หมอเผยคนไทยอายุน้อยกว่า 42 ปี ถือว่าไม่มีภูมิคุ้มกันต่อ "ฝีดาษลิง"
น.พ.เฉลิมชัย เผยคนไทยอายุน้อยกว่า 42 ปี หรือเกิดหลังปี 2523 ถือว่าไม่มีภูมิคุ้มกันต่อฝีดาษลิง พร้อมแนะวิธีแยกแผลเป็นว่าเป็นฝีชนิดใด
น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ได้เผยข้อมูลผ่าน ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย เกี่ยวการฉีดวัคซีนฝีดาษในไทย กลุ่มคนที่ได้ฉีด และรอยแผลเป็นหลังฉีดวัคซีน ดังนี้
คนไทยที่อายุน้อยกว่า 42 ปี หรือเกิดหลังปี 2523 ถือว่าไม่มีภูมิคุ้มกันต่อฝีดาษลิง
เนื่องจากในขณะนี้ ฝีดาษลิงได้ระบาดไปแล้วกว่า 33 ประเทศ จำนวนมากกว่า 500 ราย แม้จะยังไม่มีผู้เสียชีวิตเลย แต่ก็ทำให้ประเทศต่างๆ เกิดความระมัดระวัง ทั้งในระดับประเทศและระดับปัจเจกบุคคล
รู้จักวัคซีนฝีดาษลิง รุ่น 3 สร้างภูมิต้านทาน ไม่เกิดตุ่มหนอง
รู้ชัดการปลูกฝีในไทย "อดีต - ปัจจุบัน" ใช้ป้องกันโรคอะไรบ้าง
ทั้งนี้เนื่องจากมีข้อมูลการวิจัยหาระดับภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีน ตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์ชั้นนำ (NEJM) ที่สรุปว่า ผู้ที่เคยปลูกฝีป้องกันฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ ยังคงมีระดับภูมิคุ้มกันที่สูงมากพอ แม้จะผ่านมาหลายสิบปี โดยมีค่าครึ่งชีวิต (Half Life) ของระดับภูมิคุ้มกัน ซึ่งแปลว่าระดับภูมิคุ้มกันลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียวใช้เวลากี่ปี ในวัคซีนฝีดาษนั้น ค่าครึ่งชีวิตยาวนานถึง 92 ปี จึงทำให้หลายคนอยากทราบว่าตนเองมีภูมิคุ้มกันต่อฝีดาษลิงหรือไม่อย่างไร
วันนี้จะใช้หลักการ 2 ประการ เพื่อประกอบการพิจารณาดังนี้
1) อายุของคน
เป็นที่ทราบกันดีว่า ฝีดาษหายไปจากทวีปเอเชียในปี 2518 โดยประเทศสุดท้ายที่พบคือ บังกลาเทศ ตามมาด้วยการสูญพันธุ์ของฝีดาษในทวีปแอฟริกาเมื่อปี 2520 โดยโซมาเลียเป็นประเทศสุดท้าย และองค์การอนามัยโลกได้ประกาศถือว่าฝีดาษหมดไปจากโลกมนุษย์ในปี 2523 ( 8 พฤษภาคม 2523 )
ส่วนของไทยนั้น ฝีดาษหมดไปจากประเทศก่อนที่ประเทศสุดท้ายในทวีปเอเชียจะหมดในปี 2518 ไทยจึงเริ่มยุติการปลูกฝีป้องกันฝีดาษตั้งแต่ปี 2517 เป็นต้นมา และทั่วโลกได้ยุติการปลูกฝีป้องกันฝีดาษตั้งแต่ปี 2523
ดังนั้นผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 42 ปี หรือเกิดหลังปี 2523 จะถือว่าไม่เคยหรือไม่มีโอกาสได้รับการปลูกฝีป้องกันฝีดาษ ส่วนผู้ที่อายุ 48 ปีขึ้นไป หรือเกิดก่อนปี 2517 มีโอกาสที่จะได้รับการปลูกฝีป้องกันฝีดาษสูงมาก และผู้ที่อายุอยู่ในช่วงดังกล่าวคือ เกิดปี 2517-2523 มีโอกาสจะได้รับการปลูกฝี แต่ค่อนข้างน้อย
2) แผลเป็นจากการปลูกฝี
แผลเป็นที่ปรากฏจากการปลูกฝี ป้องกันโรค หรือให้วัคซีน มีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน ได้แก่
2.1 ปลูกฝีป้องกันฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ จะเป็นแผลเป็นแบนเรียบ
2.2 ปลูกฝีป้องกันวัณโรค จะเป็นแผลเป็นที่เป็นแบบนูน
ถ้าใครมีทั้งสองแผลเป็น และอันหนึ่งเรียบ อีกอันหนึ่งนูน แปลว่าได้รับการปลูกฝีป้องกันทั้ง 2 โรค แต่ถ้ามีเพียงแผลเดียว จะต้องเป็นแผลที่เรียบเท่านั้น เพราะถ้านูนก็จะเป็นการปลูกฝีป้องกันวัณโรค
กล่าวโดยสรุป
1) ผู้ที่มีอายุมากกว่า 48 ปีขึ้นไป เกิดก่อนปีพ.ศ. 2517 มีโอกาสที่จะได้รับการปลูกฝีป้องกันฝีดาษค่อนข้างมาก
2) ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 42 ปีลงมา เกิดหลังปี 2523 ถือว่าไม่มีโอกาสได้รับการปลูกฝีป้องกันฝีดาษ
3) ผู้อายุ 42-48 ปี เกิดระหว่างพ.ศ. 2517-2523 ถือว่ามีโอกาสจะได้รับการปลูกฝีอยู่บ้าง แต่โอกาสนั้นค่อนข้างน้อย
4) แผลเป็นจากการปลูกฝีมี 2 ชนิดคือ แผลเป็นจากการปลูกฝีป้องกันฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ และแผลเป็นจากการปลูกฝีป้องกันวัณโรค
5) แผลเป็นจากการปลูกฝีป้องกันฝีดาษคน จะเป็นแผลเป็นที่แบนเรียบหรือเป็นหลุมลงไปเล็กน้อย ไม่นูน
6) แผลเป็นที่เกิดจากการปลูกฝีป้องกันวัณโรค จะเป็นแผลเป็นที่นูน
โรคฝีดาษลิงยังไม่มียารักษา วัคซีนไข้ทรพิษ ป้องกันได้ 85%
อังกฤษ แนะผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง เลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดสัตว์เลี้ยง