พิษสารเคมีในลพบุรี "ขยายวงกว้าง"


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังทีมข่าวพีพีทีวีติดตามผลกระทบจากสารเคมีที่ถูกลักลอบทิ้งในต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ซึ่งสร้างความเสียหายและผลกระทบต่อชาวบ้านและชาวสวนบริเวณนั้นอย่างมาก วันนี้มีความเคลื่อนไหวของหลายฝ่าย ลงพื้นที่ตรวจสอบหาต้นทางของสารเคมีเหล่านี้ โดยเบื้องพบว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างยังคงน่าเป็นห่วง

ถังสารเคมีที่ถูกลักลอบมาทิ้ง ในตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี กลายเป็นของกลาง ที่วันนี้เจ้าหน้าที่เข้ามาอายัดไว้แล้ว เพื่อไม่ให้ใครขนย้ายไปจากจุดเกิดที่กลุ่มคนปริศนามาลักลอบทิ้งไว้ หลังมีร้านรับซื้อของเก่า เข้ามารับซื้อถังเปล่าออกไปแล้วจำนวนหนึ่ง

โดยในพื้นที่ตอนนี้ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลดีลัง นำเชือกกั้นเขต ปิดทางเข้าจุดที่มีการลักลอบทิ้งสารเคมี และไม่อนุญาตให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด

ชาวบ้านหอบลูกหลาน หนีพิษสารเคมีลพบุรี

ไร้เงากรมโรงงานร่วมเวทีผลกระทบวินโพรเสส

ส่วนของกลางส่วนใหญ่ มีทั้งถังแกลอนจำนวนหลายร้อยใบ ซึ่งยังมีคราบสารเคมีติดอยู่  นอกจากนี้ยังมีรถแบคโฮ  2 คัน ที่จอดอยู่ในพื้นที่ ตามข้อมูลที่ชาวบ้านให้มาบอกว่า เป็นรถที่ใช้ใช้เจาะถังสารเคมี ให้ทะลุเพื่อให้สารเคมีไหลออกมา และนำถังเปล่าไปขาย 

ถัดไปจากจุดที่ทิ้งสารเคมีไม่ไกล คือบ่อน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำอยู่จำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะมีการปนเปื้อนของสารเคมี หลังจากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ได้เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจหาสารปนเปื้อน และประกาศห้ามใช้น้ำจากบ่อเป็นการชั่วคราว

บ่อน้ำนี้ แม้จะเป็นของเอกชน แต่เจ้าของอนุญาตให้ชาวสวน ชาวบ้านทั่วไปสามารถใช้ประโยชน์ด้านการทำสวนได้ เพราะพื้นที่บริเวณนี้มีปัญหาน้ำแล้ง เป็นที่ลุ่ม ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ปัจจุบันมีชาวบ้านจากหมู่ 2  หมู่ 3 หมู่ 5 ของตำบลดีลัง ใช้ประโยชน์อยู่

รอบๆจุดที่ทิ้งสารเคมี มีแปลงเกษตรของชาวสวน ที่ปลูกต้นงาขาว ต้นเมล่อน  ข้าวโพด ซึ่งรับน้ำจากบ่อน้ำใกล้จุดทิ้งสารเคมี เช่นกัน

เมื่อวานทีมข่าวนำเสนอความเดือดร้อนของชาวสวนครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่ง  ที่ปลุกกระท่อมไว้อยู่อาศัยและเฝ้าสวน ว่าเขาเดือดร้อนจากกลิ่นสารเคมีจนไม่มีสามารถนอนหลับได้ ล่าสุดพบว่าเขาหอบลูกหลานย้ายไปปลูกกระท่อมที่ใหม่ เพราะได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทีมข่าวได้ไปติดตามชีวิตขพวกเขาอีกครั้งวันนี้

ชาวสวนกลุ่มนี้เป็นครอบครัวใหญ่ 7 ครอบครัว มีสมาชิกทั้งหมด 20 คน ในจำนวนนี้ มีเด็กอายุ 2 ขวบถึง 10  ขวบ 7  คน ซึ่งวันนี้นายทรงพล แป้นแก้ว นายอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี มาเยี่ยมและ มอบถุงยังชีพ พร้อมประสานให้ไปฉีดวัคซีนโควิด-19

ส่วนแนวทางการสอบสวนหาผู้กระทำผิด นายอำเภอพัฒนานิคม เปิดเผยว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการติดตามตัว คนที่ขับรถมาทิ้งสารเคมีว่าเป็นใคร และจะเชื่อมโยงถึงใครบ้าง ซึ่งกรมควบคุมมลพิษอยู่ระหว่างการตรอจสอบ นอกจากนี้ต้องรอผลการตรวจสอบตัวอย่างสารเคมีที่เก็บจากพื้นที่ ว่าเป็นสารเคมีชนิดใด หากพบว่าเป็นสารเคมีอันตราย ก็จะมีผลต่อการแจ้งข้อกล่าวหา ตามความผิด พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย และ พ.ร.บ.สาธารณสุข

ส่วนเจ้าของที่ดิน แหล่งข่าวระบุว่า ยังปฏิเสธว่าไม่รู้เห็น ว่าจะมีการนำสารเคมีมาลักลอบทิ้งในที่ดินของตัวเอง เพราะได้รับการประสานจากต้นทางว่าจะนำกรวดมาถมดิน จึงอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ได้ แต่มาทราบที่ภายหลังว่าเป็นสารเคมี

ล่าสุดมีข้อสังเกตเรื่องคนรับซื้อของเก่าบอกว่า คนขับรถแบคโฮ เป็นคนของเจ้าของที่ดิน ไปแจ้งให้มารับของเก่า โดยขายให้ใบละ 100 บาท   

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ