ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพผลงานประติมากรรมรูป "หอยชักตีน" ตั้งอยู่หน้าหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พร้อมระบุข้อความว่า "มาดูหอยบ้านเรากันมั้ย"พร้อมนำภาพประกอบมาโพสต์หลายภาพ พร้อมทั้งยังมีเอกสารโครงการระบุว่าใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 9.1 ล้านบาท
จนเกิดการตั้งคำถามว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่นำงบประมาณมาสร้างงานประติมากรรมนี้ โดยเฉพาะในช่วงโควิดแบบนี้ ถ้านำงบประมาณ 9 ล้านกว่าบาทไปใช้อย่างอื่น เช่น ซื้อ วัคซีนไฟร์เซอร์ ชุดตรวจโควิดแบบ Rapid test หรือชุด PPE จะดีกว่าหรือไม่
นายกฯ ขอบคุณ “โจ ไบเดน” ให้ความร่วมมือ สนับสนุนไทย ช่วงโควิด-19
ดีอีเอส ยัน ไม่มีเด็กอาชีวะ ถูกยิงเสียชีวิตในการชุมนุม 10 ส.ค.
หลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็เกิดกระแสวิจารณ์ว่าในสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีผู้คนท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน ขาดรายได้ ทำไมไม่นำเงินงบประมาณช่วยเหลือประชาชน
ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายพันคำ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง ชี้แจงว่า โครงการนี้เป็นการปรับภูมิทัศน์พื้นที่ท่องเที่ยว ที่วางแผนมากว่า 10 ปี แล้ว เป็นโครงการต่อเนื่องกับประติมากรรมปลาใบ ที่หน้าหาดอ่าวนางเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว
ที่ผ่านมาทำประชาพิจารณ์ความต้องการของคนในพื้นที่แล้ว แต่งานประติมากรรมหอยชักตีน เพิ่งได้งบในช่วงโควิดระบาดพอดี ทำให้หลายคนอาจมองว่า อบต.เอางบมาใช้ไม่มีเหตุผล
ส่วนประเด็นเรื่องการดูแลประชาชนเรื่องการระบาดของโควิด ทาง อบต.ยืนยันว่าไม่เคยละเลย ก่อนหน้านี้เตรียมจัดซื้อวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ แต่ทางจังหวัดยืนยันว่าจะมีวัคซีนจัดสรรมาให้เพียงพอ จึงไม่ได้จัดซื้อเอง แต่สุดท้ายก็เกิดปัญหาวัคซีนไม่มาตามนัด ซึ่ง อบต.ก็ไม่นิ่งเฉย
หลังกลายเป็นกระแสดราม่า นายพันคำ ยอมรับว่ารู้สึกท้อเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาก็ทำงานให้พื้นที่เต็มที่ อยากขอให้เข้าใจการทำงานด้วย.
"ปลัดสาธารณสุข" นำทีมสธ.วอนรัฐบาลคุ้มครองบุคลากรการแพทย์ ทำงานโควิด วัคซีน อาจผิดพลาดโดยสุจริต