สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อกลางเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง (Hypersonic Missile) แต่นิ่งเงียบเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ไม่รายงานสู่สาธารณะ เพื่อหลีกเลี่ยงความตึงเครียดกับรัสเซียที่อาจเพิ่มขึ้น
เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า ในการทดสอบอาวุธ Hypersonic Air-breathing Weapon Concept (HAWC) ถูกปล่อยจากเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 นอกชายฝั่งตะวันตก
ยูเครนสำรวจความเสียหายเมืองบูชา
ยูเครนประณามรัสเซีย สังหารหมู่พลเรือนกว่า 410 คน
รัสเซียใช้ขีปนาวุธ ‘คินชัล’ ทำลายโรงเก็บอาวุธในยูเครน
เมื่อปล่อยขีปนาวุธแล้ว เครื่องยนต์บูสเตอร์จะเร่งให้ขีปนาวุธมีความเร็วสูงขึ้น เมื่อถึงจุดหนึ่ง เครื่องยนต์เผาไหม้จะจุดไฟ และขับเคลื่อนขีปนาวุธให้มีความเร็วเหนือเสียงที่ 5 มัค (6,174 กม./ชม.) ขึ้นไป
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ขีปนาวุธดังกล่าวบินได้สูงกว่า 20 กม. และบินไปได้ไกลกว่า 480 กม. (ระยะทางจาก กรุงเทพฯ ไป จังหวัดเลย) ในระยะเวลาเพียง 5 นาที
การทดสอบดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากรัสเซียกล่าวว่า พวกเขาใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกของตัวเองในระหว่างการบุกยูเครน โดยอ้างว่าเล็งเป้าไปที่โกดังเก็บกระสุนในยูเครนตะวันตก
ในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ ทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ตรงกับช่วงที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังเตรียมเดินทางเยือนพันธมิตรนาโตในยุโรป รวมถึงการแวะที่โปแลนด์พอดี
ด้วยเหตุนี้ สหรัฐฯ จึงระมัดระวังที่จะไม่ดำเนินการใด ๆ หรือแถลงเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธ ที่อาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียโดยไม่จำเป็น
เมื่อวันศุกร์ (1 เม.ย.) สหรัฐฯ ก็ได้ยกเลิกการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปมินิตแมน III เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รัสเซียตีความผิด
การทดสอบขีปนาวุธ HAWC ของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อเดือน ก.ย. 2021 ทดสอบครั้งแรกสำเร็จ
สำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DARPA) ระบุว่า การทดสอบครั้งนี้บรรลุวัตถุประสงค์หลักทั้งหมด ทั้งขั้นตอนการปล่อยขีปนาวุธ การแยกตัวออกจากเครื่องบินอย่างปลอดภัย การเร่งบูสเตอร์ และการพุ่งไปยังเป้าหมาย
สหรัฐฯ หันกลับมาให้ความสำคัญกับอาวุธความเร็วเหนือเสียงอีกครั้ง หลังจากประสบรัสเซียและจีนต่างพากันออกมาประกาศความสำเร็จในการทดสอบอาวุธความเร็วเหนือเสียงของตนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้สหรัฐฯ กังวลว่าเทคโนโลยีทางการทหารของตนกำลังล้าหลังรัสเซียและจีน
ในงบประมาณความมั่นคง ปีงบประมาณ 2023 ฝ่ายบริหารของไบเดนได้ของบประมาณจำนวน 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2.4 แสนล้านบาท) สำหรับการพัฒนาอาวุธยิงระยะไกล ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก
นานาชาติประณามรัสเซีย หลังมีภาพศพพลเรือนเกลื่อนเมือง
ราคาน้ำมันโลกแนวโน้มปรับลง จากการระบายน้ำมันสำรองของสหรัฐ-พันธมิตร
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก CNN