นางการ์นภัส ชูกา อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ สภาพหนังศีรษะ บางส่วนเป็นตุ่มขึ้นมา บางส่วนหลุดลอกออกมานอกจากนี้ยังมีตุ่มขึ้นที่หน้าผาก กลางหลัง แขนขา และทั่วร่างกาย
นางการ์นภัส ชูกา เล่าว่า เดิม ตนเองเป็นคนผิวขาว ผิดละเอียด ไม่มีตุ่ม หรือรอยด่างดำ แต่พอตนเองไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 1ไปเมื่อวันที่ 23 เม.ย.2564 มีอาการแพ้ มีผื่นคันขึ้นตามร่างกาย
ชาวบ้านซัดรถยนต์มักง่าย จอดชิดทางรถไฟประจำ
บุกรวบ “เจ้าคุณแจ๊ค” คากุฎิ ปมเงินทอน เจอซุกถุงยาง-เหล้าบนหัวนอน
ตอนแรกก็คิดว่าเป็นผื่นธรรมดาไปซื้อยามากินเอง แต่ปรากฏว่า พอไปรับวัคซีนเข็ม 2 ผื่นคันเหล่านั้น เห่อขึ้นมาอีก ซ้ำยังคันไปทั่วทั้งตัว และยังมีสะเก็ดขึ้นที่หนังศีรษะจึงได้ไปปรึกษา กับหน่วยงานราชการ ที่ว่าการอำเภอหนองไผ่
ก่อนได้คำแนะนำให้ไปปรึกษากับสาธารณสุขและโรงพยาบาลหนองไผ่ ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นผลข้างเคียงจากการรับวัคซีน และส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
แต่อาการก็ยังไม่บรรเทา ต้องรับประทานยาต่อเนื่องเพื่อระงับอาการคัน ซึ่งได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตมาก เพราะเป็นมาแล้ว 8 เดือน และการกินยาแก้แพ้ ก็ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันลำบาก เพราะง่วงนอนตลอดทั้งวัน ขับรถก็ลำบาก ส่วนผดผื่นที่ขึ้นก็คันตลอดทั้งวัน ต้องเกาตลอดเวลา เสียบุคลิก กระทบต่อหน้าที่การงาน ทำให้ลูกบ้านขาดความเชื่อถือ แทบไม่อยากออกจากบ้านไปพบใคร
ตนเองเคยไปถาม หน่วยงานสาธารณสุขที่รับผิดชอบ ว่า อาการทำไมไม่ดีขึ้น ยังคงคันตามร่างกาย จนปัจจุบัน กลายเป็นผื่นแข็งและแผลถลอกเต็มตัวไปหมด ก็ได้รับคำตอบว่า นานตั้ง 8 เดือน แล้ว คงไม่ใช่อาการข้างเคียงจากวัคซีน วัคซีนคงออกจากร่างกายไปหมดแล้ว ตอบเหมือนจะไม่รับผิดชอบ
ตนอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาดูแลตนบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้รักษาตามสภาพไป ก็ไม่อยากขออะไรมาก ขอให้รักษาอย่างเต็มที่ ไม่ผลักภาระกันไปมา ขอเพียงแค่ช่วยให้หายคัน และไม่มีผื่นคันตามตัวก็พอใจแล้ว จะได้มีชีวิตเหมือนคนปกติเสียที