อังกฤษ-อินเดีย เจรจาซื้อวัคซีนโควิด-19 จาก"โมเดอร์นา"


โดย PPTV Online

เผยแพร่




รัฐบาลอังกฤษและอินเดียเจรจาขอซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ของ "โมเดอร์นา" บริษัทยาจากสหรัฐฯ หลังผลการทดลองชี้ว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้เกือบ 95%

ข้อได้เปรียบวัคซีนโควิด-19 จาก “โมเดอร์นา”

บริษัทยาสหรัฐฯพบวัคซีนทดลองได้ผลหยุดโควิด-19

นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขของอังกฤษ แถลงว่า รัฐบาลบรรลุข้อตกลงเบื้องต้น ในการสั่งจองวัคซีนโควิดอย่างน้อย 5 ล้านโดส จากบริษัท โมเดอร์นา โดยคาดว่าจะสามารถจัดส่งได้อย่างเร็วที่สุดภายในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือระหว่าง มี.ค.-มิ.ย.ปีหน้า

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอังกฤษได้เปิดการเจรจาเพื่อสั่งซื้อวัคซีนโควิดจำนวน 350 ล้านโดส จากผู้ผลิตไม่ต่ำกว่า 6 เจ้า โดยพิจารณาจากความพร้อมในผลิตและแจกจ่ายเป็นหลัก ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ วัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทยา "ไฟเซอร์" และบริษัท "ไบโอเอ็นเทค" ของเยอรมนี รวมถึงวัคซีนของบริษัท "แอสตราเซเนกา" กับมหาวิทยาลัย "ออกซ์ฟอร์ด" ซึ่งคาดว่าจะมีการเผยผลการทดลองทางคลินิกระยะสุดท้ายในเร็วๆนี้

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงบริษัทโมเดอร์นาและไฟเซอร์ เพื่อขอเข้าถึงวัคซีนต้านโควิดเหล่านี้เช่นกัน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บริษัทยา "โมเดอร์นา" ของสหรัฐฯ ประกาศว่าวัคซีนโควิดของบริษัทมีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสได้ถึง 94.5 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าจะมีการยื่นขอให้องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติใช้งานในกรณีฉุกเฉินภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

เบื้องต้น คาดว่าบริษัทจะสามารถผลิตและจัดส่งวัคซีนล็อตแรก จำนวน 20 ล้านโดส ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ภายในสิ้นปีนี้ จากจำนวนวัคซีนทั้งหมด 100 ล้านโดส ที่มีการบรรลุข้อตกลงสั่งจองไว้

จนถึงขณะนี้ มีวัคซีนอย่างน้อย 3 ตัว ที่มีการรายงานผลเบื้องต้นจากการทดลองทางคลินิกระยะสุดท้ายแล้ว

1. วัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัท "ไฟเซอร์" ของสหรัฐฯ ร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนี ได้ผล 90%

2. วัคซีน Sputnik-V (สปุตนิก-วี) ของสถาบันกามาเลยา ในรัสเซีย ได้ผล 92%

3. วัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัท โมเดอร์นา ของสหรัฐฯ ได้ผล 94.5%

สำหรับวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา ใช้เทคโนโลยีตัดต่อสารพันธุกรรม เอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) เหมือนกัน แต่วัคซีนของโมเดอร์นามีข้อได้เปรียบที่ไม่จำเป็นต้องเก็บในสภาพที่เย็นจัดเหมือนกับวัคซีนของไฟเซอร์ ทำให้การขนส่งเพื่อแจกจ่ายทำได้ง่ายกว่า โดยวัคซีนโมเดอร์นาจะคงประสิทธิภาพได้นานถึง 6 เดือนเมื่ออยู่ในอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส และสามารถเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นธรรมดา ได้ถึง 1 เดือน

ส่วนวัคซีนของไฟเซอร์ต้องจัดส่งและเก็บที่อุณหภูมิ -75 องศาเซลเซียส ซึ่งจะอยู่ได้นานถึง 6 เดือน แต่หากเก็บที่อุณหภูมิตู้เย็นปกติ จะเก็บได้นานที่สุดเพียง 5 วัน และเก็บได้ 15 วัน ในกล่องเก็บความเย็น หรือกล่องที่ใส่น้ำแข็งแห้ง

แม้เราจะรู้ประสิทธิภาพของวัคซีนถึง 3 ตัวแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครทราบว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนจะอยู่ได้นานแค่ไหนและจะลดตามวัยของผู้รับวัคซีนหรือไม่

ด้านนายแพทย์เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เปิดแถลงข่าวที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า ข่าวความคืบหน้าของวัคซีนโควิด-19 ทำให้เรามีความหวังในการต่อสู้กับโรคระบาดนี้มากขึ้น แต่มองว่านี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะดีใจ เพราะขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อในหลายประเทศ โดยเฉพาะในทวีปยุโรป และอเมริกา ยังพุ่งสูง และยังต้องรอผลการทดลองเพิ่มเติม และต่อให้อนุมัติใช้งานวัคซีนแล้ว วัคซีนที่ผลิตออกมาเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วไปในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ก็จะยังมีจำนวนจำกัดอยู่ เพราะต้องให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อก่อน

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ