แล้วจะทำให้ภูมิแพ้ตากำเริบมากขึ้น จะมีอาการตาแดง เคืองตา คันตา เปลือกตาบวม มีขี้ตาเป็นเมือกสีขาว
- ทำให้เกิดอาการตาแห้ง
ใครบ้างที่มีความเสี่ยงเป็นอันตรายเมื่อได้รับฝุ่ง PM 2.5
- กลุ่มเด็กเล็ก
- กลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการเหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว และแน่นหน้าอก
- กลุ่มหญิงตั้งครรภ์
- กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิแพ้ที่ตา โรคปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้จมูก โรคภูมิแพ้ผิวหนัง และโรคของภูมิต้านทานบกพร่อง
แพ้ฝุ่น PM2.5 ดูแลตัวเองอย่างไร? เมื่อภูมิแพ้ผิวหนังกำเริบ
การดูแลและการป้องกันอันตรายจาก PM 2.5
- ใส่แว่นตาป้องกันฝุ่นและลมทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
- ใส่หน้ากากอนามัยปิดจมูกและปิดปากทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร หากใช้หน้ากาก N95 ก็จะป้องกันได้ดีกว่าหน้ากากธรรมดา
- ใช้สายตา 30 นาทีและพักสายตา และทุกๆ การจ้องมองจอโทรศัพท์มือถือนานติดต่อกันเกิน 10 นาที ควรพักสายตาเพื่อลดอาการตาแห้ง ปวดตา
- หยอดน้ำตาเทียมวันละ 4 ครั้ง ในกลุ่มที่มีอาการตาแห้งอาจหยอดทุก 2 ชั่วโมง
- ไม่ควรล้างตาบ่อยๆ เพราะจะทำให้ตาแห้งมากขึ้น หากต้องการล้างตาให้ใช้น้ำตาเทียมล้างแทน
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อลดอาการตาแห้ง
- ทำความสะอาดบ้านให้ปลอดจากฝุ่น ปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด
- ไม่ควรออกนอกบ้าน หรือทำกิจกรรมนอกบ้านในวันที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- กินอาหารที่มีประโยชน์ ทานผักและผลไม้ที่ให้วิตามิน
หากพบว่าตาอักเสบไม่หาย หรือร่างกายมีความผิดปกติควรไปพบแพทย์ ไม่ควรรอให้มีอาการมาก เพราะจะทำให้การรักษายากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท
อัตราป่วย“มะเร็งปอด” จากฝุ่น PM2.5 สูงขึ้น แนะกลุ่มเสี่ยงหลีกเลี่ยงพื้นที่โล่งแจ้ง
สธ. เผย ต้นปีพบผู้ป่วยจากฝุ่น PM2.5 แล้ว 1.32 ล้านคน คาดสัปดาห์นี้ แนวโน้มดีขึ้น