ผู้นำสหรัฐฯ วัย 78 ปี ได้รับวัคซีนต้านโควิดเข็มที่ 3 ของไฟเซอร์ ตามสิทธิ์สำหรับผู้ที่อายุเกิน 65 ปี และได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 มาแล้วเกิน 6 เดือน ส่วนนางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลข 1 ก็มีกำหนดจะรับวัคซีนเข็ม 3 เร็วๆนี้เช่นกัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ (CDC) และสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ อนุมัติรับรองการใช้วัคซีนไฟเซอร์เข็มสามเป็นบูสเตอร์ให้กับชาวอเมริกันอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ หรือเผชิญความเสี่ยงจากการทำงาน
FDA สหรัฐ มติเอกฉันท์ บูสเตอร์โดส เฉพาะ 65 ปี ขึ้นไปและกลุ่มเสี่ยง
แผน “ไบเดน” ฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชน 70% ก่อนวันชาติอาจไม่สำเร็จ
ไบเดนเน้นย้ำถึงความสำคัญในการฉีดเข็มกระตุ้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการทำให้ชาวอเมริกันอีก 23% ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว ออกมาฉีดวัคซีนให้มากขึ้น
นักข่าวถามถึงประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ประเทศร่ำรวย โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่เริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ทั้งที่ทั่วโลกยังประสบปัญหาขาดแคลนวัคซีน ซึ่งไบเดนชี้แจงว่า สหรัฐฯ เองก็บริจาควัคซีนจำนวนมหาศาลช่วยประเทศต่างๆ อยู่
สำหรับประธานาธิบดีไบเดนได้รับวัคซีนโควิดเข็มแรกเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ปีที่แล้ว และเข็มที่ 2 ในวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน FDA สหรัฐฯ ยังไม่ได้พิจารณาคำร้องขอใช้วัคซีนโมเดอร์นาเข็ม 3 เป็นบูสเตอร์ ส่วนบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ทดลองประสิทธิภาพบูสเตอร์โดสของตนเองแล้ว แต่ยังไม่ได้ยื่นขออนุมัติใช้งาน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นายเน็ด ไพรซ์ (Ned Price) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ มีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวก เมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) หลังมีอาการป่วย โดยขณะนี้ เขาอยู่ระหว่างกักตัวดูอาการเป็นเวลา 10 วัน
สัปดาห์ที่แล้ว นายไพรซ์ทำงานใกล้ชิดกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UNGA) ในนครนิวยอร์ก ล่าสุด นายบลิงเคนเข้ารับการตรวจเมื่อช่วงเช้าวานนี้ แต่ผลออกมาเป็นลบ
ครม. เห็นชอบจัดซื้อวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” จากสเปนเพิ่มเติม 165,000 โดส
สเปนหวั่นลาวาจากเหตุภูเขาไฟปะทุไหลลงมหาสมุทร อาจเกิดระเบิด-ก๊าซพิษ
