ประเด็นที่มีการซักถามในที่ประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนวันนี้ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.กฎหมายฯ ตั้งคำถามถึงการขยายผลคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาปี 58 หลัง พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีต รอง ผบช.ภ.8 หัวหน้าชุดสืบสวนคดีนี้ ลี้ภัยไปประเทศออสเตรเลีย รวมถึงประเด็นเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม และในขณะที่มีการสืบสวนคดี มีการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจหรือไม่
เปิดใจ "พล.ต.ต.ปวีณ"เผย เหตุไม่กลับไทย เพราะกลัวโจรในเครื่องแบบ
นายกฯลั่น บ้านเมืองมีขื่อมีแป แนะ “พล.ต.ต.ปวีณ”ร้องทุกข์ตามช่องทาง พูดอะไรต้องมีหลักฐาน
การชี้แจงจากตำรวจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ไม่ได้มาด้วยตนเอง แต่ส่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ นิตยวิมล ผบก.สำนักงานกฎหมายและคดี ภาค 9 ซึ่งเป็นตำรวจที่ร่วมทีม พล.ต.ต.ปวีณ ทำคดีค้ามนุษย์ปี 58 เข้าชี้แจงแทน ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ส่ง พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดี เข้าชี้แจง
การที่ผู้ถูกเชิญไม่ได้มาด้วยตนเอง ทำให้บางคำถามไม่ได้รับคำตอบ อย่างเช่นช่วงหนึ่งที่ นายรังสิมันต์ โรม โฆษก กมธ. ถามประเด็น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ได้พูดกับ พล.ท.มนัส ขณะเข้ามอบตัว ว่าจะให้ประกันตัวจริงหรือไม่
ทาง พล.ต.ท.อำนวย ที่มาเป็นตัวแทน ก็ไม่สามารถตอบได้ พูดเพียงหลักทั่วไปว่าการให้ประกันตัวขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์ ดังนั้นจะพูดอย่างไรไม่ใช่สาระสำคัญ พร้อมให้คณะกรรมาธิการไปถาม “พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์” อดีตผู้บังคับบัญชา พล.ต.ต.ปวีณ ที่เป็นคนเขียนบทความเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ว่ามีจุดประสงค์อะไร เพราะขณะนั้นก็แข่งขันจะขึ้นเป็น ผบ.ตร.
ส่วนประเด็นเรื่องความคืบหน้าคดี พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ นิตยวิมล ผบก.กมค.ภ.9 เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 58 ที่เริ่มการสอบสวน มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 153 คน ซึ่งจากจำนวนดังกล่าว มีการทยอยติดตามจับกุมจนในเดือนที่ผ่านมา เหลือหมายจับเพียง 33 หมาย ในจำนวนนี้ มีหมายจับบางส่วนไม่มีคุณภาพ เช่น มีแต่ชื่อชาวต่างชาติ แต่ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม ทำให้ติดตามจับกุมตัวไม่ได้ พนักงานสอบสวนจึงได้แยกหมายจับ เหลือหมายจับที่มีคุณภาพ 23 หมาย ซึ่งเดือนที่แล้วมีการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 2 คน จึงเหลือเพียง 21 คน ที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว
ผู้สื่อข่าวสอบถามประเด็นนี้เพิ่มเติมกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ภายหลังการประชุม ยอมรับว่า การใช้เวลากว่า 6 ปี แต่ยังติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาไม่ได้ทั้งหมด ถือว่าค่อนข้างนาน แต่อุปสรรคสำคัญคือ ผู้ต้องหาที่หลบหนีไม่ได้อยู่ในไทยตลอด แต่มีการเข้า-ออก ประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ยากต่อการจับกุม ซึ่งตำรวจได้ประสานอินเตอร์โพลแล้ว
ส่วนเรื่องการขยายผลสำนวนของ “พล.ต.ต.ปวีณ” ตำรวจดูรายละเอียดสำนวนและเส้นทางการเงิน ไม่พบผู้เกี่ยวข้องในคดีที่มีอิทธิพลกว่า พล.ท.มนัส
ทีมข่าวพีพีทีวี ได้ย้อนตรวจสอบคำสั่งคณะกรรมการทางธุรกรรม ปปง. เรื่องยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ที่ ย.129/2558 พบข้อมูลสำคัญ เป็นการยึดทรัพย์บัญชีเงินฝาก สลากออมสิน ของพล.ท.มนัส รวม 14 รายการ เป็นเงิน 3,517,256 บาท 45 สตางค์
ที่น่าสนใจ คือ รายการที่ 53 พบการอายัดสลากออมสิน รวมทั้งหมด 30,000 หน่วย เป็นเงิน 1,500,000 บาท ของพ.ท.หญิง กนกรัตน์ คงแป้น (ยศในขณะนั้น ช่วงปี 2558) เอาไว้ด้วย