เมื่อวันจันทร์ (30 พ.ค.) ที่ผ่านมา รัฐบาลแคนาดาได้เสนอใช้กฎหมายฉบับใหม่เพื่อควบคุมการขายและการซื้อปืนพกให้เข้มงวดขึ้น โดยรายละเอียดจะรวมถึงการกำหนดความจุของแม็กกาซีนกระสุนปืน และห้ามการขายของเล่นบางประเภทที่ดูเหมือนปืน
กฎหมายฉบับใหม่นี้จะนำมาตรการบางอย่างที่ถูกยกเลิกเมื่อปีที่แล้วกลับมาบังคับใช้ใหม่ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังจากเกิดเหตุมือปืนบุกกราดยิงโรงเรียนประถมศึกษาในเท็กซัส สหรัฐฯ จนเด็กนักเรียน 19 คนและครู 2 คนเสียชีวิต
ส่องกฎหมายอาวุธปืนแต่ละประเทศ หลังมีกระแสแก้กฎหมายปืนในสหรัฐฯ อีกครั้ง
เด็กที่รอดจากเหตุกราดยิงเท็กซัสเผย “เอาเลือดเพื่อนทาตัวเพื่อแกล้งตาย”
หนุ่ม 18 กราดยิงโรงเรียนประถมในเทกซัส เด็ก-ครูดับรวม 21 ราย
นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด กล่าวว่า แคนาดาจำเป็นต้องมีมาตรการใหม่ เนื่องจากมีความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนเพิ่มมากขึ้น “หากมองไปยังประเทศทางใต้ของเรา (สหรัฐฯ) ก็จะรู้ว่า หากเราไม่ดำเนินการอย่างจริงจังและรวดเร็ว สถานการณ์จะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ และรับมือได้ยากขึ้น”
กฎหมายควบคุมปืนพกฉบับใหม่นี้จะมีข้อยกเว้นสำหรับนักกีฬายิงปืน นักกีฬาโอลิมปิก และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่วนชาวแคนาดาที่มีปืนพกอย่างถูกต้องอยู่ก่อนหน้านี้แล้วจะได้รับอนุญาตให้ครอบครองไว้ได้
เดิมทีแคนาดามีกฎหมายเกี่ยวกับปืนที่เข้มงวดกว่าสหรัฐฯ แต่อัตราการก่อเหตุรุนแรงด้วยอาวุธปืนของแคนาดาก็ยังสูงกว่าประเทศร่ำรวยอื่น ๆ และกำลังเพิ่มขึ้น เฉพาะในปี 2020 มีอัตราการเกิดความรุนแรงจากปืนมากกว่าออสเตรเลียถึง 5 เท่า
เมื่อ 2 ปีก่อน แคนาดาสั่งห้ามการขายและใช้อาวุธปืน 1,500 รุ่น เช่น ปืนไรเฟิล AR-15 หลังเกิดเหตุกราดยิงในเมืองปอร์ตาปิเก รัฐโนวาสโกเทีย
กฎหมายใหม่นี้จะป้องกันไม่ให้ใครก็ตามที่อยู่ภายใต้คำสั่งคุ้มครอง หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงในครอบครัว หรือสะกดรอยตาม ได้รับหรือรักษาใบอนุญาตอาวุธปืน
นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องเปลี่ยนแม็กกาซีนปืนยาวอย่างถาวร เพื่อไม่ให้บรรจุได้เกิน 5 นัด และจะห้ามการขายและมอบแม็กกาซีนปืนความจุสูง กฎหมายใหม่ยังห้ามการขายของเล่นบางอย่างที่ดูเหมือนปืนจริง เช่น ปืนไรเฟิลอัดลม
เรียบเรียงจาก Reuters
ภาพจาก AFP
เฉิดฉายจากสงครามยูเครน “โดรนตุรกี” มีลูกค้าสนใจมากขึ้น
อนามัยโลกชี้ “ฝีดาษลิง” เป็น “ภัยเสี่ยงระดับปานกลาง” ต่อสาธารณสุขโลก