นายเคน เพ็ง นักยุทธศาสตร์การลงทุนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิกฟิก ธนาคารซิตี้แบงก์ กล่าวว่าเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 นักวิเคราะห์ซิตี้คาดการณ์ว่าทั่วโลกยังต้องเผชิญกับสภาวะสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลจากสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังสูงในหลายประเทศ ปัญหาห่วงโซ่อุปสงค์และอุปทานที่ไม่สมดุล นโยบายและมาตรการด้านการเงินและธนาคารของแต่ละประเทศที่เข้มงวดขึ้น ปัญหาราคาพลังงานจากเหตุการณ์รัสเซีย-ยูเครน
ซิตี้แบงก์คาดเงินเฟ้อไทยปีนี้พุ่ง 5.6% กนง.ขึ้นดอกเบี้ยครึ่งปีหลัง
คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สกัดเงินเฟ้อ เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยทาง "เทคนิค"
นลิน ฉัตรโชติธรรม
ในขณะที่ประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจ นำโดยสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยหลังพบอุปสรรคจากทั้งปัญหาเงินเฟ้อยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่อง อัตราการว่างงานและการปรับขึ้นค่าจ้าง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงโดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ยกเว้นก๊าซธรรมชาติ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ และภาคบริการ
ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่า คาดกนง.ขึ้นดอกเบี้ย จับตาเงินเฟ้อสหรัฐวันนี้
การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เดินหน้าอัตราดอกเบี้ยนโยบายเชิงรุกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ทำให้นักวิเคราะห์ซิตี้มองว่ากว่าสถานการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะกลับไปยังจุดเดิมก่อนเกิดสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน อาจใช้ระยะเวลาถึง 10 ปี
ส่วนประเทศจีน แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการทยอยฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจ แม้ยังได้รับแรงกดดันจากนโยบายควบคุมโควิดเป็นศูนย์ (Zero COVID Policy) โดยพบว่าดัชนี PMI ภาคบริการมีการดีดตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงการที่รัฐบาลจีนได้เตรียมออกนโยบายต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของตลาดทุน โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจประเทศ
จากข้อมูลข้างต้นทำให้ภาพรวมตลาดการลงทุนยังคงเผชิญความท้าทายต่อเนื่อง จากความผันผวนของตลาดหุ้นและพันธบัตรรัฐบาล แต่นักวิเคราะห์ซิตี้มีมุมมองบวกต่อตราสารหนี้คุณภาพสูงที่ได้ผลประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่อัตราผลตอบแทนคงที่ได้เพิ่มขึ้นถึงระดับที่พันธบัตรสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับพอร์ตการลงทุนโดยรวม นอกเหนือจากการถือครองเงินสดเพียงอย่างเดียว
ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจกดดันตลาดเพิ่มเติมได้ เช่น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น ดังนั้นนักลงทุนควรจับตาประเด็นสำคัญของสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด เพื่อกระจายความเสี่ยงและรักษาผลประโยชน์พอร์ตลงทุนในระยะยาว พร้อมกันนี้ได้แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ได้แก่
- Bonds are Back! – ยังแนะนำให้ลดการถือเงินสดด้วยการลงทุนในกลุ่มตราสารหนี้ระยะยาวที่คาดการณ์ว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี เช่น ตั๋วเงินคลัง (Treasury bill) พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (10-year US Treasuries)
- Long term leaders – การลงทุนในผู้นำอุตสาหกรรมระยะยาว เพื่อแสวงหาผลตอบแทนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพ มีรายได้สม่ำเสมอและมีโอกาสเติบโตสูงในระยะยาว โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มที่จ่ายปันผลและมีการเติบโตของการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มพลังงานสะอาด กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า กลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลไลเซชัน ฟินเทค กลุ่มการดูแลสุขภาพและเภสัชกรรม ตลอดจนกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
- Alternative Investments in Uncertain Times – การลงทุนทางเลือกนอกเหนือจากสินทรัพย์หลักในช่วงตลาดผันผวนเพื่อป้องกันความเสี่ยงในระยะยาว เช่น กองทุนบริหารความเสี่ยง หรือในสินทรัพย์ตราสารทุนนอกตลาด หรือหุ้นนอกตลาด (Private Equity)
นางสาวนลิน ฉัตรโชติธรรม นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจไทย ซิตี้คาดหวังถึงการมาถึงของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 และในปี 2566 จากปัจจัยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยที่แสดงให้เห็นถึงแข็งแกร่งกว่าที่คาด อันเป็นผลจากการที่ภาครัฐยกเลิกข้อจำกัดการเดินทาง รวมถึงการที่ประเทศเพื่อนบ้านกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้ง
ในขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดซิตี้มองว่ามีแนวโน้มที่จะยังคงขาดดุลในปี 2565 สืบเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงและการใช้จ่ายในภาคค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น แต่ในปี 2566 มองว่าการเกินดุลจะเริ่มทยอยสูงขึ้นจากรายได้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่กลับมา
ซิตี้ได้ปรับคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีไทยในปี 2565 ลดลงเล็กน้อยที่ 3.5% (จากเดิม 3.6%) และปี 2566 อยู่ที่ 4.5% (จากเดิม 4.8%) เนื่องด้วยสถานการณ์การใช้จ่ายภาครัฐ และการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว
ซิตี้ยังคงความคาดการณ์ว่า กนง. จะเตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สามครั้ง โดยครั้งแรกคือในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 และอีกสองครั้งภายในช่วงครึ่งปีแรก 2566 ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ที่ก่อนหน้านี้เช่นเดิม
ปิดตำนาน 19 ปี 'โตโยต้า วีออส' รถซีดานขนาดเล็กของโตโยต้าในไทย
มีผล 5 ก.ย. 65! นั่งเบาะหลังไม่คาดเข็มขัด ปรับสูงสุด 2,000 บาท แต่บุคคลบางประเภทได้รับการยกเว้น