นางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพญาไท มาสอบถามความคืบหน้า กรณีที่ตนเองไม่สามารถทำพาสปอร์ตได้ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการเปิดเผยจาก นางสาวพรรณิการ์ เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ว่า ตนเองเดินทางไปทำ พาสปอร์ต สนง.หนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน แต่ไม่สามารถทำได้ เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องไปสอบถามกรมการกงสุล ก็ได้เดินทางไปสอบถาม แต่พบว่า สน.พญาไท มีหนังสือส่งมาให้เพิกถอนหนังสือเดินทาง 3 คน ได้แก่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ปิยบุตร แสงกนกกุล และตนเอง
“ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์” พบตร.สน.พญาไท ตามหมายเรียกม.116
สน.ลุมพินี ออกหมายเรียก "ช่อ พรรณิการ์" หมิ่นฯ "เอ๋ ปารีณา" พบตร.วันนี้
ในวันนี้ จึงต้องเดินทางมาสอบถามเรื่องดังกล่าวกับ สน.พญาไท ซึ่งเบื้องต้น พบว่า สน.พญาไท มีหนังสือ ที่ ตช 0015 (บก.น.1)4/478 ลงวันที่ 19 เมษายน 2564 เรื่องขอให้เพิกถอนหนังสือเดินทางของ ทั้ง 3 คนดังกล่าว ลงนามโดย พ.ต.ท.บารมี วงษ์อินตา รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.พญาไท โดยระบุว่าทั้งสามเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จึงขอให้เพิกถอนหนังสือเดินทาง
ตร.เตรียมประชุมแจ้งความ “ปริญญ์” เพิ่มหรือไม่ หลังมีเหยื่อแจ้งความเพิ่ม
การเดินทางวันนี้ มาสอบถามว่าทำไมมีคำสั่งเช่นนี้ ทั้งที่คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ ยังไม่มีคำสั่งศาลห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
สำหรับคดีที่แกนนำคณะก้าวหน้าทั้ง 3 คน มีที่ สน.พญาไท คือ คดีที่นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธอิสระร้องทุกข์กล่าวโทษว่าทั้งสามกระทำผิดกฎหมายอาญา ตามมาตรา 116 จากการทำงานการเมืองในนามพรรคอนาคตใหม่ ณ ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอัยการ รอฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ โดยนัดหมายรอฟังคำสั่งเป็นวันที่ 19 พฤษภาคม 2565
หลังจากที่นางสาวพรรณิการ์ ได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลพญาไท เปิดเผยว่า ผู้กำกับชี้แจงว่า ตำรวจทำลักษณะนี้ถือว่าเป็นมาตรฐานปกติ สำหรับผู้ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี ม.116 ม.112 ถือเป็นคดีความมั่นคง และจะดำเนินการลักษณะนี้กับทุกคน เพราะว่ากลัวบกพร่องในหน้าที่
นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า เมื่อพบกับผู้กำกับ ก็ได้ชี้แจงและได้ยื่นหนังสือถึงตำรวจแล้วว่าตนเองไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และมีที่พักเป็นหลักแหล่ง จึงขอให้ทางตำรวจส่งหนังสือก็ยังกรมการกงสุลให้พิจารณาในเรื่องนี้ใหม่
นางสาวพรรณิการ์ เปิดเผยอีกว่า ทางตำรวจได้รับปากว่าจะส่งเรื่องให้กับทางกรมการกงสุล พิจารณาในเที่ยงนี้ ถือว่าเป็นการทำงานที่รวดเร็ว ขั้นตอนจากนี้ก็ต้องรอทางกรมการกงสุลว่าจะพิจารณาอย่างไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหาก กรมการกงสุลยังยืนยันที่จะไม่ทำพาสปอร์ตจะดำเนินการอย่างไร
นางสาวพรรณิการ์ ระบุว่าส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องนี้จะผ่านไปได้ด้วยดีแต่หากเป็นในด้านลบ ตนเองจะเดินหน้าฟ้องศาลปกครอง ให้คุ้มครอง เพราะเคยมีเหตุการณ์ที่คล้ายกับลักษณะนี้ ในกรณีของนายจาตุรนต์ ฉายแสง
"กิ๊ก"อ้าง"จุรีพร"แนะนำ"แรมโบ้"ให้รู้จัก
นางสาวพรรณิการ์ ระบุอีกว่าอยากเรียกร้องไปถึงตำรวจว่าควรเข้าใจประชาชนบ้างว่าการกระทำลักษณะนี้เป็นการละเมิดสิทธิ์ เพราะว่าศาลยังไม่ตัดสิน และยังทำให้นักศึกษา นักกิจกรรม ต้องพบกับอุปสรรคในการเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปเรียนต่อหรือไปทำธุระ และในเหตุการณ์นี้ตนเองไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรว่าการเดินทางออกนอกประเทศไม่ใช่การหลบหนี เพราะขณะนี้ศาลยังไม่ตัดสิน