นายกฯอินเดีย ขอล็อกดาวน์เป็นทางเลือกสุดท้าย แม้ยอดติดเชื้อพุ่งรุนแรง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




อินเดีย กำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกสองที่รุนแรงกว่าระลอกแรก ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ระบบสาธารณสุขของอินเดียอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ส่อแววล่มสลาย หลายพื้นที่ในอินเดียต้องประกาศใช้เคอร์ฟิวและล็อกดาวน์เพื่อป้องกันปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ล่าสุดผู้นำอินเดียประกาศว่า มาตรการล็อกดาวน์แบบเข้มงวดจะเป็นทางเลือกสุดท้ายในการควบคุมโควิด-19 เพื่อป้องกันผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศ

ฮ่องกง พบเที่ยวบินอินเดีย ผู้โดยสารติดโควิด 49 คน

อินเดียยอดติดเชื้อโควิด-19 เฉียด 300,000 ราย ยอดตาย 2,000 คน

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้แถลงการณ์ถึงสถานการณ์ถึงวิกฤตโรคระบาดในประเทศ ที่กลับมารุนแรงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ขณะนี้อินเดียกำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกสองที่โจมตีประเทศราวกับพายุ พร้อมเรียกร้องให้ชาวอินเดียปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคระบาดอย่างเคร่งครัด

นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีโมดียังได้เรียกร้องให้รัฐและเมืองต่าง ๆ ใช้มาตรการคุมโรคระบาดในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์แบบเข้มงวด

 

ผู้นำอินเดียต้องกล่าวเช่นนี้ เพราะช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายพื้นที่ในอินเดียต้องยกการ์ดสูง ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิว รวมไปถึงล็อกดาวน์ เพื่อยั้บยั้งการระบาดของเชื้อไวรัส  

อย่างที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศ ได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์นาน 6 วัน โดยเบื้องต้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ไปจนถึงวันจันทร์หน้า  การล็อกดาวน์เมืองหลวงส่งผลให้ชาวอินเดียกว่า 20 คนต้องอยู่บ้าน ธุรกิจที่ไม่จำเป็นต้องปิดให้บริการ

 

ล่าสุดรัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของอินเดีย ได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบเต็มรูปแบบแล้วเช่นกัน ซึ่งรัฐมหาราษฏระคือรัฐที่มีการระบาดของโควิด-19 รุนแรงที่สุดในอินเดีย มาตการล็อกดาวน์ในรัฐมหาราษกฏระ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 2 ทุ่ม ของวันพุธที่ 21 เมษายนนี้ ตามเวลาของอินเดีย เบื้องต้นรัฐมหาราษฏระจะใช้มาตรการล็อกดาวน์นาน 15 วัน

 

หนึ่งในเหตุผลที่ผู้นำอินเดียออกมาขอร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันหลีกเลี่ยงมาตรการล็อกดาวน์ก็เพราะว่า การล็อกดาวน์จะทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก และทำให้ประชาชนตกงาน โดยทันทีที่รัฐมหาราษฏระประกาศล็อกดาวน์  แรงงานรับจ้างรายวันจำนวนมากพากันหอบกระเป๋าเพื่อกลับถิ่นฐาน แรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน การประกาศล็อกดาวน์ทำให้พวกเขาตกงาน ขาดรายได้ พวกเขาต้องแย่งกันขึ้นรถโดยสารสาธารณะ ขณะที่บางรายตัดสินใจเดินเท้ากลับบ้านเกิด

 

สถานการณ์โควิด-19 ของอินเดียรุนแรงขนาดไหน อินเดียพบยอดผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่า 2 แสนราย ติดต่อกันมา 6 แล้ว โดยเมื่อวานนี้ (20 เม.ย.) อินเดียมียอดผู้ติดเชื้อรายวันกว่า 294,000 ราย เป็นยอดผู้เสียชีวิตรายวันที่สูงที่สุดของอินเดียตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดในประเทศ และเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุดของโลกด้วย ด้านผู้เสียชีวิต เมื่อวานนี้อินเดียพบผู้เสียชีวิต 2,020 ราย เป็นยอดผู้เสียชีวิตรายวันที่สูงที่สุดของอินเดีย

 

ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นวันละเกือบ 3 แสนรายทำให้อินเดียเผชิญวิกฤตด้านระบบสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล รวมไปถึงการขาดแคลนถังออกซิเจน ซึ่งปัญหาถังออกซิเจนไม่เพียงพอเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ป่วยหลายรายต้องเสียชีวิต

ดาโมดาร์ ชินเด ชายชาวอินเดีย เปิดเผยว่า ภรรยาของเขาเสียชีวิตจากโควิด-19 ชั่วข้ามคืน เพราะโรงพยาบาลไม่จัดหาออกซิเจนให้ ทำไมสถานการณ์โรคระบาดของอินเดียจึงกลับมารุนแรงอีกครั้ง

 

1. ปัจจัยแรกก็คือ การผ่อนปรนมาตรการต่างๆ  โดยตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา อินเดียได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดเกือบทุกข้อ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ประมาทและไม่ระมัดระวังตัวเอง

2. ปัจจัยที่สองก็คือ การแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ชนิดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์สหราชอาณาจักร แอฟริกาใต้ บราซิล และจากอินเดียเอง ซึ่งไวรัสกลายพันธุ์เหล่านี้มีความสามารถในการแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมหลายเท่าตัว

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายโจมตีว่า ผู้นำประเทศคืออีกปัจจัยที่ทำให้วิกฤตโรคระบาดในอินเดียรุนแรงเช่นนี้

 

นายนเรนทรา โมดี โดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการจัดหาเสียงเลือกตั้งที่มีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้ง ๆ ที่ยอดผู้ติดรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน และระบบสาธารณสุขในประเทศส่อแววล่มสลาย

 

ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี โมดี ได้เดินทางไปหาเสียงเลือกตั้งที่รัฐเบงกอลตะวันตก  และระหว่างการหาเสียงเขาได้กล่าวว่า ไม่เคยเห็นฝูงชนมารวมตัวกันมากเท่านี้มาก่อน อีกทั้งยังมีรายงานเปิดเผยว่า ผู้นำอินเดียไม่สวมหน้ากากอนามัยระหว่างหาเสียง และมีผู้สนับสนุนจำนวนมากที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยเช่นกัน

 

นอกจากอินเดียจะต้องยกการ์ดสูงเพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสแล้ว อีกวิธีที่อินเดียทำก็คือ การเร่งแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนให้มากที่สุด

ขณะนี้อินเดียแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนราว 130 ล้านโดส จากจำนวนทั้งหมด มีชาวอินเดียที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดสราว 113 ล้านคน  และมีชาวอินเดียที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วราว 18 ล้านคน ถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำ เพราะอินเดียมีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดอินเดียประกาศแล้วว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป อินเดียจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป  คาดว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยให้อินเดียแจกจ่ายวัคซีนให้ประชาชนได้มากขึ้น เพราะขณะนี้ ครึ่งหนึ่งของประชากรในอินเดีย คือกลุ่มคนที่อายุไม่เกิน 35 ปี

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ