“แรมโบ้” โต้เดือดปมถูก “วีระ” ร้องเรียนทุจริต

วันนี้ 3 ก.พ. 2566 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่ถูก นายวีระ สมความคิด อดีตประธานยุทธศาสตร์แผนงานต้านคอร์รัปชัน พรรคเสรีรวมไทย ออกมากล่าวหา

โดย ยืนยันว่า ไม่ได้มีการเรียกรับผลประโยชน์ใดจาก นายเอก ผู้ร้องเรียนเลย ตรงกันข้ามที่ผ่านมานายเอก กลับมีพฤติกรรมเหมือนเป็นแก๊งกรรโชกทรัพย์ เรียกเงินจากตัวเองหลายครั้ง และยังคุกคามตัวเองตามไปที่ต่างๆเพื่อข่มขู่เอาเงิน จึงแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งมีการแจ้งความมาแล้วถึง 5 คดี ด้วยกัน

"วีระ" แฉ! คนสนิท “บิ๊กตู่” รับวิ่งเต้นโครงการรัฐ

"แรมโบ้" ย้ำอยากรู้เรื่อง "ทักษิณ" ให้มาถาม ไม่ต้องไปถามนายกฯ

นายเสกสกล บอกว่า คดีแรก ได้แจ้งความเอาผิด นายเอก ในข้อหากรรโชกทรัพย์ ไว้ที่ สน.ดุสิต เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 ซึ่งตำรวจ ออกหมายเรียกให้ นายเอก และพวก เข้าให้ปากคำแล้ว  อยู่ระหว่างดำเนินคดี

คดีที่สอง ถูกนายเอก คุกคาม ในวันที่ตัวเองเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยนายเอก  บุกไปหา แจ้งความไว้ ที่ สน. พญาไท

ต่อมาวันที่ 9 ม.ค. ในวันที่ พรรครวมไทยสร้างชาติเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเอก ก็บุกไปหาตัวเองอีกครั้ง จบงาน เข้าแจ้งความไว้ที่ สน. มักกะสัน

จากนั้น วันที่ 23 ม.ค.ขณะที่ตนนั่งกินกาแฟอยู่ในโรงแรม ย่านจตุจักร นายเอก ก็บุกไปหาตนอีก โดยเข้ามาประชิดตัวใกล้ๆ ตนเองจึงป้องกันตัว และไปแจ้งความ ที่ สน.พหลโยธิน

และ ล่าสุดตนเองได้เข้าไปแจ้งความ “นายเอก” อีกครั้ง ในข้อหา แจ้งความเท็จ ซึ่งตอนนี้รวมแล้วเป็น  5 คดี

ส่วน นายวีระ ที่เข้ามาช่วยเรื่องนี้ มองว่า ถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือ รวมถึงรับข้อมูลโดยที่ไม่มีการตรวจสอบด้วย

เมื่อถามว่ารู้จักกับ นายเอก ได้อย่างไร นายเสกสกล เล่าว่า มีเพื่อนที่เป็น ส.ส.แนะนำให้รู้จักกับ นายเอก และนายชัยยพล หรือ เฮียบุ๊ง ยอมรับว่า ในช่วงที่รู้จักกัน นายชัยยพล มีความต้องการจะรู้จักกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง (อดีตผู้ว่า กทม.) จริง ซึ่งตนก็พาไปรู้จัก แต่ไม่ได้มีการเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ และไม่รู้ว่าไปพูดคุยกันเรื่องอะไร

ที่ผ่านมา นายชัยยพล ได้มีการโอนเงินมาทำบุญกฐินกับตนเองจริง ก่อนจะมาถูกโยงว่า เป็นผู้เสียหายถูกเรียกรับเงินวิ่งเต้น เรื่องโครงการรัฐของ กทม. ทั้งที่ความจริงแล้ว นายชัยยพล ก็ถูก นายเอก กรรโชกทรัพย์ และเป็นพยานคดีของตนเองด้วย ขณะที่ นายเอก ไม่เคยมีการโอนเงินใดๆให้ตน แต่กลับอ้างว่า เป็นผู้เสียหายได้ยังไง

ส่วนความเคลื่อนไหวของฝั่ง นายเอก (ผู้ร้องเรียน) และ นายวีระ สมความคิด วันนี้ได้เดินทางไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ยื่นหนังสือร้องเรียนถึง  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยตรวจสอบ นายเสกสกล กรณีที่มีคนร้องเรียน ว่า ทุจริตเรียกรับเงิน 2 ล้านบาท เพื่อช่วยวิ่งเต้นให้ชนะการประกวดราคาโครงการของรัฐได้

การยื่นหนังสือวันนี้ ได้นำ ภาพถ่าย คลิปวิดีโอ และแชทการสนทนากับผู้ร้องเรียน มายืนยันกับสื่อ ว่า เรื่องที่นำมายื่นตรวจสอบ มีหลักฐานชัดเจน แต่ยังขอไม่เปิดเผยรายละเอียด

โดย นายวีระ อ้างว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา นายเสกสกล ได้ให้ผู้ใหญ่โทรศัพท์ มาขอเคลียร์กับตน เป็นการส่วนตัว หลังจากทราบเรื่องว่า ตน ได้รับการร้องเรียนดังกล่าว แต่ตนไม่ขอเคลียร์ส่วนตัว เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย จึงเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนหนึ่งต้องการจะพูดคุยโดยตรงกับ นายเสกสกล เพื่อรับฟังความจริงทั้ง 2 ฝ่าย ว่า เรื่องร้องเรียนที่ตนได้รับมาเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ปรากฏว่าในวันนี้ ก็ไม่พบนายเสกสกล

นายวีระ ยังตั้งคำถามไปถึงพล.อ ประยุทธ์ ว่า ทำไมถึงมีการแต่งตั้ง นายเสกสกล ให้กลับมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอีก ทั้งที่ผ่านมา สังคมไม่เคยเชื่อมั่นในพฤติการณ์ของ นายเสกสกล เลย และ หากเรื่องนี้มีการเปิดโปงว่า มีการกระทำผิดทุจริตจริงนายกรัฐมนตรีจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร

สำหรับการร้องเรียนครั้งนี้ นายวีระ มีการกล่าวอ้างว่า นายเอก เคยมาร้องเรียนเรื่องนี้กับตน แล้วครั้งหนึ่ง ก่อนที่เรื่องจะชะงักไปเพราะมีอดีตส.ส.คนหนึ่งอักษรย่อ จ. เข้ามาช่วยเคลียร์ให้เงินคืนส่วนหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้คืนทั้งหมด และเมื่อทวงถามก็ถูกทำร้ายร่างกาย จึงมีการร้องเรียนเข้ามาที่ตัวเองเป็นครั้งที่สอง