จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ "นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี" อดีตทหารเกณฑ์ ก่อเหตุยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น เสียชีวิต ก่อนไปก่อเหตุ "กราดยิง รพ.สนาม" สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จ่อยิงผู้ป่วยชายติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต ก่อนแสดงอาการคลั่ง ขับรถหลบหนี ไปจ.ระนอง และถูกกดดันจำนน ถูกควบคุมตัวได้
ปิดเกม! จับแล้วอดีตทหารคลั่ง กราดยิงรพ.สนาม "ตำรวจ" เตือน จรรยาบรรณสื่อโทรสัมภาษณ์คนร้ายตอนล้อมจับ
ล้อมจับ ระทึก! อดีตทหารคลั่ง กราดยิงรพ.สนาม ซัลโวพนง.เซเว่น ซุกบ้านญาติระนอง เสียงปืนดัง
- "ผบ.ตร."สั่งล่า - "บิ๊กใหม่" ลุยเอง จับอดีตทหารคลั่ง
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าตำรวจควบคุมตัว นายกวิน แสงนิลกุล อดีตทหารเกณฑ์ อายุ 23 ปี ไว้ได้โดยไม่มีบุคคลใดได้รับอันตรายเพิ่มเติม และได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่ สภ.ปากน้ำระนอง โดยมีพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ทำการสอบปากคำด้วยตนเอง และเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนดังกล่าวจะนำตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีในท้องที่เกิดเหตุ สน.พหลโยธิิน สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ ตามกระบวนการกฎหมาย
"พฤติการณ์ของคนร้ายมีเจตนายิงผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายอย่างอุกอาจ หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกัน ลงพื้นที่ติดตามตัวคนร้ายที่เป็นบุคคลอันตรายไปอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าจะไปก่อเหตุซ้ำอีก และประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้าไปยังบริเวณพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานอย่างเด็ดขาด โดยระหว่างปิดล้อมจับกุมคนร้าย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปควบคุมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ด้วยตนเอง"
- เผยปฏิบัติการ คุม "กวิน" กราดยิงรพ.สนาม
ภายหลังจากชุดจู่โจมพลร่ม ค่ายนเรศวร 261 ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 8 ลงพื้นที่จังหวัดระนองปิดล้อมจับกุม นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี ผู้ต้องหากราดยิงประชาชนเสียชีวิต2ศพเมื่อคืนที่ผ่านมา
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร ได้บินด่วนประชุมและเข้าสอบปากคำ นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี โดยมีการนำชุด PPE มาใส่ให้ผู้ต้องหา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 เนื่องจากคนร้ายเข้าไปก่อเหตุในรพ.สนาม ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด
พล.ต.อ.สุชาติ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ ได้ตรวจยึดอาวุธปืน ซิกซาวเออร์ ตราโล่ และปืนลูกโม่ ของกลางในคดี 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าอาวุธดังกล่าวเป็นของส่วนตัว ไม่ได้เป็นอาวุธของหน่วยงานราชการตามที่มีผู้ตั้งข้อสงสัย
โดยหลังสอบปากคำเสร็จสิ้น จะลงบันทึกประจำวัน ที่ จ.ระนอง จากนั้นจะนำตัวกลับเข้ากรุงเทพมหานคร ไปที่ สน.พหลโยธิน ก่อนประสานงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ปทุมธานี มาอายัดตัวต่อไป
- อดีตทหารกราดยิงรพ.สนาม อ้างมูลเหตุคลั่ง
ขณะที่ผู้ต้องหา "นายกวิน" ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ที่ถามว่าเหตุการณ์ครั้งนี้สาเหตุมาจากอะไร
นายกวิน กล่าวว่า บอกไอ้ยงยุทธ กับไอ้เค้กนะ มันเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้ผมต้องมาเป็นแบบนี้
นักข่าวถามต่อว่า เขาทำอะไรคะ
นายกวินตอบว่า มันทำร้ายผมครับ
นักข่าวถามว่า เขาเป็นใคร
นายกวินตอบว่า เขาเป็นรุ่นพี่ผมครับ
นักข่าวถามอีกว่า อยากขอโทษคนเสียชีวิตไหมครับ
นายกวิน กล่าวว่า ขอโทษ ทุกคนครับ
"อนุทิน" เสียใจคนไข้ถูกกราดยิงรพ.สนาม
- กรณี นายกวิน อ้างว่า ครั้งเป็นทหารเกณฑ์ ถูกทำร้ายขณะทำหน้าที่ “พลอาสาจู่โจม”
พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ พล.ท.ภูมิพัฒน์ จันทร์สว่าง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย ข้อมูลเบื้องต้นในการสอบย้อนประวัติอดีตทหารเกณฑ์ดังกล่าว พบว่าเข้ามาเป็นพลอาสา (ทหารเกณฑ์) ระหว่างเดือน พ.ย.2560 ปลดประจำการเดือนพ.ย.2562 โดยเจ้าตัวไม่ได้สมัครอยู่ต่อ
สำหรับบุคลิกลักษณะเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูง ชอบปืน และ ชอบดูหนังสงคราม
ทั้งนี้ พ.ท.มงคล ปุริสา ผู้บังคับกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 รักษาพระองค์ (รพศ.3 รอ.) ได้เรียก จ.ส.อ.ยงยุทธ สุขเกษม ครูฝึก มาสอบถามข้อเท็จจริงหลังจากมีการเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของผู้ก่อเหตุว่าไม่พอใจที่ถูกครูฝึกทำร้ายเมื่อช่วงที่อยู่ในค่ายทหาร ซึ่งทางครูฝึกได้ยืนยันว่าไม่เคยทำร้ายร่างกาย ปฏิบัติตามกรอบของการฝึกทหารใหม่ 10 สัปดาห์
อดีตทหารเกณฑ์ "กวิน" มีผลการฝึกค่อนข้างดี ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บังคับหมวดบรรจุที่กองร้อยที่ 2 ซึ่งครูฝึกก็อยู่กองร้อยดังกล่าวด้วย แต่อดีตทหารเกณฑ์ผู้นี้ก็อยู่ไม่นาน และหมุนไปอยู่กองร้อยที่ 3 เกือบ 2 ปี ส่วนรุ่นพี่ที่ถูกระบุว่าทำร้ายร่างกายปลดออกไปก่อน 1 ปี
และเมื่อย้อนดูประวัติการป่วยทางจิตเวชพบว่าก่อนการเข้ามาเป็นพลทหารไม่มีการแจ้งประวัติดังกล่าว แต่มารดาเคยให้ข้อมูลในช่วงที่เข้ามาประจำการแล้วว่าเคยรักษาอาการและหายเป็นปกติแล้ว จนกระทั่งเมื่อปลดประจำการก็เข้ารับการรักษาอาการอีกครั้ง
แหล่งข่าว จากกองทัพบก ระบุว่า ทางหน่วยต้นสังกัดกำลังรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดจากการสอบครูฝึก เพื่อนในรุ่นและรุ่นพี่ เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมา 2 ปี และรุ่นพี่พลทหารอาสาก็ปลดประจำการไปแล้ว แต่ครูฝึกยืนยันว่ามีการซ้อมหรือทำร้ายร่างกาย แต่ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไปว่าในช่วงการฝึกปรับพื้นฐานกองพันจู่โจม ซึ่งมีฝึกหนักทดสอบความอดทนทางร่างกาย และจิตใจ มีรายละเอียดอย่างไร เพราะหากมีการทำเกินกว่าเหตุ มีการร้องเรียนและสอบสวนพบว่าผิดจริงก็ต้องลงโทษ
อีกทั้งนโยบายของกองทัพบกในปัจจุบันเคร่งครัดในเรื่องดังกล่าว และกำชับไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงกับทหารใหม่ แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ผ่านมา 2 ปีแล้วทำไมถึงนำมาอ้างเป็นเหตุหลังยิงผู้อื่นเสียชีวิตและยังนำชุดทหารมาใส่เพื่อยิงผู้อื่นต่อไป