พนักงานสอบสวน สน.บางนา คุมตัว นายวินัย บุญพยุง อายุ 53 ปี พนักงานบริษัทเอกชนย่านหนามแดง ชักปืนยิง นายพีระพงษ์ สุวรรณ อายุ 52 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ เสียชีวิต ริมถนนบางนาตราดซอย10 ออกประตูด้านหลังโรงพัก พร้อมนำหมวกกันน็อกและเสื้อเกราะกันกระสุนสวมทับ ขึ้นรถกระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์ โดยมีตำรวจสืบสวนนั่งประกบซ้ายขวา ขับลออกจากโรงพักอย่างรวดเร็ว เพื่อตรงไปจุดเกิดเหตุ
กระบะกร่าง ขัดปาดหน้าชักปืนขู่ สุดท้ายเป็นรถสารวัตร
กระบะปืนดุ อ้าง ถูกปาดหน้า ชักปืนยิงขู่กลางถนน
นายวินัย ผู้ต้องหาลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่จุดจอดรถกระบะและคู่กรณีจอดรถแท็กซี่ลงมาโต้เถียงกัน ซึ่งขณะนั้นในมือของคู่กรณี มีท่อนเหล็กยาวกว่า 1 เมตร ติดมือมาด้วย เมื่อเข้ามาประชิดตัวคู่กรณีได้ง้างฝ่ามือขวาตบใบหน้าตนเต็มแรง 1 ครั้ง จึงชักอาวุธปืนออกจากเอว แต่หลังจากนั้นมีการยื้อแย่งกันอุตลุด ก่อนตนสบโอกาสลั่นไกใส่ผู้ตาย 3-4นัด จากนั้น ได้ขับรถหลบหนีไปจนถึงบริษัทที่ทำงาน กระทั่งติดต่อขอมอบตัว เบื้องต้นตำรวจใช้เวลาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพียง 15 นาที เนื่องจากเกรงว่าอาจมีกลุ่มคนรู้จักผู้ตายตามมาดูการทำแผนและเกรงว่าจะก่อเหตุประชาทัณฑ์ได้
นายวินัย ยอมรับสารภาพ ปมก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าตัว เปิดเผยเพียงสั้นๆว่า เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบที่ถูกทำร้ายร่างกายก่อน ยอมรับว่า หลังได้สติ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตอโหสิกรรมกับสิ่งที่ทำลงไปด้วยเช่นกัน
นางสุชาดา นิ่งอนงค์ ภรรยาผู้ตาย ร่ำไห้เปิดใจว่า เมื่อช่วงเช้าประมาณ 07.00 น.สามีเพิ่งขับรถไปส่งตนที่ทำงานย่านบางนา เช่นกัน หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง มาทราบข่าวผ่านสื่อว่าสามีเสียชีวิตจากการถูกยิง เหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวเสียใจเป็นอย่างมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมคู่กรณีต้องกระทำด้วยความรุนแรงแบบนี่ อยากถามกลับเขาว่า ตัวเขามีครอบครัว คนรัก ที่รออยู่บ้างไหม เพราะทุกๆวันตนต้องรอสามีมารับกลับบ้านพร้อมกัน และ ออกจากบ้านไปทำมาหากินพร้อมกัน การกระทำแบบนี้ถือว่าคู่กรณีไม่ได้ทำร้ายสามีเพียงคนเดียว หากแต่ทำร้ายครอบครัวของตนด้วย
เหตุการณ์ผู้ต้องหายิงแท็กซี่เสียชีวิตเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า 10.00 น. ตำรวจ สน.บางนา รับแจ้งเหตุคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุท่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พบศพนายพีระพงษ์ ชายขับแท็กซี่ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. จำนวน 4 นัด มีท่อนเหล็กตกอยู่ข้างกาย ห่างไปไม่ไกลพบรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน ได้รับเบาะแสจากพลเมืองดี ที่สามารถถ่ายภาพรถผู้ก่อเหตุไว้ได้ เป็นรถกระบะโตโยต้าวีโก้ แค็ป สีขาว จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายวินัยจนนำไปสู่การจับกุม
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือไปเพราะมีการขับรถปาดหน้ากัน ฝ่ายแท็กซี่ได้ใช้ท่อนเหล็กพยายามจะทำร้าย จนมีการยื้อแย่งกัน จึงใช้อาวุธปืนที่พกมาด้วย ยิงสวน ก่อนจะหลบหนี
