อังกฤษรายงานพบผู้ป่วยโรคหายาก “โรคฝีดาษลิง” คาดติดมาจากไนจีเรีย
ผู้เชี่ยวชาญเตือน การระบาดของ “ฝีดาษลิง” ไม่ปกติ แนะจับตาใกล้ชิด
ออสเตรเลีย เป็นประเทศล่าสุดที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง โดยเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากสหราชอาณาจักร ขณะนี้กักตัวแยกโรคอยู่ในโรงพยาบาลในเมลเบิร์น
นอกจากนี้ ยังมีเคสต้องสงสัยอีก 1 คน เป็นชายวัยประมาณ 40 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากยุโรป และมีอาการเข้าข่าย ขณะนี้กักตัวอยู่ที่บ้านในซิดนีย์ และกำลังรอผลตรวจยืนยัน
โดยช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในหลายประเทศที่ไม่ใช่ถิ่นระบาด ทั้งในยุโรปและอเมริกาเหนือ
ได้แก่ สหราชอาณาจักร โปรตุเกส สเปน อิตาลี สวีเดน แคนาดา และสหรัฐฯ ขณะที่ในฝรั่งเศส ตอนนี้พบเคสต้องสงสัย 1 คน
โรคฝีดาษลิงเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกับโรคฝีดาษในคนหรือไข้ทรพิษ แต่อาการรุนแรงน้อยกว่า พบครั้งแรกในลิงเมื่อปี 1958 ก่อนจะพบในคนเมื่อปี 1970 ส่วนใหญ่พบการระบาดในแอฟริกาตะวันตกแลแอฟริกากลาง และแพร่กระจายไปที่อื่นเป็นครั้งคราวเท่านั้น ดังนั้น การระบาดของฝีดาษลิงนอกแอฟริกาล่าสุดนี้จึงทำให้เกิดความกังวลไม่น้อย
จิมมี่ วิตเวิร์ธ ศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศของสถาบันสุขอนามัย และเวชศาสตร์เขตร้อนแห่งลอนดอน (London School of Hygiene and Tropical Medicine) กล่าวว่า ไม่เคยมีการพบผู้ป่วยโรคนี้นอกแอฟริกามากขนาดนี้มาก่อน ดังนั้น จากมุมมองของสาธารณสุข จึงค่อนข้างน่าตกใจ และเป็นสิ่งที่ต้องควบคุมโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ วิตเวิร์ธ เตือนว่าอย่าเพิ่งตื่นตระหนก เนื่องจากการแพร่เชื้อจากคนสู่คนแม้มีโอกาสน้อย ทำให้ไม่แพร่กระจายในประชากรวงกว้าง และเกิดการระบาดใหญ่เหมือนกับโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ วิตเวิร์ธ ตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดการเดินทางระหว่างประเทศอีกครั้งอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เชื้อกระจายไปทั่วโลก
นอกจากนี้ มีรายงานว่า ผู้ป่วยฝีดาษลิงที่พบช่วงหลังส่วน]ใหญ่จะเป็นผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มคนรักร่วมเพศ หรือผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย
โรคฝีดาษลิงสามารถติดต่อได้จากสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนอง การถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดข่วน การประกอบอาหารจากเนื้อสัตว์ป่า หรือกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ การสัมผัสที่นอนของสัตว์ป่วย โดยเชื้อจะมีระยะฟักตัว 5 วัน ถึง 3 สัปดาห์ อาการได้แก่ มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น อ่อนเพลีย มีผื่นขึ้นบริเวณแขนขา ใบหน้าและตามตัว ก่อนจะกลายเป็นตุ่มหนอง อาการรุนแรงมักพบในกลุ่มเด็ก ขณะที่อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 1 เปอร์เซ็นต์
สำหรับการรักษา ไม่มีการรักษาเฉพาะเจาะจง โดยสามารถฉีดวัคซีนไข้ทรพิษ ป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ 85% ขณะที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 2 – 4 สัปดาห์
ทั้งนี้ ทางกรมควบคุมโรคของไทยได้เตือนประชาชนแม้มีโอกาสติดน้อย แต่ให้เฝ้าระวัง พร้อมแนะนำวิธีป้องกันโรคฝีดาษลิง ได้แก่ หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ติดเชื้อหรือสัตว์ป่า หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก ไม่นำสัตว์ป่ามาเลี้ยง หรือนำเข้าสัตว์ป่าจากต่างประเทศมาเลี้ยง หากกลับจากประเทศที่เป็นเขตติดโรคให้เฝ้าระวังอาการ 21 วัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422