เมืองมาริอูโปลสิ้นหวัง? ทหารขาดแคลนกระสุนปืน-อาหาร-น้ำดื่ม
นายกฯ ออสเตรียเตือน "รัสเซีย" เล็งโจมตีภาคตะวันออกของ "ยูเครน" อย่างหนัก
โฆษกกระทรวงกลาโหมยูเครน เปิดเผยว่า รัสเซียใกล้จะเสริมกำลังพลเสร็จสิ้นแล้ว สำหรับการโจมตีครั้งใหม่ในภูมิภาคดอนบาส โดยคาดว่า การสู้รบในพื้นที่ดังกล่าวจะเริ่มขึ้นเร็ว ๆ นี้
โดยทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่า รัสเซียกำลังพยายามระดมกำลังและสรรพกำลัง อาวุธสนับสนุนให้แก่กองทัพในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ก่อนหน้านี้ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้กล่าวในสภาเกาหลีใต้ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ว่า รัสเซียกำลังระดมกำลังทหารจำนวนมากสำหรับปฏิบัติการโจมตีรอบใหม่ทางตะวันออกของยูเครน
ด้านนายเซอร์กี ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ประกาศว่า ทางการมอสโกจะไม่หยุดปฏิบัติการทหารระหว่างการเจรจา หรือเพื่อเปิดการเจรจาใด ๆ กับรัฐบาลเคียฟหลังจากนี้
เมื่อวานนี้ (11 เม.ย.65) นายกรัฐมนตรีคาร์ล เนฮัมเมอร์ ของออสเตรีย ได้เดินทางเยือนรัสเซีย เพื่อพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยนับเป็นผู้นำชาติสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู (EU) คนแรกที่พบกับปูติน นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน
โดยหลังการหารือ ผู้นำออสเตรีย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปูตินไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ ที่ทำให้เขามองว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีเลย ขณะที่เห็นได้ชัดว่ารัสเซียเตรียมความพร้อมที่จะบุกทางตะวันออกของยูเครนเอาไว้แล้ว
ทั้งนี้ออสเตรียเป็นสมาชิกอียู และสนับสนุนการคว่ำบาตรรัสเซีย แต่ไม่เห็นด้วยกับการตัดการส่งก๊าซรัสเซีย นอกจากนี้ ยังเป็นกลางทางทหาร และไม่ได้เป็นสมาชิกนาโต
สหรัฐ-อังกฤษตรวจสอบใช้อาวุธเคมีในมารีอูปอล
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ และอังกฤษระบุว่า กำลังตรวจสอบคำกล่าวของทางการยูเครนที่ระบุว่ากองกำลังรัสเซียได้ใช้อาวุธเคมีในการโจมตีเมืองมารีอูปอล เนื่องจากมีรายงานว่าประชาชนในพื้นที่มีอาการผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ
คาดชาวเมืองมารีอูปอลเสียชีวิตกว่าหมื่นคน
ด้านนายกเทศมนตรีเมืองมารีอูปอล กล่าวว่า มีพลเรือนมากกว่าหนึ่งหมื่นคนเสียชีวิตภายในเมือง นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มเปิดฉากบุก โดยระบุว่า มีการพบศพไปทั่วถนนหนทางในเมือง และยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจจะมากกว่าสองหมื่นคน
นอกจากนี้ยังระบุว่า กองกำลังรัสเซียได้นำที่เผาศพแบบเคลื่อนที่ได้เข้ามาในเมือง เพื่อเผาศพเหล่านั้น และยังกล่าวหารัสเซียด้วยว่า ไม่ยอมอนุญาตให้ขบวนขนส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้ามา
เกษตรกรยูเครนยังรอเก็บเกี่ยวข้าวสาลี
พื้นที่เพาะปลูกของยูเครนท่ามกลางภาวะสงครามกันหน่อย เพราะยูเครนได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวสาลีมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก ซึ่งเกษตรกรในหมู่บ้านแห่งหนึ่งยังคงไม่อพยพหนีไปไหน รอเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวสาลี แม้จะกลัวการโจมตีของรัสเซีย
ที่หมู่บ้านยาคอฟลิฟกา (Yakovlivka) หมู่บ้านเล็กๆ ในภาคตะวันออกเฉียงของยูเครน มีการหว่านข้าวสาลีสำหรับฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่จะถึงนี้ไปแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะได้เก็บเกี่ยวได้แค่ไหน
หมู่บ้านแห่งนี้ถูกทิ้งระเบิด หลังกองกำลังรัสเซียบุกยูเครนได้หนึ่งสัปดาห์ โดยชาวบ้านบอกว่า รัสเซียอาจตั้งใจโจมตีทหารยูเครนที่ตั้งค่ายชั่วคราวในโรงเรียนในหมู่บ้าน ขณะที่ซึ่งหลังการโจมตี พวกเขาก็รู้สึกว่า ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนอีกแล้ว
บริษัทการเกษตรแห่งหนึ่ง ระบุว่า ปีที่แล้ว บริษัทเก็บเกี่ยวข้าวสาลีได้ 3,000 ตัน เมล็ดทานตะวัน 3,000 ตัน และข้าวโพด 1,000 ตัน แต่ตอนนี้ บริษัทไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ 80 เปอร์เซ็นต์ จากพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมดกว่า 40,000 ไร่ได้ เนื่องจากมีกับระเบิด และการสู้รบ
แม้จะอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอน เกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงไม่หนีออกจากหมู่บ้าน แต่ก่อนที่จะออกไปทำงานที่ทุ่งนา พวกเขาต้องเรียกหน่วยฉุกเฉินให้มาตรวจสอบว่าพื้นที่ปลอดภัยหรือไม่ และเมื่อมีจรวดตกลงในทุ่งนา หน่วยเก็บกู้ระเบิดก็จะลงพื้นที่เก็บกู้ทันที