เปิดใจ สาวฉีดฟิลเลอร์หน้าพังจนป่วยซึมเศร้า คลินิกดังแจงใช้ของจริง-จ่อฟ้องกลับ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หญิงสาวคนหนึ่งโพสต์เรื่องราวเตือนใจคนชอบเสริมความงาม หลังไปฉีดฟิลเลอร์ ผ่านไป 2 ปี ใบหน้าเบี้ยวผิดรูป หนักที่สุดคือไม่สามารถยิ้มได้ แพทย์ที่รักษาบอกว่าไม่ใช่ฟิลเลอร์แต่เป็นซิลิโคนเหลว ขณะที่คลินิกออกมาโต้ หากไม่ลบโพสต์จะฟ้องเอาผิด ล่าสุดหญิงสาวเปิดใจทั้งน้ำตา

เลขาฯ คปภ. ลั่นสู้เต็มที่ ไม่ให้ประชาชนถูกลอยแพ หลังบ.ประกันภัยร้องศาล เหตุยกเลิกประกันโควิด

เช็กเลย สายด่วน โควิด (EOC) 50 เขต กทม. รับผู้ป่วยโควิดเข้าสู่ระบบการรักษา

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 65 นางสาวลัลลลินน์ พร้อมเพรียง แม่ค้าขายของออนไลน์ที่ได้รับผลกระทบจากการไปฉีดฟิลเลอร์ที่คลินิกแห่งหนึ่ง จนเกิดผลข้างเคียง แต่ปรากฏว่าสารที่อยู่บนใบหน้าไม่ใช่ฟิลเลอร์ แต่เป็นซิลิโคนเหลว โดยให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตากับทีมข่าว พร้อมเปิดหน้าให้ดูพบว่ารูปหน้าเบี้ยว ช่วงจมูกลงไปถึงปาก มีตุ่มนูนแดง ขนาดเท่าเหรียญสิบบาท แก้มบวม และใต้ตาเป็นรอยแดง เธอบอกว่าอยากให้คลินิกออกมารับผิดชอบ แม้จะต้องสู้คดีจนถึงขั้นติดคุก เพราะเธอมั่นใจว่าไม่ได้ใช้บริการเสริมความงามอื่น นอกจากที่คลินิกดังกล่าว

นางสาวลัลลลินน์ เล่าว่า เมื่อปี 2562 ได้กลับบ้านที่จังหวัดอุบลราชธานี ตอนนั้นอยากให้หน้ากระชับขึ้น เลยอ่านรีวิวแล้วเห็นว่าเป็นคลินิกชื่อดัง มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ และราคาของฟิลเลอร์อยู่ที่ 70,000 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงกว่าท้องตลาด ทำให้น่าเชื่อถือ ตอนนั้นฉีดเข้าไป 3 จุด ได้แก่ร่องแก้ม ใต้ตา และขมับ หลังฉีดปกติดี รู้สึกพอใจในผลลัพธ์มาก เพราะหน้าของเธอตึงกระชับ เป็นธรรมชาติ จนกระทั่งช่วงเดือนมิถุนายน 2564 มีอาการปวดหน้าจนทนไม่ไหว ต้องซื้อยามากิน จากนั้นเริ่มมีตุ่มสีแดงขึ้นบริเวณร่องแก้ม ตอนแรกคิดว่าเกิดอาการแพ้ แต่หมอที่คลินิกโรคผิวหนังแจ้งว่าปกติดี แต่อาการหนักขึ้น จึงไปที่โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ตรวจแบบละเอียดพบว่าสาเหตุเกิดจากสารที่ไปฉีดด้านในไม่ใช่ฟิลเลอร์แต่เป็นซิลิโคนเหลว เกิดการอักเสบใต้ผิวหนัง ทำให้ต้องขูดออก

อยากสู้ให้ถึงที่สุด ต่อให้มันจะแพ้หรือว่าอาญาจนถึงขนาดเราติดคุก เราก็แบบยังอยากสู้ อยากให้เขาออกมารับผิดชอบอะไรอย่างนี้ค่ะ เพราะว่าเราก็มั่นใจว่าเราไม่ได้ไปฉีดเสริมเติมแต่งมาจากที่ไหนนะ เราฉีดที่คุณนะ แล้วอยู่ดี ๆ มาวันหนึ่ง ถามที่ว่าฉีดเข้าไปมัน ตอนฉีดบอกฟิลเลอร์ ตอนขูดได้สารอีกแบบหนึ่งมา เราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นได้ยังไง” นางสาวลัลลลินน์ กล่าว

ทั้งนี้นางสาวลัลลลินน์ มั่นใจว่า อาการดังกล่าวเป็นผลจากการไปฉีดฟิลเลอร์ที่คลินิกแห่งนี้ เพราะหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ไม่เคยเสริมความงามโดยการฉีดสารเข้าใบหน้าแม้แต่ครั้งเดียว มีเพียงทำทรีทเม้นต์เท่านั้น มีแค่ก่อนหน้านี้เคยทำเสริมคางมาก่อน ประมาณ 6 ปีที่แล้ว แต่ใช้ซิลิโคนสำเร็จรูปซึ่งเป็นแท่ง

ขณะนี้ยังมีอาการปวดทุกครั้งที่สัมผัสหน้า และไม่สามารถยิ้มได้ ซึ่งหมดค่ารักษาพยาบาลตั้งแต่ขูดซิลิโคนและไปพบแพทย์เพื่อจ่ายยาตามอาการ ประมาณ 80,000 บาทแล้ว สาเหตุที่เพิ่งจะออกมาโพสต์เรื่องราวเพื่อเตือนใจผู้หญิง เนื่องจากที่ผ่านมาทำใจไม่ได้ เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่กล้าออกไปเจอใคร แม้กระทั่งกลับบ้านไปหาครอบครัว หรือวีดีโอคอลหาลูก เพราะกลัวจะถูกถามว่าเป็นอะไร ยอมรับว่าเคยรักษาโรคซึมเศร้า และเคยคิดฆ่าตัวตาย แต่ยังโชคดี มีเพื่อนคอยให้กำลังใจ ซึ่งหลังจากโพสต์เรื่องราวออกไป แพทย์หญิงของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ ติดต่อเข้ามาให้คำปรึกษา

ขณะที่คลินิกดังกล่าว มีการโพสต์บนเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่านางสาวลัลลินน์เคยเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ที่คลินิกจริง ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และให้บริการภายใต้มาตรฐานทางการแพทย์ระดับสูง ซึ่งจุดที่อักเสบบนใบหน้าของนางสาวลัลลลินน์ เป็นคนละจุดกับที่คลินิกเคยฉีดให้ และโพสต์ของนางสาวลัลลลินน์ทำให้คลินิกเสียหาย เมื่อไม่สามารถเจรจาได้ ทางคลินิกจำเป็นต้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาที่เกี่ยวข้องต่อไป

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ