แม่วอนตามหาเก๋งชนแล้วหนี ทำลูกพิการขาขาด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีเพจเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้แชร์ภาพอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับหนุ่มวัย 16 ปี ถูกรถชนแล้วหนีปล่อยทิ้งให้นอนทนความเจ็บปวดอยู่บริเวณป่าข้างทางกว่า 14 ชั่วโมง สุดท้ายต้องตัดขาทิ้งกลายเป็นคนคนพิการ ล่าสุดอยู่ในภาวะเศร้าเสียใจ พร้อมตัดพ้อว่า หากคนชนช่วยลูก คงไม่โดนตัดขา

ลูกพิการกอดแม่สู้ต่อ หลังถูกผู้รับเหมา เชิดเงินสร้างบ้านหนี

จับเอเย่นต์ยา ขับรถพุ่งชนรถตำรวจ

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2564 นางธัญญรัตน์ น้ำใจดี แม่ของนายกฤษฎา ชาธงไชย อายุ 16 ปี พาทีมข่าวPPTV  เดินทางไปที่บ้านพัก หลังลูกชายเพิ่งออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้าน หลังเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา จนทำให้ลูกชายต้องถูกตัดขาขวา โดยทุก ๆ วันต้องใช้เวลาช่วงพักเที่ยงของโรงงานขับรถกลับมาที่บ้าน เพื่อหาข้าวหาน้ำมาให้ลูกชายและล้างแผลที่ยังไม่หายดี  หลังลูกชายต้องสูญเสียขา และยังไม่คุ้นชินจนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้  เพราะที่บ้านอยู่อาศัยกันเพียงแค่ 2 คน

นางธัญญรัตน์ เล่าว่า วันเกิดเหตุ (1 มี.ค.64)  ลูกชายขี่รถจักรยานยนต์ไปบ้านเพื่อนในตำบลใกล้เคียง แต่เพื่อนไม่อยู่บ้านจึงขับกลับบ้าน เวลาประมาณ 19.00 น. บริเวณ ถ.มาลัยแมน-กำแพงแสน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครปฐม จู่ ๆ เมื่อมาถึงจุดกลับรถ มีรถยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่นกลับรถมาตัดหน้ากะทันหัน ทำให้ลูกชายกระเด็นไปไกลกว่า 2 เมตร ตกลงไปในพงหญ้าข้างทางและหมดสติไปช่วงหนึ่ง

จนกระทั่งเช้าวันที่ 2 มี.ค.64 ประมาณ 09.00 น. จึงมีคนมาพบและให้การช่วยเหลือ ซึ่งตลอด 14 ชม. ที่ลูกชายต้องทนกับความเจ็บปวดของบาดแผล ซึ่งภายหลังนำตัวส่งโรงพยาบาลลูกชายบาดเจ็บบริเวณศรีษะด้านหน้า เย็บ 10 เข็ม ริมฝีปากเย็บ 12 เข็ม ฟันหน้าหัก 3 ซีก และขาขวาที่คาดว่าถูกแรงกระแทกอย่างแรงจนเกือบขาดก็ต้องตัดออก เพราะหมอแจ้งว่าปล่อยทิ้งไว้นานจนเนื้อตายไม่สามารถต่อกลับเหมือนเดิมได้ หากไม่ตัดอาจติดเชื้ออันตรายถึงชีวิต ส่วนหลักฐานในที่เกิดเหตุพบเพียงกันชนหน้ารถและกระจังรถของผู้ก่อเหตุที่หลุดติดมากับรถจักรยานยนต์ลูกชาย ซึ่งคาดว่าเป็นรถเก๋ง สีบรอนด์ แต่ไม่ทราบยี่ห้อ

นางธัญญรัตน์ บอกทั้งน้ำตาว่า ที่เธอโพสต์ขอความช่วยเหลือ เพราะต้องการให้คนที่ชนลูกชายกลับมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำ เพราะตอนนี้ลูกก็กลายเป็นคนพิการ ฐานะที่บ้านก็ไม่ดี ตอนนี้ลูกทำงานไม่ได้ เธอทำงานโรงงานอยู่คนเดียว และยังจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลลูกอีก

ขณะที่ นายกฤษฎา เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตัวเองแทบจำอะไรไม่ได้ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยืนยันว่ามีรถยนต์กลับรถมาชนจริง ตอนนั้นมืดมากมองไม่เห็น ไม่ทราบว่าเป็นรถยี่ห้ออะไร ตอนที่ถูกชนกระเด็นไปในพงหญ้าก็สลบ หลับๆตื่นๆ มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้น แต่ก็อยากให้คนขับรถชนตนกลับมารับผิดชอบมาดูแลตัวเองบ้าง

 

ทีมข่าว PPTV ลงพื้นที่เกิดเหตุบน ถ.มาลัยแมน-กำแพงแสน เป็นถนน 2 เลน มีเกาะกลางถนน จุดเกิดเหตุเป็นจุดกลับรถ ใกล้กับโรงแรมวีนัส ซึ่งจุดที่พบร่างนายกฤษฎา เป็นบริเวณพงหญ้าข้างทาง จากการสำรวจโดยรอบไม่มีกล้องวงจรปิด มีเพียงจุดที่ใกล้ที่สุด คือ โรงแรมวีนัส ที่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร แต่ทางโรงแรมระบุว่า ภาพกล้องวงจรปิดหน้าโรงแรมบันทึกวันต่อวันระบบก็จะลบออก ส่วนอีกจุด เป็นบริเวณโรงกลึงฝั่งตรงข้าม ที่มีกล้องวงจรปิด 2 ตัวหน้าร้าน แต่ภาพที่ได้มืด เห็นเพียงแสงไฟรถไม่เห็นภาพขณะเกิดเหตุ เมื่อสอบถามร้านค้าใกล้จุดเกิดเหตุ ระบุว่าไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากร้านบริเวณนั้นปิดตั้งแต่ 18.00 น.

ส่วนความคืบหน้าทางคดีวันนี้เจ้าหน้าตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดย ร.ต.อ. เสริมศิริ แต่งตั้ง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนครปฐม เปิดเผยว่า แม่ผู้บาดเจ็บมาลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อใช้สิทธิตามพ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 64 โดยระบุว่า ลูกชายรถล้มเองเท่านั้น แต่ถ้าหากครอบครัวยังติดใจก็จะมีการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ และหากหลักฐานบ่งชี้ว่ามีคู่กรณี ก็จะนำตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวน

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ