การจัดซื้อเรือดำน้ำ เป็นสิ่งที่ถูกจับตามองตลอด ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อกระทรวงกลาโหม เสนอของบประมาณ จัดซื้อเรือดำน้ำลำ 2 ลำ กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกจับตา และ วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม
จนล่าสุดกระทรวงกลาโหม ยอมชะลอการขอซื้อเรือดำน้ำออกไปก่อน ซึ่งนายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการงบฯ ปี 65 วิจารณ์ว่า ทหาร ควร ยกเลิกการจัดซื้อเรือดำน้ำไปเลย
พท.ซัด กองทัพตั้งงบปี 65 ไม่สนโควิด-19 ระบาด
"ยุทธพงศ์" ชำแหละงบกลาโหม 65 แนะ "อนุทิน" ถ้าเข้าไม่รัก "ป๋าพงษ์" รออยู่
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ประกาศว่า จะไม่ยอมให้มีงบประมาณเกี่ยวกับเรือดำน้ำเข้าสู่การพิจารณา ส่วนตัวมองว่าควรยกเลิกการซื้อไปเลย ไม่ใช่เพียงชะลอแบบปีต่อปี
นอกจากงบเรือดำน้ำลำที่ 2-3 แล้ว ยังมีงบประมาณจากโครงการที่เกี่ยวข้อง เช่น โครงการ ตั้งศูนย์วิทยุสื่อสารทัพเรือ ที่เสนอของบ 300 ล้าน มองว่า เมื่อไม่มีเรือดำน้ำ ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างศูนย์วิทยุสื่อสาร
นอกจากนั้นนายยุทธพงศ์ ยังระบุอีกว่า ปีนี้ กองทัพเรือ เสนอของบประมาณทำโครงการใหม่อีกแล้ว เป็นโครงการอากาศยานไร้คนขับฐานบินชายฝั่ง วงเงินกว่า 4,100 ล้าน พร้อมตั้งคำถามว่าสมควรซื้อไม่ในยุคที่ไทยเผชิญกับสถานกาณ์โควิดอย่างหนั
สำหรับโครงการใหม่นี้เป็นแผนการจัดตั้งฐานบินชายฝั่ง เพื่อทำหน้าที่บินลาดตระเวน มีข้อมูลว่ากองทัพเรือเตรียมแผนฝึกนักบินอากาศยานไร้คนขับ รวมถึง ผู้ควบคุม ซึ่งหากงบประมาณนี้ผ่านจะมีการร่างTORเพื่อพิจารณาคัดเลือกประเภท อากาศยานไร้คนขับ ต่อไป
สำหรับประเด็นเรือดำน้ำ แม้ว่าจะถอนออกไปจากการจัดทำงบประมาณแล้ว แต่ก็ยังถูกวิจารณ์ อยู่ทำให้ล่าสุด พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ ออกมาให้ข้อมูลว่า กองทัพเรือทราบดีว่าวิกฤตตอนนี้กระทบกับประชาชน จึงสั่งชะลอการซื้อเรือดำน้ำ ส่วนที่ตอนแรกต้องเดินหน้า เพราะ การจัดหาเป็นลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล และรัฐบาลจีนให้ความช่วยเหลือทางทหารหลายอย่าง จึงกังวลว่าอาจส่งผลกระทบบางประการ แต่หลังจากนี้จะเดินหน้า สร้างความเข้าใจถึงเหตุผลความจำเป็นของการชะลอโครงการดังกล่าว และไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ