นับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลายชาติยุโรปได้ร่วมกันใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย เพื่อสนับสนุนยูเครน ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นระหว่างรัสเซียกับบรรดาชาติยุโรป
แต่ล่าสุด ความตึงเครียดนี้กำลังเพิ่มสูงขึ้นเพราะ “คาลินินกราด (Kaliningrad)” ซึ่งเป็นอาณาเขตรัสเซียที่ถูกล้อมรอบด้วยประเทศยุโรปและสมาชิกนาโต (NATO) และมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์บนชายฝั่งทะเลบอลติก จนมีแนวโน้มว่า พื้นที่เล็ก ๆ นี้ อาจเป็น “ชนวน” ใหม่ที่จะยกระดับความขัดแย้งรัสเซีย-ยุโรปให้คุกรุ่นยิ่งขึ้น
รัสเซียเตรียมนำ “ขีปนาวุธข้ามทวีป” มาใช้งานจริงภายในสิ้นปีนี้
ทำไมยูเครนยังลำบากในสมรภูมิดอนบาส? แม้มีอาวุธจากชาติตะวันตก
รัสเซียขู่ตอบโต้ หลังสินค้าบางอย่างถูกห้ามขนส่งผ่านอาณาเขตลิทัวเนีย
คาลินินกราดคืออะไร? และเกิดอะไรขึ้นกับมัน?
คาลินินกราดเป็นภูมิภาคเล็ก ๆ ของรัสเซียที่มีพรมแดนติดกับลิทัวเนียและโปแลนด์ โดยไม่ได้อยู่ติดกับแผ่นดินส่วนอื่นของรัสเซียเลย เพราะถูกคั่นด้วยลิทัวเนีย ลัตเวีย และเบลารุส
ซึ่งหากรัสเซียแผ่นดินใหญ่และคาลินินกราดต้องการขนส่งสินค้าระหว่างกันผ่านทางบก เช่น รถไฟ ก็จะต้องขนส่งผ่านเส้นทาง เบลารุส-ลิทัวเนีย หรือลัตเวีย-ลิทัวเนีย เท่านั้น
ทั้งนี้ ลัตเวียกับลิทัวเนียในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต และได้เอกราชของตัวเองในปี 1991 เช่นเดียวกับยูเครน แต่ปัญหาคือ ปัจจุบันทั้งสองประเทศเป็นสมาชิกของกลุ่มนาโต ดังนั้นหากต้องเลือกเส้นทางขนส่ง รัสเซียก็จะเลือก เบลารุส-ลิทัวเนีย เพราะเบลารุสเป็นพันธมิตรคนสำคัญของรัสเซีย
ส่วนลิทัวเนียนั้นก็ได้มีการทำข้อตกลงพิเศษกันไว้ ในการเปิดอาณาเขตให้สามารถขนส่งสินค้าระหว่างรัสเซียแผ่นดินใหญ่และคาลินินกราดได้
แต่ล่าสุดเกิดเหตุการณ์ที่อาจยกระดับความขัดแย้ง เพราะลิทัวเนียได้สั่งห้ามไม่ให้มีการขนส่งสินค้าบางรายการด้วยรถไฟผ่านอาณาเขตของตัวเอง โดยจะเป็นสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรตามนโยบายและมติของสหภาพยุโรป
ลิทัวเนียให้เหตุผลว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขการคว่ำบาตรรัสเซียของสหภาพยุโรป ไม่ใช่การตัดสินใจจากความขัดแย้งส่วนตัว และทางสหภาพยุโรปเอง ก็ออกมาหนุนหลังข้ออ้างของลิทัวเนีย และยืนยันว่า ลิทัวเนียไม่มีความผิดในเรื่องนี้
โจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวว่า ลิทัวเนียเพียงบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรตามมติของสหภาพยุโรปเท่านั้น แต่เขากังวลเรื่องความเสี่ยงที่จะถูกรัสเซียตอบโต้ และกล่าวหารัสเซียว่า พยายามโฆษณาชวนเชื่อด้วยข้อมูลเท็จ
“ผมกังวลอยู่เสมอเกี่ยวกับการตอบโต้ของรัสเซีย แต่ข้อควรทราบประการแรกคือ มันไม่ได้มีการปิดล้อม ไม่ได้มีการสั่งห้ามการขนส่งทางบกระหว่างคาลินินกราดกับพื้นที่อื่น ๆ ของรัสเซีย ประการที่สอง การขนย้ายผู้คนและสินค้าที่ไม่ได้ถูกคว่ำบาตรก็ยังดำเนินได้อยู่ ประการที่สาม ลิทัวเนียไม่ได้ออกคำสั่งห้ามอยู่เพียงประเทศเดียวโดยพลการ” บอร์เรลล์กล่าว
เขาเสริมว่า “ลิทัวเนียไม่มีความผิด พวกเขาไม่ได้ดำเนินการคว่ำบาตรด้วยตัวเอง มันไม่ได้เป็นการดำเนินการตามเจตจำนงของพวกเขาเอง สิ่งที่พวกเขากำลังทำเป็นผลมาจากมติการปรึกษาหารือกับคณะกรรมาธิการยุโรปก่อนหน้านี้ซึ่งได้จัดทำแนวทางไว้ และเป็นการนำแนวทางไปปฏิบัติ”
หลังเกิดเรื่อง โฆษกของรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เปสคอฟ กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และรัสเซียจะถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียขู่ว่า จะตอบโต้การกระทำดังกล่าวของลิทัวเนีย
ด้าน นิโคไล พาตรูเชฟ เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซียกล่าวว่า “รัสเซียจะตอบโต้ต่อการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ดังกล่าวอย่างแน่นอน เรากำลังหารือมาตรการต่าง ๆ และจะนำมาดำเนินการในอนาคตอันใกล้ ผลที่ตามมาจะส่งผลเสียอย่างร้ายแรง จะส่งผลกระทบต่อประชากรลิทัวเนีย”
สินค้ารัสเซียที่ถูกสหภาพยุโรปคว่ำบาตรและห้ามมีการขนส่งไปยังดินแดนของรัสเซีย ประกอบด้วย เครื่องจักรก่อสร้าง เครื่องมือกล อุปกรณ์ภาคอุตสาหกรรม เหล็กและสินค้าที่ทำจากเหล็ก รวมถึงสินค้าฟุ่มเฟือยบางรายการ
อุปทูตลิทัวเนียในรัสเซียถูกเรียกตัวไปยังกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันจันทร์ (20 มิ.ย.) และได้รับแจ้งว่า หากการขนส่งสินค้าไปยังภูมิภาคคาลินินกราดยังถูกขัดขวาง รัสเซียจะใช้สิทธิ์ในการ “ดำเนินการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ”
แหล่งกองกำลังทหารและอาวุธนิวเคลียร์?
เดิมคาลินินกราดเคยเป็นดินแดนของเยอรมนี ใช้ชื่อว่า โคนิกสแบร์ก แต่ถูกยึดโดยกองกำลังโซเวียตในปี 1945 แล้วถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็นคาลินินกราดในปี 1946
หลังจากถูกโซเวียตยึดมาได้จนถึงสมัยที่เปลี่ยนมาเป็นรัสเซีย คาลินินกราดก็กลายเป็นภูมิภาคปิดที่ห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติเข้าตลอดเวลาหลายทศวรรษ และเป็นพื้นที่ที่มีกำลังทหารประจำการจำนวนมาก โดยเฉพาะกองทัพเรือ เพราะเป็นพื้นที่เดียวของรัสเซียที่เชื่อมออกสู่ทะเลบอลติก ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ รวมถึงมีรายงานว่า มีขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงประจำการอยู่ด้วย
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัสเซียเปลี่ยนคาลินินกราดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเติบโต และเป็นหนึ่งในสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมาด้วย
คาลินินกราดยังเป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการใหญ่กองเรือบอลติกรัสเซีย โดยล่าสุดเมื่อวันจันทร์ (20 มิ.ย.) RIA Novosti สื่อรัสเซีย รายงานว่า กองทัพเรือรัสเซียในคาลินินกราดได้เริ่มวางแผนซ้อมรบด้วยจรวดและปืนใหญ่ “ในการซ้อมรบจะมีกำลังทหารประมาณ 1,000 นาย หน่วยปืนใหญ่และขีปนาวุธมากกว่า 100 หน่วย”
ความสำคัญของคาลินินกราดยังมีมากขึ้น เมื่อสวีเดนและฟินแลนด์ ซึ่งมีพื้นที่ติดกับทะเลบอลติก แสดงท่าทีต้องการเข้าเป็นสมาชิกนาโต ซึ่งรัสเซียถือว่าเป้นภัยคุกคามต่อรัสเซียอย่างมากในภูมิภาคบอลติก
ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย กล่าวเมื่อเดือน พ.ค. ว่า “หากสวีเดนและฟินแลนด์เข้าร่วมนาโต การพูดเรื่องสถานะรัฐปลอดนิวเคลียร์ของกลุ่มประเทศทะเลบอลติกจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป เราจะต้องนำความสมดุลคืนมา”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในปี 2015 มีรายงานว่า รัสเซียได้ขนย้ายขีปนาวุธอิสคานเดอร์ (Iskander) ที่อาจใช้หัวรบนิวเคลียร์ไปยังภูมิภาคคาลินินกราด เพื่อคานอำนาจนาโตในทะเลบอลติก
ที่ผ่านมา รัสเซียไม่เคยยอมรับว่ามีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในคาลินินกราด แต่ในปี 2018 สหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกันได้วิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม และได้ข้อสรุปว่า รัสเซียได้ปรับปรุงโรงเก็บเก็บอาวุธนิวเคลียร์ในคาลินินกราดให้ทันสมัย
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นไปได้ว่า จากความต้องการเข้าร่วมนาโตของสวีเดนและฟินแลนด์ ประกอบกับการคว่ำบาตรจากประเทศยุโรปที่อยู่ใกล้กับคาลินินกราด อาจทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคทะเลบอลติกตึงเครียดขึ้น จนอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม
เรียบเรียงจาก CNN / The Guardian
ภาพจาก AFP / Shutterstock
ไต้หวันส่งเครื่องบินรบ เตือนเครื่องบินจีนบินเข้าใกล้
ยูเครน เผย แอฟริกาเป็นตัวประกันในสงครามรัสเซีย-ยูเครน
โควิดวันนี้ (22 มิ.ย.65) ป่วยใหม่กลับมาทะลุ 2 พัน ยอด ATK อีก 4,533 ราย