ดอกเตอร์ แอนโทนี่ เฟาซี่ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ประจำทำเนียบขาวสหรัฐฯ ระบุว่ารายงานหลายชิ้นจากประเทศแอฟริกาใต้ที่ค้นพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน และ กำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลัก แสดงให้เห็นว่าอัตราการเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลของผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับที่ไม่สูงมากจนถึงขั้นสร้างความวิตกกังวล
อย่างไรก็ตาม ดอกเตอร์ เฟาซี่ ย้ำว่าจนถึงตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา หรือ ไม่ก่อให้เกิดอาการป่วยรุนแรงเลย
เด็กนักเรียนในจีนฆ่าตัวตายมากขึ้น หลังปลดล็อกดาวน์โควิด-19
นักวิทย์เร่งศึกษา โควิด-19 พันธุ์แอฟริกาใต้ “501.V2” กระทบประสิทธิภาพวัคซีนหรือไม่
โดยหลายวันที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของแอฟริกาใต้ เชื่อว่าการที่ยังไม่พบผู้ป่วยอาการรุนแรงเพราะประชากรส่วนใหญ่ของประเทศยังมีอายุน้อย และยังมีความเป็นไปได้ที่จะพบผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการทดสอบในห้องแล็บว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนมีความสามารถในการแพร่เชื้อได้ดีกว่าสายพันธุ์อื่นหรือไม่ รวมทั้งหลบหลีกภูมิคุ้นกัน และ ก่อให้เกิดอาการรุนแรงได้มากน้อยเพียงใด
สำหรับ ความเห็นของ ดอกเตอร์ เฟาซี่ สอดคล้องกับ คำพูดของ ดอกเตอร์ แอนเจลีเก คูตซี ประธานสมาคมการแพทย์แห่งแอฟริกาใต้ ผู้ค้นพบโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นคนแรก ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่พบส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงมาก และรักษาตัวเองที่บ้านได้ รวมทั้งไม่มีรายงานการสูญเสียการรับรู้กลิ่นหรือรสชาติใด ๆ และระดับออกซิเจนก็ไม่ลดลงมาก