เทดรอส เกรเบเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) เปิดเผยว่า ในวันพฤหสับดีของสัปดาห์หน้า จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการฉุกเฉิน เพื่อประเมินว่าการระบาดของโรคฝีดาษลิงในขณะนี้เป็นสภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศหรือไม่
โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงแล้วประมาณ 1,600 คน อีก 1,500 คน มีอาการต้องสงสัย และ มีผู้เสียชีวิต 72 คน ใน 39 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศที่ไวรัสชนิดนี้ระบาดอยู่เป็นประจำ
WHO เผยข้อเท็จจริง "ฝีดาษวานร" เมื่อติดเชื้อแล้วใช้ยาอะไรรักษา
สวค.จับมือ สธ.นำโมเดลวิศวกรรมพัฒนาการดูแลใน รพ. พร้อมรับมือ“ฝีดาษวานร”
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อดาษลิงที่ได้รับรายงานเริ่มลดลง แต่เชื่อว่าตัวเลขยังน่าจะต่ำกว่าความเป็นจริงเพราะมีการตรวจน้อยลง และตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะพิจารณายกระดับการรับมือและควรมีความร่วมมือในระดับนานาชาติ เพราะไวรัสดาษลิงกำลังมีพฤติกรรมผิดไปจากเดิม ขณะที่ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงไม่ควรรอให้สถานการณ์เลวร้ายจนเกินควบคุม
สำหรับสภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศขององค์การอนามัยโลก เป็นระดับเตือนภัยสูงสุดขององค์กรดังกล่าว ที่กำหนดให้นานาประเทศต้องสร้างความร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งปัจจุบันมี 2 โรค ที่ถูกจัดให้เป็นสภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ คือ โควิด-19 และ โปลิโอ
ขณะเดียวกันทีมโฆษกองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่าทางหน่วยงานมีแผนเปลี่ยนชื่อโรคฝีดาษลิงไปใช้ชื่ออื่น เนื่องจากชื่อเดิมไม่เป็นไปตามแนวปฏิบัติของดับเบิลยูเอชโอ ซึ่งเลี่ยงการตั้งชื่อโรคที่สื่อถึงภูมิภาคหรือสัตว์ เพื่อไม่ให้คนบางกลุ่มหรือสัตว์บางชนิดถูกตีตรา
โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์กว่า 30 รายทั่วโลกมองว่า การใช้ชื่อโรคฝีดาษลิงสะท้อนถึงการเลือกปฏิบัติและการตีตรา โดยจำเป็นต้องรีบเปลี่ยนชื่อ ในทำนองเดียวกับที่เปลี่ยนชื่อทางการของไวรัสซาร์ส-โคฟ-ทู ( SARS-CoV-2 ) เป็นโควิด-19 หลังจากที่ทั่วโลกเรียกไวรัสดังกล่าวว่าเป็นไวรัสจีน หรือไวรัสอู่ฮั่น
สหรัฐยกระดับเตือนภัย “ฝีดาษลิง” หลังพบผู้ติดเชื้อเกินพันคนแล้ว
หมอตั้งข้อสงสัยประสิทธิผลวัคซีนฝีดาษ หลังเยอรมันพบทหารป่วย "ฝีดาษลิง"
