นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมร่วมกับสภา กทม .มีมติให้ผู้พ้นโทษมาลอกท่อโดยรอบแรกเป็นวันที่ 1 ก.ค.2565 ว่า กรมราชทัณฑ์มีความพร้อม ที่จะนำผู้ต้องขังที่ได้พ้นโทษที่สามารถออกมาให้บริการได้ ซึ่งมีประมาณ 1,000 คน โดยมองว่าศักยภาพของผู้ต้องขังที่ทำงานลอกท่อคนหนึ่ง ทำได้ 25 เมตรต่อวัน หากท่อมีความยาว 1 กม. ใช้ผู้ต้องขังเพียง 40 คน ประเมินว่า 1 วัน จะสามารถลอกได้ 25 กม.
"อนุพงษ์" เปิดทางกทม.เคาะรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ปลัดกทม. เชื่อทีม กทม.พร้อมหนุน “ชัชชาติ”
ขอให้ทุกฝ่ายอย่าห่วงว่าประสิทธิภาพของผู้ต้องขังจะไม่สามารถทำได้ ยกเว้นมีความน่าห่วงอยู่ที่การรับตำแหน่งของนายชัชชาติอยู่ในช่วงปลายงบประมาณของการลอกท่อ เชื่อว่า น่าจะติดขัดในส่วนของการจ้างเหมากับบริษัทเอกชนที่ว่าจ้างไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ปัญหาส่วนอื่น คาดว่า นายชัชชาติน่าจะสามารถจัดการได้ ซึ่งตามความเข้าใจของตัวเองทราบว่าท่อของ กทม.ยาวประมาณ 6,000 กม. ซึ่งใช้เวลา 2 ปีในการลอกท่อ หากปีหน้าจ้างผู้ต้องขังจากกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดก็น่าจะใช้เวลาไม่มาก
นายกฯ แจงตรวจสอบงบผ่า GT 200 เป็นงบเก่ายุติแล้ว
นายสมศักดิ์ ย้ำว่า สิ่งไหนที่จำเป็นก็ต้องช่วยกันทำ เพื่อไม่ให้น้ำท่วม กทม. ยอมรับว่าส่วนตัวไม่มีความรู้เรื่องงานบริการด้านนี้ ส่วนเรื่องเงินค่าจ้างจะมอบให้ผู้ต้องขังทั้งหมดหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า ผู้ต้องขังได้รับอยู่แล้ว การที่ผู้ต้องขังได้ออกมาทำงานข้างนอก เปรียบเสมือนข้าราชการได้ไปเที่ยวต่างประเทศ มองว่า หลายคนน่าจะแย่งกันสมัคร ดังนั้น ต้องคัดคนที่ประพฤติปฏิบัติดีและมีการควบคุมดูแลสูงสุดเรื่องสิทธิมนุษยชน
นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างกระทรวงยุติธรรมและกรุงเทพมหานคร และเป็นการใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงช่วยเสริมรายได้ให้ผู้ต้องขัง ขอขอบคุณนายชัชชาติที่ช่วยหางบประมาณในส่วนที่ขาดเข้ามาช่วยเสริม ส่วนกรณีปัญหาที่ผ่านมาเป็นเพราะการจัดซื้อจัดจ้างที่ติดสัญญารัฐต่อรัฐหรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า ไม่ได้ติดอะไร โดยในส่วนของกรมราชทัณฑ์ได้สิทธิพิเศษกับการทำงานภาครัฐและราคาไม่แพงอยู่แล้ว
สำลัก อาหารติดคอ แนะวิธีปฐมพยาบาล ลดเสี่ยงเสียชีวิต
หมอเผยคนไทยอายุน้อยกว่า 42 ปี ถือว่าไม่มีภูมิคุ้มกันต่อ "ฝีดาษลิง"