ดร. ซิลเวีย ไบรอันด์ ผู้อำนวยการแผนกการระบาดทั่วโลกและโรคระบาดขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโรคฝีดาษลิงเมื่อวานนี้ โดยเน้นย้ำว่า ความสำคัญอันดับแรก คือ การควบคุมการระบาดของโรคดังกล่าวในประเทศที่ไม่ได้กำหนดให้เป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการดำเนินการอย่างรวดเร็ว
WHO คาดพบผู้ป่วย “โรคฝีดาษลิง” เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก
องค์การอนามัยโลกยืนยันจะควบคุมการระบาดของ “ฝีดาษลิง” ได้
ทั้งนี้ โรคฝีดาษลิง ปกติแล้วผู้ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการรุนแรง ถือเป็นโรคประจำถิ่นในหลายประเทศของแอฟริกา แต่ปัจจุบันมีการระบาดในประเทศที่ไม่ได้กำหนดให้เป็นโรคประจำถิ่น เช่น ในยุโรปและสหรัฐฯ
ซึ่งเพิ่มความวิตกกังวล จนถึงขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อหรือต้องสงสัยแล้วมากกว่า 300 คนในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่เคยมีการระบาดของไวรัสฝีดาษลิงมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ดร.ซิลเวีย ระบุว่า หากบังคับใช้มาตรการที่ถูกต้องเหมาะสม ก็สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ง่าย พร้อมย้ำว่า ยังมีโอกาสในการป้องกันการระบาดมากกว่านี้ และขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล เพราะไวรัสชนิดนี้ระบาดช้ากว่าไวรัสประเภทอื่น เช่น โควิด
นอกจากนี้ยังย้ำว่า เวลานี้ยังไม่จำเป็นต้องเริ่มการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสฝีดาษลิงในประชากรจำนวนมาก แต่ให้ฉีดวัคซีนป้องกันให้กับผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อก็พอ
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคฝีดาษลิงทั่วโลก ล่าสุด อาร์เจนตินายืนยันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงสองรายแรกในประเทศ ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกในแถบลาตินอเมริกา ขณะที่ สหราชอาณาจักร ถือเป็นประเทศแรกๆที่มีรายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 106 คน
ก่อนหน้านี้มีรายงานยืนยันพบการระบาดของฝีดาษลิงในหลายประเทศในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และภูมิภาคตะวันออกกลาง