เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวชายวัยรุ่นผิวขาว ผู้ลงมือก่อเหตุใช้ปืนไรเฟิลกราดยิงทั้งด้านในและด้านนอกซูเปอร์มาร์เก็ต "ท็อปส์" ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองบัฟฟาโล เมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัฐนิวยอร์ก ท่ามกลางศพผู้เสียชีวิตที่นอนเรียงรายเกลื่อนลานจอดรถ
โดยคนร้าย ซึ่งทราบชื่อในภายหลังว่า เพย์ตัน เจนดรอน (Peyton Gendron) วัย 18 ปี แต่งกายด้วยชุดลายพรางคล้ายเครื่องแบบทหาร
ปูติน ออกโรงเตือนฟินแลนด์ ร่วม “นาโต” เป็นความผิดพลาด
รัสเซียเจอวิกฤตไฟป่าอีกครั้ง ท่ามกลางสงครามที่ยังปะทุ
และเป็นคนต่างถิ่น ได้ขับรถเป็นระยะไกลหลายชั่วโมงเพื่อตั้งใจมาก่อเหตุในย่านคนดำของเมือง และในขณะก่อเหตุ ได้ไลฟ์สดเหตุการณ์ลงบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงออนไลน์ด้วย ซึ่งหลังจากถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมและกดดันอย่างหนัก สุดท้าย คนร้ายยอมวางอาวุธและให้จับกุมแต่โดยดี
เหตุกราดยิงครั้งนี้ เกิดขึ้นช่วงบ่ายวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานผู้เสียชีวิต 10 คน บาดเจ็บอีก 3 คน และเหยื่อเกือบทั้งหมดเป็นคนผิวดำ โดยในจำนวนผู้เสียชีวิต มีอดีตตำรวจที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำซูเปอร์มาร์เก็ตรวมอยู่ด้วย ซึ่งเจ้าตัวพยายามยิงต่อสู้กับคนร้าย
พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต เล่าว่า ตนได้ยินเสียงปืนดังมากกว่า 70 นัด ระหว่างที่วิ่งหลบหนีออกทางประตูด้านหลัง
ล่าสุด สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) กำลังสอบสวนในฐานะคดีอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง และแนวคิดสุดโต่งรุนแรงเกี่ยวกับเชื้อชาติ เนื่องจากพบว่าเคยโพสต์ในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับแนวคิดเรื่องประชากรผิวขาวที่ลดลงทั่วโลก และอาจถูกแทนที่โดยคนเชื้อชาติอื่น
เบื้องต้น คนร้ายถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีการวางแผนล่วงหน้า แต่คาดว่าอาจมีการเพิ่มข้อหาอีกในภายหลัง
ด้านนายไบรอน บราวน์ นายกเทศมนตรีเมืองบัฟฟาโล เปิดแถลงข่าว ระบุว่า นี่เป็นฝันร้ายที่สุดที่ชุมชนใดชุมชนหนึ่งอาจเผชิญได้ เราทุกคนเจ็บปวดและโกรธแค้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับนางแคธี โฮกัล (Kathy Hochul) ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ที่ระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเชิดชูคนขาวที่กระทำการในลักษณะทหาร หมายเอาชีวิตคนธรรมดาที่แค่มาจับจ่ายซื้อของใช้
ขณะทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน และสตรีหมายเลข 1 ได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และทั้งคู่ขอร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียทุกคน
