นาโต ร่วมลงนามให้จีนเป็น “ความท้าทายด้านความมั่นคง"


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประชุม 2 เวทีที่อาจจะเป็นตัวกำหนดทิศทางการเมืองโลกต่อจากนี้ เวทีแรกคือ การประชุม G7 ที่จัดขึ้นที่เมืองคอนวอลล์ของสหราชอาณาจักร เวทีที่สองคือ การประชุมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ที่จัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลล์ของเบลเยี่ยม วาระสำคัญที่การประชุมทั้งสองเวทีนี้มีเหมือนกันคือ บทบาทของจีนที่ทรงอิทธิพลมากขึ้นในเวทีโลก นาโตพูดชัดเจน ก่อนจะออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า ขณะนี้จีนคือประเทศที่เป็นความท้าทายด้านความมั่นคง น่าจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น ที

หลังการประชุม ผู้นำจากประเทศสมาชิกออกแถลงการณ์ที่เรียกว่า "ปฏิญญาบรัสเซลส์" ประกาศว่า จีนคือประเทศที่เป็นความท้าทายความมั่นคง มีการแสดงออกที่เป็นระบบ ที่ท้าทายกฎระเบียบระหว่างประเทศและขอบเขตความมั่นคงของนาโต

ในแถลงการณ์ของนาโตได้มีการหลีกเลี่ยงการใช้คำแทนจีนว่า "ศัตรู" หรือ "ฝ่ายตรงข้าม" แต่ก็แสดงความวิตกกังวลต่อการที่รัฐบาลปักกิ่ง "ดำเนินนโยบายข่มขู่และบีบบังคับ" ซึ่งเป็นการปฏิบัติอย่างไม่โปร่งใส เพื่อยกระดับศักยภาพทางทหาร

จีนกับอเมริกาในยุค โควิด-19 โลกจะเข้าสู่สงครามเย็นอีกครั้ง?

หนุ่มใหญ่เครียด ฉีดวัคซีนครบสองโดส แต่คนละยี่ห้อ

นอกจากนี้นาโตยังวิจารณ์ "รูปแบบการเผยแพร่เนื้อหาและข่าวสารที่บิดเบือน" ของจีนด้วย นาโตจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่ง "มีความรับผิดชอบ" และ "ปฏิบัติตามระเบียบโลก" อย่าเคร่งครัด

แถลงการณ์นี้เขียนชัดเจนถึงความวิตกกังวลที่จีนดำเนินนโยบายข่มขู่และบีบบังคับประเทศต่างๆเพื่อยกระดับศักยภาพทางทหาร

นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่น่าจับตามอง เพราะก่อนหน้านี้นาโตมักจะให้ความสำคัญและจับตาบทบาทของรัสเซีย ซึ่งเป็นแนวทางหลักของนาโต องค์กรด้านความมั่นคงและการทหารที่จัดตั้งขึ้นในช่วงสงครามเย็นเพื่อต่อต้านการรุกคืบและอิทธิพลของโลกคอมมิวนิสต์

การเปลี่ยนเป้าจากรัสเซียมาที่จีนจึงน่าสนใจอย่างยิ่ง การประกาศอย่างเป็นทางการครั้งแรก ว่าจีนคือความเสี่ยงด้านความมั่นคงโลกอาจจะคือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับ 30 สมาชิกนาโตที่มีสหรัฐเป็นแกนนำ ถึงแม้ว่าในแถลงการณ์จะมีการหลีกเลี่ยงการใช้คำแทนจีนว่า "ศัตรู" หรือ “ฝ่ายตรงข้าม" ก็ตาม

เหตุใดนาโตจึงมุ่งเป้าไปที่จีน?

ในแถลงการณ์ นาโตยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการทำสงครามเย็นกับจีน เพียงแต่เป็นการเรียกร้องให้สมาชิกนาโตร่วมมือกันขจัดอิทธิพลของพญามังกร

ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันจีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐฯ ส่วนด้านการทหารก็แข็งแกร่ง มีการพัฒนาศักยภาพอย่างรวดเร็ว หากนับจากจำนวนกำลังพลแล้ว จีนมีกองทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนทหารมากกว่า 2 ล้านนาย

ไม่เพียงแต่การเติบโตของกองทัพ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนยังขยายกำลังทหารของตนเข้าไปใกล้กับอธิปไตยของชาติอื่นๆหรือพื้นที่พิพาท เช่น การตั้งฐานทัพบนเกาะเทียมในทะเลจีนใต้ หรือการฝึกทหารในพื้นที่ทะเลบอลติกและจัดตั้งฐานทัพในประเทศแอฟริกา

นาโตระบุว่า ปฏิบัติการทั้งหมดขาดความโปร่งใสและมีการบิดเบือนข้อมูลบ่อยครั้ง เหล่านี้คือสิ่งที่นาโตต้องจัดการและเตรียมพร้อมรับมือ

จุดยืนของนาโตสอดคล้องไปกับการประชุม G7 ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า ที่ 7 ชาติสมาชิกออกมาแสดงความกังวลถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กว้างขวางในจีน ตั้งแต่กรณีค่ายกักกันอุยกูร์ในภูมิภาคซินเจียง การใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ชุมุนมในการประท้วงที่ฮ่องกง การละเมิดเขคแดนในทะเลจีนใต้ ไปจนถึงคำถามต่อความไม่โปร่งใสต่อการตรวจหาต้นตอของเชื้อโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น

และล่าสุดคือความพยายามขยายประสิทธิภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งทั้งหมดนี้นาโตเรียกโดยรวมว่าเป็น ความทะเยอทะยานของจีน

เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการใหญ่นาโตออกมาเรียกร้องให้จีนเคารพหลักสากลที่หลายประเทศยึดถือ

ถึงแม้ว่าจะเป็นการออกแถลงการณ์ร่วมกันของชาตินาโตทั้ง 30 ชาติ แต่มีรายงานว่า บางประเทศสมาชิกสงวนท่าทีไม่ให้ใช้คำโจมตีจีนมากเกินไป

และมีผู้นำบางประเทศ อย่างเช่น นายกรัฐมนตีอังเกลา แมร์เคิ่ล ที่ระบุว่า สำคัญที่สุดคือนาโตต้องจัดความสัมพันธ์กับจีนอย่างระมัดระวัง เนื่องจากหลายชาติสมาชิกยังคงร่วมมือและพึ่งพาจีนในหลายด้าน

สินค้าประมงไทยทุกชนิด กำลังจะโดนแบนจากสหรัฐอเมริกา!

นักวิทย์แล็บอู่ฮั่นพ้อ “โลกโยนของเสียให้นักวิทย์ผู้บริสุทธิ์ตลอดเวลา”

ฝั่งจีนที่ตกเป็นประเด็นการประชุม ล่าสุดวันนี้มีถ้อยแถลงจาก จ้าว หลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุถึงการประชุม G7 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง ข้อพิพาททะเลจีนใต้ ตลอดจนอธิปไตยฮ่องกงและไต้หวันล้วนเป็นกิจการภายในของจีนทั้งสิ้น

ส่วนในประเด็นนาโต ที่ล่าสุดออกมาระบุว่า จีนท้าทายความมั่นคงโลกอย่างเป็นระบบนั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศมองว่า จีนเพียงแค่ปกป้องผลประโยชน์ประเทศของตน

ในขณะเดียวกันฝั่งจีนเองไม่เคยมองยุโรปเป็นศัตรู แต่มองว่าเป็นคู่ค้าสำคัญ ที่มีเสรีภาพ และคงไม่ผูกขาดตนเองไปกับแนวคิดต่อต้านจีนเช่น สหรัฐฯ

นอกจากจีนแล้ว อีกประเด็นหลักก็คือรัสเซีย ในที่ประชุม ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐถูกรัสเซียโจมตีทางไซเบอร์บ่อยครั้ง และเสนอให้มีการเพิ่มบทบัญญัติพันธกรณีมาตราที่ 5 ของนาโต เพื่อให้ทันสมัย รับมือกับการโจมตีและภัยคุมคามใหม่ๆอย่างการโจมตีไซเบอร์ ไม่ใช่แค่เพียงการโจมตีทางทหารเพียงอย่างเดียว

ยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับภัยคุกคามใหม่ๆ ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน แต่จะใช้ชื่อว่า NATO 2030

ในการประชุมนาโตครั้งนี้จะเห็นว่า สหรัฐมีบทบาทสำคัญในการผลักดันวาระขององค์กรอีกครั้ง หลังแผ่วหายไปในช่วงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงนั้นไม่เพียงทรัมป์จะไม่สนใจการทำงานกับนาโต แต่ยังลดเงินอุดหนุนกับองค์กรแห่งนี้อีกด้วย

ซึ่งผู้นำสหรัฐคนใหม่ โจ ไบเดน ประกาศว่า สหรัฐได้กลับมาแล้ว กลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งในเวทีโลก

เสร็จสิ้นจากการประชุมนาโต ในวันพุธ ไบเดน มีนัดพบปะพูดคุยกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

นับเป็นการพบกันครั้งแรกหลังไบเดน ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศอย่างเป็นทางการ และเป็นช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียกำลังตกต่ำจากหลายเหตุการณ์

หลายฝ่ายจับตาการพบปะกันของคู่นี้ ซึ่งไบเดนทิ้งท้ายในการประชุมนาโตว่า ตัวเขาไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับรัสเซีย แต่จำเป็นต้องตอบสนองกลับ หากรัสเซียทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงหรือสั่นคลอนประชาธิปไตย

พร้อมเสริมว่า สหรัฐฯ มีพื้นที่ที่จะร่วมมือกับรัสเซีย ในขณะเดียวกันก็มีเส้นกั้นที่ไม่ต้องการให้รัสเซียล้ำเข้ามา

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ