วันนี้ (1 ก.ค.) ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโค วิโดโด ประกาศล็อกดาวน์พื้นที่ของประเทศบางส่วน คือเกาะชวาและเกาะบาหลี เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่พบการระบาดอย่างหนักของโควิด-19 การเดินทางช่วงวันหยุดและการเข้ามาของสายเดลตา (อินเดีย)
การล็อกดาวน์นี้เบื้องต้นจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ และมีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ให้ลดลงเหลือต่ำกว่า 10,000 รายต่อวัน โดยขณะนี้อินโดนีเซียกำลังเผชิญกับการมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 20,000 รายต่อวันมาต่อเนื่องหลายวันแล้ว
สายการบิน "การูดา" อินโดนีเซีย ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้โดยสารฟรี
ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์กับสายพันธุ์เดลตา บทเรียนจากออสเตรเลีย-อินโดนีเซีย
เดลตาระบาดหนัก พบผู้ป่วยโควิดอินโดนีเซียทุบสถิติ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า จำนวนผู้ป่วยอาจสูงขึ้นมาก เนื่องจากการทดสอบหาเชื้อนอกกรุงจาการ์ตาไม่เพียงพออย่างรุนแรง
ภายใต้การล็อกดาวน์ แรงงานทุกคนที่ทำงานในธุรกิจที่ไม่จำเป็นจะต้องทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) และโรงเรียนต่าง ๆ จะต้องทำการเรียนการสอนทางไกลหรือผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น
ส่วนห้างสรรพสินค้า สถานที่ทางศาสนา และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสาธารณะ เช่น สวนสาธารณะ จะถูกปิดชั่วคราวเช่นกัน และห้ามรับประทานอาหารในร้าน แต่สั่งกลับบ้านได้
ธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงธุรกิจในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และพลังงาน ได้รับการพิจารณาว่ามีความสำคัญ และจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้เต็มกำลังคง 100% ซึ่งหมายความว่าพนักงานทุกคนในธุรกิจเหล่านี้สามารถไปทำงานในออฟฟิศหรือโรงงานได้ ส่วนบริการอื่น ๆ เช่น บริการทางการเงิน ซึ่งถือว่ามีความจำเป็น สามารถดำเนินการได้โดยให้ใช้คน 50%
อินโดนีเซียมีสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ร้ายแรงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 2.1 ล้านราย และเสียชีวิตสะสม 57,000 ราย
สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) กล่าวว่า อินโดนีเซียกำลังเข้าสู๋หายนะจากภัยพิบัติของโควิด-19
สุธีร์มาน ซาอิด เลขาธิการสภากาชาดอินโดนีเซียกล่าวว่า “ขณะนี้โรงพยาบาลเต็มไปหมดแทบทุกแห่ง และออกซิเจนมีปริมาณเหลือน้อยมาก” และโรงพยาบาลบางแห่งก็มีผู้ป่วยจนล้น
“เราได้ตั้งเต็นท์ฉุกเฉินไว้ที่โรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนมากขึ้น หลายคนต้องเดินทางหลายชั่วโมง เพียงเพื่อจะเข้าถึงการรักษาพยาบาล” เขากล่าว
เมื่อเดือนที่แล้ว ทางการสั่งห้ามการเดินทางภายในประเทศข้ามหมู่เกาะในช่วงปลายเดือนรอมฎอน เป็นความพยายามที่จะควบคุม “มูดิก” หรือวิถีปฏิบัติของแรงงานอพยพที่เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อเฉลิมฉลองวันอีดกับครอบครัว แต่หลายคนก็ไม่เชื่อฟังคำสั่งห้าม และยังคงเดินทางอยู่ ทำให้อัตราการแพร่กระจายของเชื้อสูงขึ้น
นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลที่เพิ่มขึ้นว่า การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อนั้นเกิดจากสายพันธุ์เดลตาที่สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่า โดยตรวจพบครั้งแรกตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. ในภูมิภาคคูดุสของเกาะชวา
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกว่า 350 คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อโควิด-19 และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขถึง 949 รายที่เสียชีวิตจากโควิด-19
อินโดนีเซียพึ่งพาวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวคของจีนเป็นหลัก แต่ด้วยประสิทธิภาพที่น่ากังขา ทำให้ประชากรจำนวนมากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และสายพันธุ์เดลตาเอง ก็มีแนวโน้มที่จะกดข่มวัคซีนซิโนแวคไว้ได้ ทำให้การระบาดของโรคมีอัตราการแพร่กระจายสูงขึ้น
มีความกังวลว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งมีการระบาดของสายพันธุ์เดลตาแล้ว อาจเลวร้ายลงไปอยู่ในจุดเดียวกันกับอินโดนีเซียหรือร้ายแรงกว่านั้นได้
เรียบเรียงจาก BBC
ภาพจาก AFP / Shutterstock