เปิดวงจรปิดตร.ข่มขืนผู้ต้องขังหญิงบนโรงพัก


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งสอบข้อเท็จจริงกรณีดาบตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ่อผุด ก่อเหตุข่มขืนผู้ต้องขังหญิงชาวเมียนมาบนโรงพัก พร้อมมีคำสั่งให้ออกจากราชการ และเตรียมดำเนินคดีอาญาร ขณะที่การตรวจสอบกล้องวงจรปิดในโรงพัก สามารถบันทึกภาพในวันเกิดเหตุได้ชัดเจน

สิบเวรข่มขืนสาวเมียนมา คาโรงพัก ยื่นประกันตัว 4 แสนบาท

ฝากขัง"ด.ต."ช่วยผู้ต้องหาสาวหนีห้องขัง

กล้องวงจรปิดบนสถานีตำรวจภูธรบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี บันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 มกราคม ช่วงเวลาตี 1.42 นาที  จะเห็นว่าดาบตำรวจวัชรินทร์ สินสโมสร ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน ปฏิบัติหน้าที่สิบเวรประจำโรงพัก เดินทางที่บริเวณหน้าห้องขัง ก่อนจะไขประตูห้องขัง แล้วนำตัว ผู้ต้องขังหญิงสาวชาวเมียนมาอายุ 21 ปี ออกมา

จากนั้นนำตัว “หญิงสาว” ออกจากห้องคุมขัง เดินไปยังห้องทำงานของฝ่ายจราจร ที่อยู่ห่างกันไปประมาณ 5-6 เมตร จากภาพจะเห็นว่าทาง “ดาบตำรวจวัชรินทร์” เป็นคนเดินนำหน้า จนมาถึงบริเวณหน้าห้อง “ดาบตำรวจ” ก็คว้าข้อมือของฝ่ายหญิงเข้าไปในห้อง

หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที คือ เวลาประมาณตี 2.19 นาที ก็จะเห็นภาพ “ดาบตำรวจวัชรินทร์” ก็เปิดประตูห้องเดินออกมา โดยมีฝ่ายหญิงสาว เดินตามมา ก่อนที่ดาบตำรวจวัชรินทร์ จะนำตัว “หญิงสาว” กลับเข้าไปในห้องคุมขังตามเดิม เหมือนไม่อะไรเกิดขึ้น

หลังเกิดเรื่อง “หญิงผู้เสียหาย” ได้แจ้งญาติและร้องทุกข์กับทางสถานทูตว่าถูก “ดาบตำรวจรายนี้” ข่มขืน  // ฝ่ายหญิงเล่าว่าเธอได้รับปล่อยตัวจากเรือนจำอำเภอเกาะสมุย หลังพ้นโทษคดียาเสพติดเมื่อ 2 ปีก่อน  แล้วถูกนำตัวมาฝากขังที่โรงพักบ่อผุด ตั้งแต่ 6 มกราคมเพื่อรอผลักดันกลับประเทศแต่ในคืนวันเกิดเหตุ “ดาบตำรวจวัชรินทร์” ได้มาพาตัวเธอออกจากห้องขัง   ซึ่งในห้องมีผู้ต้องขังอยู่จำนวน 14 คน  จากนั้นดาบตำรวจก็พาไปที่ฝ่ายงานจราจรซึ่งอยู่ใกล้กันแล้วข่มขืนบริเวณโซฟา

และเมื่อส่ง “หญิงผู้เสียหาย” ไปตรวจสอบก็พบร่องรอยการถูกกระทำชำเราจริง จึงติดตามตัว “ดาบตำรวจวัชรินทร์” มาดำเนินคดีข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้  เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ที่ต้องกุมขัง หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำด้วยประการใดให้ผู้ที่อยู่ระหว่างกุมขังนั้นหลุดพ้นจากการกุมขังไป 

แต่ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาปฏิเสธ  พนักงานสอบสวนจึงนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย แต่เมื่อเย็นวานนี้ ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว

วันนี้ พลตำรวจตรีสาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ โดยได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสะดวกในการดำเนินคดีทั้งทางอาญาและวินัย

ส่วนกรณีที่ “ดาบตำรวจ” ผู้ก่อเหตุจะยังคงให้การปฏิเสธก็ถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่แนวทางการสอบสวนก็จะยึดตามพยานหลักฐานที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์

นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้เพิ่มมาตรการควบคุม และตรวจสอบห้องผู้ต้องขังเข้มงวด โดยเฉพาะผู้เสียหายที่ยังถูกคุมตัวอยู่ในห้องควบคุมบนโรงพัก ถึงแม้ว่าผู้เสียหายจะเป็นชาวต่างชาติก็ต้องให้ความเป็นธรรม

ด้านสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้สำนักงานยุติธรรมอำเภอเกาะสมุยเข้าพบหญิงสาวผู้เสียหาย เพื่อรวบรวมถามรายละเอียด พร้อมกับแจ้งสิทธิเพื่อรับการเยียวยา เนื่องจากเป็นเป็นผู้เสียหายตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา 2544 เพื่อยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือในการเยียวยามายังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายจังหวัดสุราษฎร์ธานี พิจารณาค่าตอบแทนเพื่อบรรเทาความเสียหายให้หญิงสาวคนนี้

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ