36ข่าวแห่งปี : ส่องความเคลื่อนไหวราชวงศ์ต่างประเทศ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




พีพีทีวี นิวมีเดีย คัดเลือก 36 ข่าวแห่งปี 2563 โดยตลอดทั้งปีนี้ ราชวงศ์ในต่างประเทศมีความน่าสนใจยิ่ง ข่าวการประกาศลาออกจากสมาชิกราชวงศ์ของ เจ้าชายแฮรี่และ เมแกน ดัชเชส ออฟ ซัสเซกซ์ ของฝั่งตะวันตกราชวงศ์อังกฤษ การสถาปนา "เจ้าชายอากิชิโนะ" เป็นมงกุฎราชกุมารของราชวงศ์ญี่ปุ่น และเรื่องน่าเศร้ากับการสิ้นพระชนม์เจ้าชายอับดุล อาซิม แห่งบรูไน

เริ่มต้นที่ฟากฝั่งราชวงศ์วินเซอร์ หลังพิธีเสกสมรสเมื่อปี 2561 ที่คนทั้งโลกจับตามองระหว่างน.ส.เมแกน มาร์เคิล วัย 36 ปี สตรีสามัญชน ลูกครึ่งอเมริกัน-แอฟริกัน และนักแสดงฮอลลีวูด ทั้งยั้งเคยหย่าร้างกับสามี เข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รี่ วัย 33 พรรษา

36ข่าวแห่งปี : "ทรงพระเจริญ" ก้องแผ่นดิน พสกนิกร ปีติ จงรัก ภักดี

36ข่าวแห่งปี : ลมเปลี่ยนทิศที่ “คัมป์ นู” ในวันที่เมสซี่ต้องการย้ายทีม

ธรรมเนียมปฏิบัติพิธีเสกสมรส “เจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน”

ทั้งคู่ปฏิบัติกรณียกิจและตามเสด็จควีนเอลิซาเบธที่ 2 จนได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นคู่ขวัญแห่งราชวงศ์และได้รับความสนใจทุกครั้งที่ปรากฏ จากนั้นในปีเดียวกัน พระราชวังเคนซิงตัน ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า เมแกน พระชายาในเจ้าชายแฮร์รี่ ทรงพระครรภ์

“ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์” ทรงพระครรภ์ทายาทพระองค์แรก

ท่ามกลางกระแสข่าวที่เริ่มออกมาจากวงในว่า หลายครั้งที่ เมแกน มีความประพฤติที่ขัดต่อกฎระเบียบอันสุดแสนจะเคร่งครัด ตลอดจนขัดราชประเพณีบางอย่างของราชวงศ์ จน  ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เคยทรงตักเตือนเจ้าชายแฮร์รี่ พระราชนัดดา เกี่ยวกับความประพฤติและทัศนคติที่ยุ่งยากของเมแกน

ชาวเน็ตฮือฮา “ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์” ปิดประตูรถเอง

ราชสำนักอังกฤษเร่งผ่าทางตันปมเจ้าชายแฮร์รี-เมแกน

ราชวงศ์อังกฤษ หารือบทบาทเจ้าชายแฮร์รี่-เมแกนในอนาคต

สื่ออังกฤษเริ่มขุดคุ้ยและจับตาดูทุกฝีก้าวของทั้งคู่ กระแสข่าวต่างๆ ไม่เพียงแต่พุ่งที่พฤติกรรมของเมแกนเท่านั้น แต่ยังคงรวมไปถึงความขัดแย้งกับสมาชิกราชวงศ์ เช่น อย่างครั้งหนึ่ง เมแกน ต้องการยืมเทียร่าจากสำนักงานเก็บเครื่องประดับของราชวงศ์อังกฤษ เพื่อนำไปใส่ในงานเลี้ยง แต่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เตือน เมแกน (ลูกสะใภ้) ว่า การทำเช่นนี้อาจทำให้ถูกมองว่าหรูหราฟุ่มเฟือยเกินไป

พระสหายคนหนึ่งของเจ้าชายวิลเลียม ออกมาเปิดเผยว่า เจ้าหญิงเคท ทรงพยายามอธิบายเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ของการเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษกับเมแกน แต่คำแนะนำของเจ้าหญิงเคท ไม่ได้รับการตอบรับด้วยดี โดยเจ้าหญิงเคท ได้บอกกับเพื่อนๆ ว่า รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและรู้สึกว่า เจ้าชายแฮร์รี่กำลังเปลี่ยนไป

จากนั้นเริ่มมีการจับสังเกตความสัมพันธ์ของ 2 สะใภ้หลวง เช่น เจ้าหญิงเคท ไม่เชิญ เมแกน มาร่วมในงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันประสูติปีที่ 37 เจ้าชายวิลเลียม ทรงมีท่าทีเย็นชากับเมแกน เป็นต้น ตลอดจนข่าวลือถึงการใช้จ่ายเงินราชวงศ์ของทั้งคู่ที่มาจากภาษีของประชาชน เช่น  การจัดงานเลี้ยง การใช้เงินตกแต่งซ่อมแซม พระตำแหนักที่ประทับ การลาออกของข้าราชบริพาร คณะรักษาความปลอดภัยต่างๆ ที่หลายระลอก

จนกระทั่ง เจ้าชายอาร์ชี มีพระประสูติกาลในปี 2562 ทั้งคู่ นำพระโอรสออกมาให้สื่อมวลชนได้บันทึกภาพเป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้แถลงการณ์ว่า ขอความเป็นส่วนตัว และไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการให้กำเนิดทายาท ซึ่งถือว่า เป็นการแหวกขนบธรรมเนียมของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษที่ได้ปฏิบัติกันมาโดยตลอด 40 ปี ตลอดจนกระแสข่าวสั่งปลดพระพี่เลี้ยง 3 คนในช่วงเวลา 1 เดือน

รอยร้าวและปัญหาถูกบ่มเพาะอยู่ในราชวงศ์มาตลอด ท่ามกลางการโจมตีของสื่ออังกฤษและแท็บลอยด์ต่างๆถึงภาพลักษณ์ของทั้งคู่ จนเจ้าแฮรี่ ออกมาเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน พร้อมระบุว่า “ข้าพเจ้าได้สูญเสียมารดา และขณะนี้ กำลังดูภรรยาของตัวเอง ตกเป็นเหยื่อของอิทธิพลจากสื่อ ในลักษณะเดียวกัน”

จากนั้นไม่นานยังทรง ให้สัมภาษณ์สื่อในรายการทีวีว่า ตนเองมีปัญหาขัดแย้งกับเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา ทรงเดินบนเส้นทางที่ต่างกัน ขณะที่เมแกน บอกว่า เพื่อนหลายๆ คนของเธอในอังกฤษแนะนำว่าไม่ควรแต่งงานกับเจ้าชายแฮร์รี่ เพราะจะถูกสื่อในอังกฤษทำลายชีวิตได้

เจ้าชายวิลเลียม-เจ้าชายแฮร์รี ปฎิเสธข่าวไม่ลงรอยกัน

ในที่สุด เจ้าชายแฮรี่ และ เมแกน ตัดสินพระทัยทรงออกแถลงการณ์ สละสถานะราชวงศ์ชั้นสูง และ จะทรงหาเงินเลี้ยงชีพด้วยพระองค์เอง โดยไม่พึ่งพากองทุนของราชสำนัก แต่จะยังคงทำงานสนับสนุนสมเด็จพระราชินี อย่างเต็มที่ต่อไป

ราชวงศ์อังกฤษผิดหวัง "แฮร์รี่-เมแกน" ขอลดบทบาท

ซึ่งหลังจากนั้น เจ้าชายแฮรี่ และ เมแกน ย้ายมาอยู่ที่ นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในฐานะสามี ภรรยา และชีวิตที่อิสระซึ่งรวมถึงการทำงานหาเลี้ยงชีพเองด้วย เช่น การบรรลุข้อตกลงกับ “เน็ตฟลิกซ์” เพื่อผลิตรายการต่างๆ การปรากฏตัวเป็น แขกรับเชิญในรายการพอดแคสต์ Teenage Therapy เป็นต้น

และล่าสุด เมแกน ได้ทำให้หลายคนช็อกด้วยการเปิดเผย ว่าตนได้แท้งบุตรคนที่ 2 เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เธอและเจ้าชายแฮร์รี่ ดยุคแห่งซัสเซกซ์ เศร้าโศกเสียใจอย่างมาก

ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์เผยทรงแท้งลูกคนที่ 2 เมื่อเดือน ก.ค.

ห้าม "เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน" ใช้ตรา Sussex Royal

พระชายา“เมแกน” รับพากย์เสียงให้ “ดิสนีย์” แลกเงินการกุศล

 

ราชวงศ์อิมพีเรียล สถาปนา "เจ้าชายอากิชิโนะ" เป็นมงกุฎราชกุมาร พร้อมทรงอนุญาตให้เจ้าหญิงมาโกะ พระธิดา เสกสมรสกับเคอิ โคมุโระ แฟนหนุ่มซึ่งเป็นสามัญชน

พระราชพิธีสถาปนา "มกุฎราชกุมาร" หรือรัชทายาทลำดับที่ 1 ของราชวงศ์ญี่ปุ่น จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย โดยถือเป็นพระราชพิธีสำคัญสุดท้าย ที่สืบเนื่องมาจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ ซึ่งเกิดขึ้นหลังการสละราชสมบัติของพระราชบิดา สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ เมื่อปีก่อน

เจ้าชายอากิชิโนะ พระชนมายุ 54 พรรษา ทรงประกอบพิธีในฉลองพระองค์สีส้มตามโบราณราชประเพณี เดิมที พระราชพิธีดังกล่าวมีกำหนดจะจัดขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ถูกเลื่อนออกไปนานกว่า 7 เดือน และมีการลดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธี เพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ตามกฎมณเฑียรบาลของญี่ปุ่น ผู้สืบทอดสันตติวงศ์จะต้องเป็นชายเท่านั้น ทำให้ เจ้าหญิงไอโกะ พระราชธิดาในสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ทรงไม่สามารถสืบราชบัลลังก์ต่อได้

ต่อมา มกุฎราชกุมารฟุมิฮิโตะ อากิชิโนะ ทรงอนุญาตให้เจ้าหญิงมาโกะ พระธิดา เสกสมรสกับเคอิ โคมุโระ แฟนหนุ่มซึ่งเป็นสามัญชน โดยทรงตรัสว่า

"เราอนุญาตให้พวกเขาแต่งงานกัน รัฐธรรมนูญกล่าวว่าการแต่งงานจะต้องขึ้นอยู่กับความยินยอมร่วมกันทั้งสองฝ่าย ถ้านั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ เราก็ต้องเคารพให้ฐานะผู้เป็นพ่อ"

หลังเจ้าหญิงมาโกะและโคมุโระประกาศแผนการหมั้นหมายในปี 2017

ญี่ปุ่นสถาปนา "เจ้าชายอากิชิโนะ" เป็นมงกุฎราชกุมาร

ราชวงศ์บรูไน สูญเสีย เจ้าชายอับดุล อาซิม แห่งบรูไน

24 ต.ค.2563 สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดีน วัดเดาละห์ สุลต่านแห่งบรูไน มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า เจ้าชายอับดุล อาซิม ได้สิ้นพระชนม์แล้วในวันที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 10.08 น. ด้วยพระอาการมะเร็งตับ ขณะมีพระชนมายุ 38 พรรษา

สำหรับ เจ้าชายอับดุล อาซิม ทรงเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงระดับฮอลิวูด ทรงสนับสนุนงานการกุศลจำนวนมาก แต่ที่ทำให้พระองค์ได้รับความนิยมจากโลกโซเชียลและคนรุ่นใหม่คือการที่ทรวงออกมาสนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศ (LGBT) อย่างจริงจัง

เจ้าชายอับดุล อาซิม แห่งบรูไน สิ้นพระชนม์

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ