ถังสารเคมีที่ถูกลักลอบมาทิ้ง ในตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี กลายเป็นของกลาง ที่วันนี้เจ้าหน้าที่เข้ามาอายัดไว้แล้ว เพื่อไม่ให้ใครขนย้ายไปจากจุดเกิดที่กลุ่มคนปริศนามาลักลอบทิ้งไว้ หลังมีร้านรับซื้อของเก่า เข้ามารับซื้อถังเปล่าออกไปแล้วจำนวนหนึ่ง
โดยในพื้นที่ตอนนี้ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลดีลัง นำเชือกกั้นเขต ปิดทางเข้าจุดที่มีการลักลอบทิ้งสารเคมี และไม่อนุญาตให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด
ชาวบ้านหอบลูกหลาน หนีพิษสารเคมีลพบุรี
ไร้เงากรมโรงงานร่วมเวทีผลกระทบวินโพรเสส
ส่วนของกลางส่วนใหญ่ มีทั้งถังแกลอนจำนวนหลายร้อยใบ ซึ่งยังมีคราบสารเคมีติดอยู่ นอกจากนี้ยังมีรถแบคโฮ 2 คัน ที่จอดอยู่ในพื้นที่ ตามข้อมูลที่ชาวบ้านให้มาบอกว่า เป็นรถที่ใช้ใช้เจาะถังสารเคมี ให้ทะลุเพื่อให้สารเคมีไหลออกมา และนำถังเปล่าไปขาย
ถัดไปจากจุดที่ทิ้งสารเคมีไม่ไกล คือบ่อน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำอยู่จำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะมีการปนเปื้อนของสารเคมี หลังจากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ได้เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจหาสารปนเปื้อน และประกาศห้ามใช้น้ำจากบ่อเป็นการชั่วคราว
บ่อน้ำนี้ แม้จะเป็นของเอกชน แต่เจ้าของอนุญาตให้ชาวสวน ชาวบ้านทั่วไปสามารถใช้ประโยชน์ด้านการทำสวนได้ เพราะพื้นที่บริเวณนี้มีปัญหาน้ำแล้ง เป็นที่ลุ่ม ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ปัจจุบันมีชาวบ้านจากหมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 5 ของตำบลดีลัง ใช้ประโยชน์อยู่
รอบๆจุดที่ทิ้งสารเคมี มีแปลงเกษตรของชาวสวน ที่ปลูกต้นงาขาว ต้นเมล่อน ข้าวโพด ซึ่งรับน้ำจากบ่อน้ำใกล้จุดทิ้งสารเคมี เช่นกัน
เมื่อวานทีมข่าวนำเสนอความเดือดร้อนของชาวสวนครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่ง ที่ปลุกกระท่อมไว้อยู่อาศัยและเฝ้าสวน ว่าเขาเดือดร้อนจากกลิ่นสารเคมีจนไม่มีสามารถนอนหลับได้ ล่าสุดพบว่าเขาหอบลูกหลานย้ายไปปลูกกระท่อมที่ใหม่ เพราะได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทีมข่าวได้ไปติดตามชีวิตขพวกเขาอีกครั้งวันนี้
ชาวสวนกลุ่มนี้เป็นครอบครัวใหญ่ 7 ครอบครัว มีสมาชิกทั้งหมด 20 คน ในจำนวนนี้ มีเด็กอายุ 2 ขวบถึง 10 ขวบ 7 คน ซึ่งวันนี้นายทรงพล แป้นแก้ว นายอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี มาเยี่ยมและ มอบถุงยังชีพ พร้อมประสานให้ไปฉีดวัคซีนโควิด-19
ส่วนแนวทางการสอบสวนหาผู้กระทำผิด นายอำเภอพัฒนานิคม เปิดเผยว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการติดตามตัว คนที่ขับรถมาทิ้งสารเคมีว่าเป็นใคร และจะเชื่อมโยงถึงใครบ้าง ซึ่งกรมควบคุมมลพิษอยู่ระหว่างการตรอจสอบ นอกจากนี้ต้องรอผลการตรวจสอบตัวอย่างสารเคมีที่เก็บจากพื้นที่ ว่าเป็นสารเคมีชนิดใด หากพบว่าเป็นสารเคมีอันตราย ก็จะมีผลต่อการแจ้งข้อกล่าวหา ตามความผิด พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย และ พ.ร.บ.สาธารณสุข
ส่วนเจ้าของที่ดิน แหล่งข่าวระบุว่า ยังปฏิเสธว่าไม่รู้เห็น ว่าจะมีการนำสารเคมีมาลักลอบทิ้งในที่ดินของตัวเอง เพราะได้รับการประสานจากต้นทางว่าจะนำกรวดมาถมดิน จึงอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ได้ แต่มาทราบที่ภายหลังว่าเป็นสารเคมี
ล่าสุดมีข้อสังเกตเรื่องคนรับซื้อของเก่าบอกว่า คนขับรถแบคโฮ เป็นคนของเจ้าของที่ดิน ไปแจ้งให้มารับของเก่า โดยขายให้ใบละ 100 บาท