นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะส.ส. เขต 1 จังหวัดชัยนาท กล่าวถึงกรณีกลุ่มสามมิตร แยกกันทำงานทางการเมืองว่า ปัจจุบันนี้น่าจะเป็นเช่นนั้น ซึ่งเป็นไปตามที่นายสมศักดิ์เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้พูดไว้ เพราะงานด้านการเมือง อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ส่วนตัวทำงานกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความสุขได้เห็นการทำงานที่มีความจริงใจ
ราคาทองวันนี้ ปิดพุ่ง 300 บาท ตามตลาดสปอตขึ้นแรงหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย
คณะสิ่งแวดล้อม ม.เกษตร เสนอ “ปิดโรงเรียน” ลดฝุ่น PM 2.5
ส่วนกรณีที่กลุ่มสามมิตรแยกออกไป อยู่ 3 พรรคการเมืองนั้น นายอนุชา กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ตอนนี้นายสมศักดิ์ยังอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ แต่หลังจากนี้ตนเองก็ไม่ทราบ เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกันเชิงลึกเนื่องจากเป็นเรื่องบริบทการเมืองแต่ยังคงรักษาความเป็นพี่เป็นน้องและยังรักกัน มั่นคงเหมือนเดิม ขณะที่ตนเองนั้นยังคงต้องทำหน้าที่ ส.ส.จังหวัดชัยนาทอยู่ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะไปเขียนใบสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติวันไหน แต่พยายามจะทำงานในส่วนของหน้าที่ ที่ได้รับผิดชอบ เพราะได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ เป็นตัวแทนรัฐบาล ในการทำหน้าที่ประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
ยืนยันว่าตัดสินใจแล้ว จะไปร่วมงานกับพลเอกประยุทธ์ ไม่มีดีลเรื่องใดทั้งสิ้นกับการย้ายพรรค เนื่องจากตนเองทำงานการเมืองมานานทั้งในอดีตกล้าพูดเลยว่า ไม่มีดีลทางการเมืองหรือเรื่องผลประโยชน์แม้แต่ครั้งเดียว ในชีวิตการเมือง ทำงานอย่างเดียว จึงเชื่อว่าสื่อมวลชนจะเห็นว่า เป็นคนไม่ชอบพูด ดังนั้นเรื่องต่อรองจึงไม่ต้องคุยแต่ถ้าหากสิ่งที่ได้พูดกับตนเองและรับปากไว้ไม่ทำตนเองจึงจะออกมาพูด
ส่วนเหตุผลที่ย้ายไปทำงานกับพลเอกประยุทธ์ ย้ำว่า เพราะชื่นชอบ ถึงความตั้งใจจริงของนายกฯ ในการทำงาน ซึ่งรักทุกคนทำให้กับทุกคนไม่ เช่นนั้น รัฐนาวาที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีอยู่หลายพรรคจะขับเคลื่อนมาจนครบวาระเช่นนี้ไม่ได้ หากไม่มีความจริงใจหรือเป็นผู้บริหารพอสมควร จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันให้เห็นว่าพลเอกประยุทธ์ มีภาวะผู้บริหารมีความสามารถในระดับหนึ่งที่สามารถนำรัฐนาวามาจนใกล้ยุบสภาและใกล้ครบกำหนดสภา ซึ่ง พลเอกประยุทธ์ สามารถที่จะอยู่จนครบเทอมได้ แต่จะเลือกวิธีไหนตนเองไม่สามารถที่จะพูดได้
นายอนุชา ปฏิเสธว่าไม่ใช่การตัดสินใจ ระดับเซียนของกลุ่มสามมิตรที่ตัดสินใจแยกพรรคกันอยู่ แต่เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งตนเองก็อยากทำงานกับสิ่งที่ตนเองทำแล้วมีความสุข เมื่อเป็นพี่ยอมเข้าใจว่าน้องคิดเช่นนี้ก็ต้องจะสนับสนุนน้อง ไม่มีการพูดถึงในแง่ลบแม้แต่นิดเดียว เช่นเดียว กับพลเอกประวิต รวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังเป็นที่เคารพนับถือไม่มีเปลี่ยนแปลงในส่วนของการทำงาน ยังคงยึดม่านและเคารพพลเอกประวิตรเพราะเป็นคนดีมีความสามารถ
สำหรับการย้ายพรรค กึ่งแจ้งไปแล้ว เนื่องจากยังเกรงใจ และย้ำว่าการแยกทางกับกลุ่มสามมิตรเป็นไปด้วยดีความเป็นพี่น้องยังเหมือนเดิม แต่การเมืองต้องยอมรับว่าบางสิ่งบางอย่างอยู่ที่การทำงานด้วยส่วนคนอื่นๆไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไร บางคนอาจจะมาอยู่กับตนเองก็ได้หรืออยู่พรรคอื่นเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนในอนาคต โดยตนเองไม่สามารถที่จะไปพูดได้แล้ว แต่ตนเองต้องตัดสินใจโดยเร็วเพื่อที่จะเกิดทิศทางการเมืองให้ชัดเจน เพื่อกำหนดทิศทางการเมืองที่ตนเองสามารถที่จะคิดอ่านในอนาคตในการที่จะช่วยเหลือพรรครวมไทยสร้างชาติ และช่วยพลเอกประยุทธ์ขับเคลื่อนงานต่อไป
สหรัฐฯ ปัดยั่วยุ เกาหลีเหนือ ยันซ้อมรบ “เกาหลีใต้” ตามปกติ
“ลุงป้อม” ลงพื้นที่ “ยโสธร-มุกดาหาร” พอใจความคืบหน้าพัฒนาแหล่งน้ำ
