มติเอกฉันท์ ตั้ง กก.สอบวินัยร้ายเเรง “เนตร” รอง อสส.สั่งไม่ฟ้อง “บอส วรยุทธ”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




คณะกรรมการอัยการ มีมติเอกฉันท์ ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรง “เนตร” รอง อสส.สั่งไม่ฟ้อง “บอส วรยุทธ” ตั้ง “ธนพิชญ์” ปธ.สอบโทษสูงสุดไล่ออกจากราชการ

“วิชา”มั่นใจ ป.ป.ช. ไม่เอาชื่อมาทิ้งคดีบอส

36ข่าวแห่งปี: รื้อใต้พรมกระบวนการยุติธรรม 8 ปี “บอส อยู่วิทยา” ยังลอยนวล

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 64 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอัยการ โดยมีวาระการสำคัญ  เกี่ยวกับผลสรุปสอบสวนทางวินัยนายเนตร นาคสุข อดีต รองอัยการสูงสุด กรณีที่นายเนตร มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหา คดีขับรถยนต์หรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อดีต ผบ.หมู่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต ขณะขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 กันยายน 2555 

โดยมีนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ คณะกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัย ซึ่งมีความเห็นว่า นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ผิดวินัยไม่ร้ายแรง เนื่องจากไม่พบการทุจริต แต่เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ เห็นควรงดบำเหน็จหรือไม่เลื่อนขั้นเป็นระยะเวลา 2 ปี และไม่เสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นอัยการอาวุโส

 

ทั้งนี้หลังจากมีการเลื่อนประชุม ก.อ.เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจาก คณะกรรมการอัยการบางคนยังไม่ได้รับเอกสารสรุปผลสอบ ทำให้บางคนได้รับเอกสารช้า และเอกสารมีจำนวนมากนับร้อยหน้าทำให้ไม่สามารถอ่านเอกสารได้ทัน นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีวาระการประชุมสำคัญ กรณีที่นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นหนังสือแจ้งความประสงค์ ไม่ขอเป็นอัยการอาวุโส ให้ที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ พิจารณาอีกด้วย

โดยภายหลังประชุมเสร็จ นายพชร กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ กรณีของ นายเนตร นาคสุข ที่ประชุมมีมติว่ามี 9 เสียงว่า นายเนตร ขาดความรอบคอบ ประมาทเลินเล่อ อย่างค่อนข้างร้ายแรง ซึ่งจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป โดยวินัยร้ายเเรงมีโทษทางข้าราชการ โทษสูงสุดคือการไล่ออก หากผู้เสียหายไม่พอใจ ไม่เห็นด้วยสามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้ ส่วนนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด กับนายไชยา เปรมประเสริฐ รองอัยการสูงสุด งดออกเสียง

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ ยังได้ตั้งนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อดีตอธิบดีสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เป็นประธานคณะกรรมการฯ และหลังจากนี้นายธนพิชญ์จะเป็นฝ่ายห่ กรรมการฯอีก 2 คน เเละเลขานุการฯอีก1คน

 

นายพชร กล่าวต่อว่า วันนี้ถือว่าได้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตรแล้ว จะมีระยะเวลาสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น 60 วัน และสามารถขอขยายระยะเวลาได้อีก 2-3ครั้ง จะสอบในประเด็นการสั่งคดีที่ก่อนให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ส่วนประเด็นที่นายเนตรจะยื่นหนังสือลาออกอีกครั้งที่ 2 นั้น เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดพิจารณา สำหรับประเด็นที่นายวงศ์สกุล อัยการสูงสุดหนังสือต่อคณะกรรมการอัยการว่าไม่ประสงค์จะเป็นอัยการอาวุโส ที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว และอนุมัติ และจะพ้นวาระการเป็นข้าราชการในวันที่ 30 ก.ย. นี้

เมื่อถามว่า ทาง คณะกรรมการอัยการ จะส่ง มติว่านายเนตร ผิดร้ายแรงให้ทาง ป.ป.ช.หรือไม่ นายพชร กล่าวว่า ทั้งอัยการและ ป.ป.ช. ต่างคนต่างสอบ และอาจมีการรวมสำนวนกันในอนาคตก็ได้

นายพชร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีอัยการเกี่ยวข้องข้องกับเรื่องการเปลี่ยนเเปลงความเร็วนั้น ทางคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรงนายเนตร ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ก็จะสอบสวนในประเด็นนี้ไปด้วย หลังจากนั้นก็จะนำเสนอผลสอบให้ คณะกรรมการอัยการ พิจารณาลงโทษอัยการคนดังกล่าวด้วย

 

นายพชร ระบุว่า การประชุมวันนี้มีคณะกรรมการอัยการเข้าร่วมประชุม 13 คนจาก 15 คน เนื่องจากลา 2 คน โดยผลการลงมติเห็นควรให้สอบสวนวินัยร้ายเเรงนายเนตร 9 เสียง เเละงดออกเสียง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ไชยา เปรมประเสริฐ รอง อสส. ส่วนนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ในฐานะประธานกรรมการสอบต้องออกจากห้องประชุม เเละตนในฐานะเป็นประธาน ก.อ.ก็งดออกเสียงเนื่องจากไม่ใช่การชี้ขาด

สำหรับบทลงโทษนายเนตร หากที่ประชุมก.อ. เห็นควรลงโทษวินัยร้ายแรง ก็จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนชุดใหม่ขึ้นพิจารณา โดยมีเวลาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน หากพิจารณาไม่แล้วเสร็จ สามารถขอขยายเวลาพิจารณาได้ 2 ครั้ง ๆ ละ 30 วัน

   กรอ.จ่อดึง ดีเอสไอ ทำคดีลักลอบทิ้งสารเคมี

   "ศิริราช" เปิดผลการศึกษาตัวเลขภูมิคุ้มกัน จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 สูตรไขว้

 

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ