ช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค. 67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ด่านสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อร่วมหารือกับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พร้อมประมุขมนตรีรัฐกลันตัน โดยนายเศรษฐา ได้ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นอย่างดี
จากนั้นในช่วงบ่าย นายเศรษฐา เดินทางถึงรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีมาเลเชีย สำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น ถือเป็นเครื่องสะท้อนว่าทั้งสองประเทศมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้น สะพานสุไหงโก-ลกจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี และเป็นโอกาสที่ได้หารือกันเรื่องเขตการค้าพิเศษระหว่างกัน
ทั้งนี้ การหารือในครั้งนี้จะเป็นโอกาสด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมายังพื้นที่นี้อีกครั้งหนึ่งเพื่อชื่นชมพัฒนาการที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ หนึ่งในคณะที่เดินทางไปยังมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย ซึ่งขณะเดินทางกลับ ทั้งนายอนุทิน และนายเศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ ประเด็นเรื่องนายกฯ สำรอง
ซึ่ง นายกเศรษฐา ก็หัวเราะพร้อมกล่าวว่า เราคุยกันตลอดเวลา ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกอย่างว่าไปตามกลไก ตนกับนายอนุทินเรารู้จักกันมานานมากไม่ต้องมาอธิบายให้ฟัง ไม่มีการน้อยใจ เรื่องเหล่านี้ไม่มีอยู่แล้ว นายอนุทินก็สบายใจอยู่แล้ว เรื่องการเมืองก็ส่วนการเมืองไป
เมื่อถามว่า คิดถึงที่มาที่ไปของข่าวนี้หรือไม่ว่าทำไมถึงมีการจุดกระแสข่าวนี้ นายกฯ กล่าวว่า เป็นธรรมดาเรื่องการเมือง ซึ่งตนก็ไม่นึกว่าก่อนเข้าการเมืองว่าจะมีเรื่องแบบนี้ แต่นายอนุทินก็ทราบอยู่ว่ามีเรื่องแบบนี้ตลอดเวลา และก็เป็นเรื่องของคดีที่จะถูกตัดสินในวันที่ 14 ส.ค. นี้ แต่อย่างที่บอกไปว่า 314 เสียง หรืออาจจะมากกว่านั้นด้วย ฉะนั้นมีความมั่นคงอยู่แล้วในตัวของมันเอง
เมื่อถามว่า มีแนวโน้มจะมีพรรคอื่นเข้ามาเพิ่มด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มีการพูดคุย เพราะ 314 เสียงมั่นคงอยู่แล้ว เราก็บริหารจัดการ ซึ่งเดี๋ยวกลับไปนายอนุทินก็ไปร่วมฟังสวดอภิธรรมศพคุณแม่ตน ทุกอย่างเป็นไปตามมิตรภาพอันดีที่มีให้กัน
ส่วนการแข่งขันด้านการเมืองก็มีเรื่องของมันไป อีก 3 ปีก็แข่งขันกันไป ก็ขึ้นเวทีแถลงผลงานของแต่ละคนเป็นธรรมดามากกว่า แต่ที่เราอยู่ตรงนี้เพราะประชาชน วันเสาร์-วันอาทิตย์ก็ต้องทำงานเท่านั้นเองอย่าคิดมาก เราดูจากเหตุและผลจะดีกว่า
นายกฯ กล่าวย้ำอีกว่า เรามาทำงาน เรามีจุดประสงค์เดียวกัน ตนก็เชื่อว่าที่นายอนุทินมาอยู่ตรงนี้ก็ทำเพื่อประชาชน ปัญหาเหล่านี้ที่แทรกเข้ามาก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เรื่องนี้ไม่ต้องพูด ไม่รู้ว่าข่าวมาจากไหนแต่ก็ทราบจุดประสงค์กันดีอยู่แล้ว
ขณะที่นายอนุทิน กล่าวว่า คนออกข่าวลืออยู่ที่ไหนแต่คนที่ถูกกล่าวถึงนั่งนิ่ง นายกฯ ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ผู้สื่อข่าวเลยแซวว่าถามเรื่องนี้ต่อหน้าตนเอง เกร็งหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า ไม่เกร็งได้ยังไง นั่งจนตัวลีบแล้วตอนนี้