"ไบเดน" ลั่น สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดแน่ หากสหรัฐช่วยยูเครนรบ
กองทัพรัสเซีย ยิงปืนใหญ่ถล่มใกล้กรุงเคียฟ
ภาพเหตุการณ์เกิดขึ้นในเมืองนิโคลาเยฟ ทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งติดกับทะเลดำเมื่อคืนวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่าเกิดการสู้รบในพื้นที่อย่างดุเดือด มีเสียงปืน และระเบิดดังสนั่นเมือง ขณะที่ประชาชนที่พักอาศัยในเมืองดังกล่าวต่างหาหลุมหลบภัยกันชุลมุน
โดยส่วนเมืองโวลโนวาคา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ พบอาคารบ้านเรือนเสียหายอย่างหนัก รวมถึงโรงพยาบาลและโรงเรียน หลังทหารยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียต่อสู้กันอย่างดุเดือด
จนถึงตอนนี้ประชาชนต้องลงไปหลบภัยในชั้นใต้ดินมานานถึง 2 สัปดาห์แล้ว และกำลังขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำ
ฝั่งยูเครนอ้างว่า กองทัพรัสเซียโจมตีโรงพยาบาลจิตเวช ใกล้กับเมืองอิเซียม (Izyum) ทางตะวันออกของยูเครนจนพังราบเป็นหน้ากอง โดยในโรงพยาบาลแห่งนี้มีเจ้าหน้าที่ 30 คน และผู้ป่วยอีก 330 คน แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียลักพาตัวนายกเทศมนตรีเมืองเมลิโตปอล (Melitopol) ทางตะวันออกของยูเครน หลังปรากฎคลิปขณะถูกลากตัวออกจากอาคาร ส่งผลให้ผู้พักอาศัยนับพันคนออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายกเทศมนตรี และระหว่างนี้มีรายงานว่า พบการรบกวนของสัญญาณอินเตอร์เน็ต เหมือนเป็นความพยายามไม่ให้กลุ่มผู้ประท้วงสามารถติดต่อสื่อสารกันได้
เมื่อวานนี้เสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายเมือง เช่น ลวิฟ โอเดสซา คาร์คีฟ เชอร์กาซี และซูมี รวมถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน
จากภาพถ่ายดาวเทียมของบริษัท แม็กซาร์ เทคโนโลยีส์ (Maxar Technologies) ล่าสุดที่บันทึกไว้เมื่อ 11 มีนาคม แสดงให้เห็นถึงบ้านเรือนและอาคารหลายหลังในกรุงเคียฟถูกไฟไหม้ และมีความเสียหายเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง
ขณะเดียวกันยังมีภาพที่แสดงให้เห็นว่ากองพันปืนใหญ่ของรัสเซียกำลังยิงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง และมีแสงวาบขึ้นมาจากปากกระบอกปืน แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป้าหมายการยิงของทหารกองพันนี้คือที่ใด แต่พบความเสียหายในเขตมอสชุน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดยิงปืนใหญ่ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 7 กิโลเมตร
ด้านกระทรวงกลาโหมของอังกฤษ ระบุว่า ช่วงเช้าวันนี้ (12 มี.ค.) เกิดการสู้รบอย่างหนักหน่วงทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ กองกำลังภาคพื้นดินของรัสเซียจำนวนมากอยู่ห่างจากใจกลางเมืองหลวงของยูเครน 25 กิโลเมตร ขณะที่เมืองอื่น ๆ อีกหลายแห่งถูกล้อมและอยู่ภายใต้การโจมตีอย่างหนักนอกจากนี้ยังพบว่ารัสเซียได้ยิงจรวดทำลายฐานทัพอากาศ และคลังกระสุนในเมืองวาซิลกอฟ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงเคียฟ จนเกิดไฟลุกไหม้
ด้านกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพิเศษทางการทหารเมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา รัสเซียได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครนไปแล้ว 3,346 แห่ง รวมถึงโดรน 121 ลำ รถถังและรถหุ้มเกราะ 1,067 คัน และอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน
ขณะที่เมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรกว่า 400,000 คน และเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญทางใต้ติดทะเลของยูเครนตกในสถานการณ์ย่ำแย่ที่สุด หลังถูกทหารรัสเซียล้อมไว้มานาน 12 วัน และถูกยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ไม่หยุดจนพลเรือนเสียชีวิตไปแล้ว 1,582 คน
ขณะที่ประชาชนนับแสนติดอยู่ภายในเมือง ไม่มีทั้งอาหาร น้ำ และไฟฟ้า ทำให้ใช้เครื่องทำความร้อนไม่ได้มานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว
ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศยูเครน ระบุว่า กองทัพรัสเซียโจมตีมัสยิดในเมืองดังกล่าว โดยมัสยิดแห่งนี้ มีผู้ใหญ่และเด็กอีก 80 คน รวมพลเมืองตุรกีใช้เป็นสถานที่หลบภัย เบื้องต้นยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้คนเหล่านี้
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า รัสเซียไม่ยอมให้ประชาชนอพยพออกไปจากเมืองมารีอูปอล ส่วนทางรัฐบาลยูเครนจะพยายามที่จะส่งอาหารและยาเข้าไปในเมืองดังกล่าวในวันนี้ (12 มีนาคม) อีกครั้งหนึ่ง