สธ.รับยอดติดโควิดจริง เยอะกว่าที่รายงานเท่าตัว ห่วงเด็กเล็กเสี่ยงเสียชีวิต
สธ.เผย พบเด็กเล็กติดโควิดมากขึ้น โดยเด็กวัย 0-6 เดือนเสี่ยงอาการรุนแรง เด็กอายุ 0-4 ปี เสียชีวิตแล้ว 27 ราย ย้ำผู้ปกครองต้องสังเกตอาการเด็กที่มีโรคประจำตัวอย่างใกล้ชิด ขณะที่การรายงานยอดผู้เชื้อรายวัน ก็ยอมรับว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจริงมากกว่านี้ประมาณเท่าตัว เพราะมีคนจำนวนมากที่ตรวจ ATKเอง รักษาเอง หายเอง
คนไข้โควิด-19ป่วยหลอดเลือดสมอง "สถาบันประสาทวิทยา" รักษาจนปลอดภัย
ไขข้อสงสัย โควิด-19 ลูกผสมเกิดได้อย่างไร พันธุ์ XE และ XJ ในไทยยังต้องจับตา
วันนี้ (5 เม.ย.65ฝ) ประเทศไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด จากผลตรวจ RT-PCR จำนวน 21,088 ราย และจาก ATK จำนวน 10,884 ราย รวมแล้วประมาณ 31,972 ราย
พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ระบุว่า โดยรวมผู้ติดเชื้อที่มีการรายงานจะอยู่ที่ 3-4 หมื่นรายต่อวัน แต่ยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งที่ตรวจด้วยตัวเองแล้วผลเป็นบวกอีกจำนวนหนึ่ง เฉลี่ย 5-6 หมื่นรายต่อวัน โดยยืนยันว่า จำนวนนี้ยังอยู่ในการคาดการณ์ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
โดยในจำนวนนี้มีอาการปอดอักเสบ 1,862 ราย และที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 781 ราย ทั้งฝี้ผู้ป่วยอาการหนัก มีทิศทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนยอดการติดเชื้อ โดยอัตราครองเตียงมีสัดส่วนอยู่ที่ 1 ใน 3 ของเตียงทั้งหมด ซึ่งระบบสาธารณสุขยังรองรับได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยอาการหนักขณะนี้เทียบกับการติดเชื้อช่วง เม.ย.ปีที่แล้ว ยังถือว่าน้อยกว่ามาก
ทั้งนี้ประเด็น จำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยปอดอักเสบ และเสียชีวิตยังเป็นไปตามคาดการณ์ อย่างกรณีผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจสถานการณ์จริงอยู่ระหว่างเส้นคาดการณ์สีเหลืองและสีแดง ซึ่งถือว่ายังมีทิศทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ช่วงสงกรานต์ที่หยุดยาวอาจมีโอกาสเพิ่มขึ้นไปอีก จึงต้องให้ความสำคัญกับมาตรการ VUCA คือ V ไปรับการฉีดวัคซีน หากยังไม่ได้เข็มแรกก็ควรไปรับ หรือรับครบแล้วก็ควรรับเข็มกระตุ้น เพื่อลดอาการหนักและเสียชีวิต ป้องกันตนเองตลอดเวลา (Universal Prevention)
สำหรับสถานการณ์ผู้เสียชีวิต วันนี้รายงาน 91 ราย ยังอยู่ในเส้นคาดการณ์สีเหลือง ภาพรวมยังเพิ่มขึ้นช้าๆ เช่นเดียวกับผู้ป่วยปอดอักเสบใส่ท่อช่วยหายใจว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.65 เป็นต้นมา มีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 รายทุกวัน รวมถึงวันนี้ 7 วันแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปและมีโรคเรื้อรัง
นอกจากกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นส่วนใหญ่แล้ว กลุ่มเด็กเล็กก็มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต อย่างวันนี้้มีผู้เสียชีวิตเป็นเด็กเล็ก 2 คน คือ ด.ช.อายุ 5 เดือน จ.ตราด ติดเชื้อจากคนในครอบครัว อาการสำคัญคือปอดอักเสบ และ ด.ญ.ชาวเมียนมา อายุ 5 เดือน เช่นกัน อยู่ จ.สมุทรปราการ มีประวัติติดจากคนในครอบครัวและมีอาการปอดอักเสบเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เคยออกมาเตือน ถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มเด็กเล็กเพิ่มขึ้น โดยเด็กอายุ 0-4 ปี ซึ่งยังไม่สามารถรับวัคซีนโควิด-19 ได้ ในระลอกโอไมครอนพบเสียชีวิตแล้ว 27 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ร่วมด้วย จึงขอให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังและสังเกตอาการเด็กที่มีโรคประจำตัวอย่างใกล้ชิด หากมีอาการป่วยผิดปกติ หรือคนในบ้านเป็นผู้ป่วยโควิดหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องรีบพาเด็กที่เริ่มมีอาการป่วยไปพบแพทย์โดยเร็ว
สลด! โควิดวันนี้ (6 เม.ย. 65) พรากอีก 94 ชีวิต ติดเชื้อพุ่งต่อเนื่อง 5.1 หมื่นราย
รับมือ 5 โรคที่มากับอากาศร้อน แดดแรงแค่ไหนก็สุข
ทั้งนี้ พบว่ากลุ่มเด็กเล็กอายุ 0-6 เดือน มีความเสี่ยงที่ป่วยแล้วจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตมากที่สุด ส่วนกลุ่มอายุ 5-12 ปี พบการเสียชีวิตค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะระลอกโอไมครอนนี้มีเพียง 3 ราย หรืออัตราตายน้อยกว่า 0.01% ดังนั้นกลุ่มวัยเรียนอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป การรับวัคซีนจะช่วยป้องกันการป่วยหนักได้อย่างดี