จากกรณีบริการของเฟซบุ๊ก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม วอทส์แอป เมสเซนเจอร์ เกิด “ล่ม” ไม่สามารถเข้าถึงได้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย และเริ่มมีรายงานการกลับมาใช้งานได้ในเวลาประมาณ 05.30 น. รวมระบบล่มไปนานราว 6-7 ชั่วโมง นั้น ทำให้ผู้ใช้งานกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลกได้รับผลกระทบ ไม่สามารถเข้าถึงบริการของเฟซบุ๊กได้ทั้งทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
ความสูญเสียของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หลังโลกป่วน เฟซบุ๊กล่ม 6 ชั่วโมง
เฟซบุ๊ก-อินสตาแกรม ล่มทั่วโลก นานกว่า 6 ชั่วโมง
ติ๊กต็อก แซง เฟซบุ๊กดาวน์โหลดสูงสุดทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องประสบปัญหาระบบล่มจนถูกวิพากษ์วิจารณ์และสูญเสียความเชื่อมั่นไปเช่นนี้
โดยนับตั้งแต่เฟซบุ๊กได้รับการพัฒนาก่อตั้งและเปิดให้ใช้งานในปี 2004 ก็มีอาการระบบล่มอยู่บ่อยครั้ง และมีหลายครั้งที่ล่มแรงล่มนาน ล่มจนผู้ใช้งานหนีไปหาโซเชียลมีเดียอื่นก็มี
การหยุดทำงานครั้งเลวร้ายที่สุดของเฟซบุ๊กเกิดขึ้นในปี 2008 ซึ่งตอนนั้นมีอายุเพียง 4 ขวบ เมื่อเฟซบุ๊กต้องปิดตัวไปเกือบทั้งวันจากจุดบกพร่อง หรือบั๊ก ที่ทำให้ผู้ใช้งาน 150 ล้านบัญชีบนแพลตฟอร์มจำนวนมากไม่สามารถโหลดไทม์ไลน์ของตนได้
ต่อมาในปี 2010 เฟซบุ๊กหยุดให้บริการเป็นเวลา 2 ชั่วโมง เนื่องจากปัญหาเครือข่ายที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากวิศวกร ทำให้เฟซบุ๊กต้องปิดระบบแล้วเปิดใหม่ ขณะนั้นมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก 608 ล้านบัญชี
ส่วนในปี 2013 ไม่ได้เกิดปัญหาล่มทั้งระบบ แต่มีปัญหาที่การกำหนดค่าบนแพลตฟอร์มให้ผู้ใช้สามารถ “อ่านข้อมูลได้อย่างเดียว” ทำให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กไม่สามารถอัปเดตสเตตัสได้เป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมง ขณะนั้นมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กประมาณ 1.2 พันล้านบัญชี
ถัดมาในปี 2014 เฟซบุ๊กเกิดปัญหาระบบล่มครั้งใหญ่ไป 2 ครั้ง ในเดือน มิ.ย. และ ส.ค. กินเวลานาน 31 นาทีและ 50 นาทีตามลำดับ โดยเกิดจากระบบเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถล็อกอินเข้าสู่ระบบได้ มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กในขณะนั้นเกือบ 1.4 พันล้านบัญชี
และเหตุระบบล่มครั้งใหญ่ของเฟซบุ๊กที่เกิดขึ้นในปี 2019 ถือเป็นครั้งล่าสุดที่มีการล่มของระบบเฟซบุ๊กครั้งใหญ่ โดยปัญหาเกิดจากระบบเซิร์ฟเวอร์ ทำให้เฟซบุ๊กและบริการในเครือต้องหยุดทำงานไปนานกว่า 14 ชั่วโมง และผลกระทบค่อนข้างสาหัส เพราะมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 พันล้านคนในปีนั้น
Downdetector ซึ่งเป็นเว็บไซต์ติดตามการหยุดทำงานของเว็บไซต์และบริการออนไลน์ต่าง ๆ ระบุว่า นี่เป็นหนึ่งในเหตุระบบล่มที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เฟซบุ๊กเผชิญ โดยมีผู้รายงานปัญหาเข้ามามากกว่า 10.6 ล้านครั้งทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานเกือบ 3 พันล้านบัญชีทั่วโลก
โดยทางเฟซบุ๊กได้ออกมาทวีตข้อความขอโทษผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระบบล่มว่า “ถึงผู้คนและธุรกิจทั่วโลกที่พึ่งพาเรา เราขออภัย เราทำงานอย่างหนักเพื่อกู้คืนการเข้าถึงแอปพลิเคชันและบริการของเรา และยินดีที่จะรายงานว่าระบบกลับมาออนไลน์ในขณะนี้ ขอบคุณที่อดทน”
ขณะที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า “เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม วอทส์แอป และเมสเซนเจอร์ กำลังกลับมาออนไลน์อีกครั้ง ขออภัยที่ระบบหยุดชะงักในวันนี้ ผมรู้ดีว่าคุณต้องพึ่งพาบริการของเรามากเพียงใดเพื่อติดต่อกับบุคคลที่คุณห่วงใย” โดยไม่ระบุถึงรายละเอียดหรือสาเหตุที่ทำให้ระบบล่ม
ด้าน ไมค์ สโครปเฟอร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของเฟซบุ๊กกล่าวว่า อาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าที่บริการทั้งหมดของเฟซบุ๊กจะกลับมาทำงานเต็ม 100%
ยังไม่มีการระบุเหตุผลอย่างเป็นทางการสำหรับปัญหาดังกล่าว แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายออนไลน์คาดการณ์ว่า อาจมีข้อผิดพลาดกับ Domain Name Server (DNS) ซึ่งเป็นเหมือนกับสมุดที่อยู่หรือสมุดโทรศัพท์สำหรับอินเทอร์เน็ต
ด้านบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกหลายแห่ง รวมถึง Reddit และ Twitter ได้ออกมาล้อเลียนสถานการณ์ของยักษ์ใหญ่ในแวดวงโซเชียลมีเดีย
เหตุการ์นี้ยังทำให้ทวิตเตอร์ประเทศไทยเกิดแฮชแท็ก #เฟสล่ม และ #ไอจีล่ม ซึ่งพุ่งทะยานติดเทรนทวิตเตอร์อันดับ 1 และ 2 เมื่อคืนนี้ในเวลาไม่นาน และยังคงเป็นที่พูดถึงจนถึงตอนนี้
หลังจากนี้เฟซบุ๊กจะต้องพัฒนาระบบให้มีความเสถียรหรือจุดบกพร่องน้อยที่สุด เพราะในโลกที่ทุกคนหันมาใช้เฟซบุ๊ก ไม่เพียงแต่กระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนครอบครัว แต่ยังใช้ในการดำเนินธุรกิจ หากปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ที่กินเวลานานอีก อาจส่งผลต่อการเลือกใช้บริการของผู้บริโภคในปัจจุบันได้
เรียบเรียงจาก CNBC / The Guardian
ภาพจาก AFP
ก่อนโควิด-19 ระบาด มณฑลหูเป่ย์สั่งซื้อชุดตรวจ PCR เพิ่มขึ้น 2 เท่า
ด่วน! เตือน "กทม. - นนท์ - ปทุม" ริมเจ้าพระยา เจอ 2 ปัจจัยบวก น้ำขึ้น 30-50 ซม. 7 ต.ค.รับมือ