นาย เซอเฮย์ ไฮได ผู้ว่าการเขตลูฮันสก์ของยูเครน ระบุว่าสาเหตุที่ทำให้อาจต้องถอนทหารออกจากเมืองซีวีโรโดเน็ทสก์ เป็นเพราะไม่ต้องการให้ทหารยูเครนในพื้นที่ตกอยู่ภายใต้วงล้อมของกองกำลังรัสเซีย ซึ่งขณะนี้เป้าหมายหลักคือการยึดภูมิภาคดอนบาสให้ได้ทั้งหมด
โดย ไฮได เปิดเผยถึงสถานการณ์ในเมืองซีวีโรโดเน็ทสก์ว่าทหารรัสเซียได้เคลื่อนกำลังเข้าสู้พื้นที่บางส่วนแล้ว และขณะนี้ที่พักอาศัยของประชาชนเกินครึ่งถูกทำลาย อาคารเกือบทุกหลังได้รับความเสียหาย
ปธน.ยูเครน จวกรัสเซียทำลายสันติภาพ หลังเซ็นรับรองเอกราช 2 แคว้น
ยูเครนเตือนควันพิษ หลังรัสเซียบุกโจมคลังน้ำมันในกรุงเคียฟ
โดยประชาชนที่ยังอยู่ในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าเหลืออยู่ประมาณ 10,000 คน จาก 100,000 ต้องอพยพไปอยู่ตามศูนย์พักพิงต่างๆ ส่วนถนนซึ่งเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นที่ยังอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพยูเครนยังเกิดการยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง แต่ยังสามารถใช้เป็นเส้นทางสัญจรได้
ขณะที่ ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซลินสกี้ ผู้นำยูเครนแถลงเมื่อวานนี้ว่าสถานการณ์ในภูมิภาคดอนบาสขณะนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก หลังจากรัสเซียได้ยกระดับการโจมตีและส่งกำลังทหารเข้าสู่ภูมิภาคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม เซลินสกี ให้คำมั่นว่าภูมิภาคดอนบาสจะต้องกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนอีกครั้ง
นอกจากนี้รัฐบาลยูเครนได้ร้องขอนานาชาติส่งอาวุธพิสัยการยิงระยะไกลเพื่อนำมาต่อสู้กับกองทัพรัสเซียที่กำลังรุกคืบเข้าสู่พื้นที่ทางภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง
โดย จอห์น เคอร์บี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯระบุว่าได้รับทราบความต้องการของยูเครนแล้ว แต่ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆเกิดขึ้น
ขณะที่ ลิซ ทรัสส์ (Liz Truss) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษได้พยายามกระตุ้นให้กลุ่มประเทศตะวันตกยังคงให้การสนับสนุนยูเครนต่อไป โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธ
นอกจากนี้ ทรัสส์ ยังแสดงความไม่เห็นด้วยที่จะมีการเจรจาหยุดยิง หรือยอมทำตามข้อเสนอของ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดย ทรัสส์ ย้ำว่า ชาติตะวันตกต้องช่วยให้ยูเครนได้รับชัยชนะ เพื่อไม่ให้รัสเซียแสดงพฤติกรรมแข็งกร้าวช่นนี้อีก
สำหรับการสู้รบเมื่อวานนี้ (วันศุกร์) รัสเซียได้เน้นไปที่สองเมือง คือเมืองซีวีโรดอเนตสก์ และเมืองลีซิชันสก์ (Lysychansk) ซึ่งเป็นสองเมืองสุดท้ายที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครนในเขตงลูฮันสก์ (Luhansk) หนึ่งในสองเขตปกครองที่อยู่ในภูมิภาคดอนบาส
นอกจากนี้ยังมีเมืองลายแมน (Lyman) อีกพื้นที่สำคัญในเขตโดเนตสก์ที่รัสเซียพยายามเข้ายึดครองเนื่องจากเป็นชุมทางรถไฟขนาดใหญ่ของภูมิภาค แต่โอเล็กซานเดอร์ โมทูซิอานิค (Oleksandr Motuzyanyk) โฆษกกระทรวงกลาโหมยูเครนยืนยันว่าทหารยูเครนยังคงต่อสู้เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายรัสเซียเคลื่อนกำลังเข้าสู่พื้นที่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองได้
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยูเครนยังยืนยันว่าทหารยูเครนยังคงพยายามรักษาแนวรบในภูมิภาคดอนบาส แม้รัสเซียพยายามเดินหน้าเข้ายึดพื้นที่ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย อ้างว่าสามารถบุกยึดเมืองลายแมนได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว ซึ่งรัสเซียต้องการใช้เมืองแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นในการส่งกำลังบุกอีก 2 เมืองใหญ่ในเขตโดเน็ตสก์ นั่นคือ ครามาท็อกสก์ (Kramatorsk) และ เมืองสลอฟยันสก์ (Slovyansk)
ขณะที่ รามซาน คาดิรอฟ (Ramzan Kadyrov) ผู้นำสาธารณรัฐเชเชน ในรัสเซีย ซึ่งมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ ปูติน เรียกร้องให้โปแลนด์ถอนอาวุธและกำลังทหารรับจ้างออกจากยูเครน รวมทั้งทบทวนนโยบายช่วยเหลือยูเครนในกรต่อสู้กับรัสเซีย
นอกจากนี้ คาดิรอฟ ยังเรียกร้องให้โปแลนด์ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่ เซอร์เกย์ แอนเดรเยฟ (Sergei Andreyev) เอกอัคราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอซอร์ถูกกลุ่มผู้ประท้วงสงครามสาดของเหลวสีแดงใส่ขณะทำธีวางดอกไม้ที่อนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา