“ตูน – ก้อย” เริ่มต้นชีวิตคู่ 'มาราธอนเส้นทางใหม่' แพลนมีลูกทันทีหลังแต่ง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




“ตูน บอดี้สแลม” ควง “ก้อย - รัชวิน วงศ์วิริยะ” เปิดใจมีความสุขมากในวันแต่งงาน แย้มอยากมีทายาททันที เตรียมจัดทริปฮันนีมูนที่ภูเก็ต เผยความในใจ 10 ปีที่ผ่านมาต่างเติมเต็มกันและกัน

“ตูน บอดี้สแลม” ขอ “ก้อย รัชวิน” แต่งงานแล้ว!!

“ก้อย รัชวิน” เผยคลิปวินาที “ตูน บอดี้สแลม” ขอแต่งงาน

หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมา (28 พ.ย.63) นักร้องชื่อดัง ตูน - อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ได้จูงมือแฟนสาว ก้อย - รัชวิน วงศ์วิริยะ เข้าพิธีแต่งงานตามประเพณีไทย ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ไปแล้วนั้น ล่าสุดทั้งคู่ได้ควงกันมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงการเริ่มต้นชีวิตคู่ โดยเผยว่า  

“ตูน - ก้อย" ควงคู่วิวาห์ชื่นมื่น บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรัก

ความรู้สึกเมื่อเช้า

ก้อย : “ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นมาก นอนไม่หลับ หลายหลายความรู้สึก พอมาถึงที่งานเจอคนที่รักเรา มีพลังบางอย่างทำให้ฮึบขึ้นมา โมเมนต์ที่เดินมาเห็นคุณพ่อคุณแม่ของเราทั้งสองคนอยู่ข้างหน้า เป็นโมเมนต์ที่ยากจะบรรยายค่ะ เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงจริงๆ”  

เซอร์ไพรส์เมื่อคืน

ตูน : “เขาอยากมอบของขวัญให้เรา เขาเป็นจอมเซอร์ไพรส์อยู่แล้ว และจะหาของที่เราเคยบ่นว่าอยากได้มาตลอด และเมื่อวานเขาก็เซอร์ไพรส์ ผมมองว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมชอบในตัวเขา ตลอดที่คบกันมา 10 ปี เขาไม่ได้เซอร์ไพรส์หรือทำให้ผมคนเดียว มักจดจำวันเกิดเพื่อน พ่อแม่ พี่ชาย หลาน และใครก็ตามที่อยู่ในวงจรชีวิต และมักที่จะมอบความสุขให้คนเหล่านี้เสมอ ซึ่งต่างกับผมที่เป็นคนไม่สังเกตุคนรอบข้างเท่าไหร่ ไม่ได้เทคแคร์ ใส่ใจคนรอบข้างมากเท่าไหร่ 10 ปีที่ผ่านมา มุมนี้เราสังเกตุเขา จากที่เราได้รับเอง จากการที่เขาได้ทำให้คนอื่น เรารู้สึกว่าตรงนี้มันสอนเรา แล้วทำให้เรามามองดูตัวเองให้อยากทำแบบนี้บ้าง ใส่ใจคนอื่นบ้าง เป็นผู้ให้ที่ดีบ้าง (แพ้ทางความใส่ใจของเขา?) ผมว่าทุกคนแหละ ถ้าสมมติว่ามีใครสักคนที่เขาทำให้เรามีความสุขอยู่เสมอ ไม่ต้องให้ของก็ได้ ใครๆก็แพ้ทาง”

ก้อย : “อย่างที่พี่ตูนบอกค่ะ ก้อยชอบเซอร์ไพรส์ เวลาเห็นที่เรารักมีความสุข เราก็ยิ้มตาม เป็นวันสำคัญวันนึงของเราทั้งคู่ เราอยากมีข้อความดีๆบอกเขาก่อนวันสำคัญ เราก็ไปหาของที่เขาอยากได้มาให้”

หลังจากนี้ใช้ชีวิตคู่แล้ว

ก้อย : “เราคุยกันว่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปไหม จากแฟนขยับเป็นสามี-ภรรยา ความรู้สึกอาจจะเหมือนเดิม แต่การปฏิบัติเราเองต้องเปลี่ยนสถานะเป็นภรรยา ในอนาคตเป็นแม่ ต้องมีบทบาทหน้าที่เพิ่มติมมากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น เป็นบทบาทใหม่ที่เราจะต้องเรียนรู้และปรับตัวกันต่อไป เพราะ 10 ปีที่ผ่านมาเราเรียนรู้กันมาในระดับนึง พอเปลี่ยนไปอีกบทบาทนึง ก็ต้องมีสิ่งที่เรียนรู้เพิ่มเติม เป็นอะที่น่าสนุก เหมือนสอบเลื่อนขั้น”

ตูน : “เรารู้สึกว่าเราได้เรียนต่อในขั้นต่อไปของความเป็นคน เราคบกันมา 10 ปี เป็นแฟนกัน เป็นลูกของพ่อแม่ เรายังไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้มีลูกที่จะทำเพื่อเขา การแต่งงาน การมีครอบครัว ไม่มากกก็น้อยมันจะขยับความเป็นของเราให้สมบูรณ์มากขึ้น มันเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ตื่นเต้นกับความรู้สึกใหม่ๆในแง่ดี สุดท้ายก็ต้องเจออะไรที่ไม่ใช่ด้านเดียว ไม่ใช่แค่ความสุขอย่างเดียว เราเจอความทุกข์แล้วเราจะจัดการยังไง วันที่เราไปแจกการ์ดเราได้คำสอน คำเตือนสติดีๆ คำอวยพรจากผู้ใหญ่ เราก็จะใช้คำเหล่านี้ไม่มากก็น้อยไปบอกตัวเรา บอกก้อยในอนาคต เราจะทำทำมันอย่างดี อย่างที่ผู้ใหญ่สอน ตื่นเต้นที่จะได้ขยับที่ทางของตัวเอง”

เมื่อเช้า “ตูน” ผ่านด่านประตูเงินประตูทองเยอะ

ตูน : “ผมนึกว่าจะหนักกว่านี้ คือผมก็ไมได้ทำอะไรที่แบบ..ก็ยาก แต่บางทีใช้ซองแก้ปัญหาได้ (หัวเราะ)”

ก้อย : “หนูว่าเพื่อนเกรงใจพี่ตูน ก้อยก็บรีฟไปว่าจัดหนัก เอาให้เต็มที่ แต่ก้อยไม่ได้ดู เพราะต้องซ่อนตัวอยู่”

ชมลีลา “ตูน บอดี้สแลม” แดนซ์ฝ่าด่านประตูเงินประตูทอง แต่ง “ก้อย รัชวิน”

มีข้อความแชร์เยอะมาก ที่ “ตูน” ท่องคาถาบูชาเมีย

ตูน : “เพื่อนก้อยเอาคาถามาให้ท่องใส่ทำนองเพลง ก็ด้นสดเอา (คนแซวว่าเป็นพ่อบ้านใจกล้า เกรงใจภรรยา?) ใช้คำว่าเคารพมากกว่านะ คือเคารพซึ่งกันและกัน ให้เกียรติ ถามว่ากลัวไหม ก็มีเกรงนะ แต่ว่าเกรงใจและเคารพในความเป็นส่วนตัวของเขา ความคิดของเขา ทุกอย่างต้องเติมเต็มกัน เคารพกันตรงนี้และประคับประคองกันมากกว่า”  

ถามถึงสินสอดหน่อย

ก้อย : “ไม่ได้ดูเลยค่ะ ใจไปจดจ่ออยู่ที่คุณพ่อคุณแม่ และโมเมนต์ของการสวมแหวน ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่มากกว่าค่ะ เป็นพิธีการ จริงๆแล้วสำหรับก้อยมันไม่สำคัญไปกว่าที่เรามีวันนี้ด้วยกัน”

เราเติมเต็มกันและกันยังไง

ตูน : “เราต่างที่จะเรียนรู้ซึ่งกันและกันมาตลอด 10 ปี และเติมให้กันมาตลอด เราได้เรียนรู้และเป็นพื้นฐานที่ดีต่อการใช้ชีวิตคู่ ระหว่างทางก้อยเป็นคนเติมให้ผมซะเยอะ ไม่ว่าจะผมจะทำอะไรเขาจะไปเชียร์ตลอด อย่างไปวิ่งก็เลือกที่จะมาตากแดด ตากลม ลำบากกับเรา เขายอมเข้ามาอยู่ในวงจรชีวิตเรา มันไม่ง่ายที่ใครบ้างคนจะมาอยู่กับผมที่ใช้ชีวิตสุดโต่ง”

ก้อย : “สำหรับก้อยพี่ตูนเป็นทุกอย่าง( น้ำตาคลอ) เป็นทั้งพี่ชาย เพื่อน คนรัก พี่ตูนจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ทุกอย่างที่พี่ตูนทำได้เปลี่ยนให้ก้อยเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆวัน ทั้งหมดทั้งมวลมาจากความรักและเราเคารพซึ่งกันและกัน สิ่งที่เขาทำต่อครอบครัว แฟนเพลง คนรอบข้าง ความอ่อนน้อมถ่อมตัวของพี่ตูน ความเป็นคนใจดี มันทำให้ก้อยโตขึ้นมากๆ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้เปลี่ยนก้อย เขาทำให้ก้อยเป็นก้อยที่ดีขึ้น เขาเติมเต็มในส่วนที่ก้อยขาด เขาอาจจะไม่สอนเราตรงๆแต่การกระทำของเขาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

มีคำมั่นสัญญาอะไรให้กันบ้าง

ก้อย : “เราไม่เคยสัญญาอะไรกันเลย”

ตูน : “เราไม่เคยผูกมัดด้วยเงื่อนไข ถ้าถามว่าอนาคตคุยกันว่าทำอะไร คืออยากมีลูกเลย เพราะผมก็อายุ 40 กว่าแล้ว ก้อยอายุ 36 ปี ถ้าอยากวิ่งตามลูกให้ทัน ก็ต้องด่วนๆ การมีลูกเหมือนเป็นความฝันของผม การมีลูกเราอาจจะมีความคิดอีกแบบ อาจจะไม่ได้เห็นออกไปวิ่งไกลๆ หรือปืนเสาคอนเสิร์ต เพราะเราห่วงลูก มันอาจจะเปฌนแบบนั้นหรืออาจจะไม่เป็นก็ได้ แต่เราก็อยากที่จะไปเผชิญกับมันว่าจะสนุก ลำบากแค่ไหน”

ก้อย : “อยากพาลูกไปวิ่งมาราธอนด้วย พ่อแม่วิ่ง มีลูกรอที่เส้นชัยคงเป็นภาพที่น่ารักดี ความเป็นแม่บ้าน ก้อยอยากจะปล่อยให้เป็นตามวิถีชีวิต ไม่อยากกะเกณฑ์อะไรว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เราอยากสนุกไปกับมัน แต่แน่นอนว่า บทบาทการทำงานในวงการบันเทิงช่วงแรกก็อาจจะลดลง เพราะถ้าเรามีน้องแล้ว คือก้อยเป็นคนที่เวลาทำอะไร ถ้าสมมติจะเป็นแม่ ก็อยากจะเป็นแม่ให้ดีที่สุด อยากเลี้ยงเขาด้วยตัวเอง อยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด ควไมได้หายไปไหนจากวงการบันเทิง มันอาจจะไมได้ถี่หรือบ่อยเหมือนแต่ก่อน เวลาจะรับงานอะไรก็คำนึงถึงพี่ตูน ครอบครัว เราอาจจะย้ายถื่นฐานไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ”

ตูน : “ผมว่าน่าจะ 2 – 3 ปี วิถีชีวิตที่เราต้องปรับการเดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ต ชีวิตก้อยกับงาน มีลูกแล้วจะเป็นยังไง บ้านที่แพลนไว้จะสร้างเสร็จไหม แต่คาดว่าอยากให้เร็วที่สุด”

เรื่องมีลูก ได้ปรึกษาคุณหมอไหม

ก้อย : “เราไปตรวจมา วางแผนเตรียมตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่ แต่เราก็อยากใช้วิธีธรรมชาติ”

ตูน : “ผู้หญิงหรือผู้ชายได้หมดเลย ขอให้เขาสมบูรณ์ ถามว่ามีกี่คนเหรอ ผมอยากมีมากกว่า 1 คน ด้วยความที่ก้อยถ้าโชคดีมีลูก อายุ 37 คนต่อไปถ้ามีก็ต้องดูว่าเสี่ยงกับแม่ไหม ก็เลยคิดว่าการมีลูกแฝดอาจจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับครอบครัวเรา (พึ่งทางแพทย์?) ก็ต้องแบบนั้น ถ้าจะมีแบบนั้น ก็ลองธรรมชาติดูก่อน"

งานคืนนี้จะเป็นยังไงบ้าง

ตูน : “น่าจะสนุก ตอนแรกเราไมได้คิดว่ามันจะต้องเป็นไซส์ขนาดนี้ ตลอดทางเรามานั่งคิดกัน เราอยู่ในวงการมานาน มีคนหลายคน มีผู้ใหญ่หลายท่านที่สนับสนุนเรา เพื่อนเรา มันเล็กไม่ได้ เลยคิดว่าน่าจะเป็นวันที่เราได้ขอบคุณเขา วันที่เราจัดปาร์ตี้ให้มาเจอกัน ยิ้มให้กัน”

แพลนฮันนีมูนที่ไหน

ก้อย : “ภูเก็ตค่ะ พี่ตูนมีแพลนวิ่งมาราธอนค่ะ เรามีหน้าทีไปซัพพอร์ตเหมือนเดิม”

มีอะไรอยากบอกกันและกันไหม

ตูน : (ยิ้มเขิน) “วันนี้สำหรับผมเองมันเกินจริงมาก ไม่เคยคิดว่ามันจะมีภาพแบบนี้ หรือแม้กระทั่งงานตอนเช้าในจินตนาการของผมมาเลย รู้ว่าอยากแต่งงาน แต่ไม่เคยคิดว่าจะต้องเป็นแบบนี้ๆ พ่อแม่จะต้องมานั่งแบบนี้ๆ กราบเท้าท่าน ท่านอวยพร ภาพวันนี้มันดีมากสำหรับผมที่เกิดขึ้น มันทำให้ผมมีความสุขมาก อยากขอบคุณ ความสุขทั้งหมด ภาพทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะมีเขา”

ก้อย : “จริงๆคล้ายๆกันค่ะ ก่อนที่จะเริ่มต้นวันนี้เราก็ได้รับคำอวยพรจากผู้ใหญ่หลายๆท่าน ทุกคนพูดเหมือนกันว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต่อจากนี้ไปไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไรก็ตาม ให้นึกถึงวันแรกที่เราเจอกัน นึกถึงวันที่เราตกหลุมรักกัน ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมากๆ คือไม่ว่าจะร้ายหรือดี หรือเจออะไรก็ตาม พี่ตูนก็ไม่เคยไปไหน ความรักที่พี่ตูนให้ก้อยมันมากพอที่จะทำให้ผู้หญิงคนนึงกล้าที่จะมีแรงเดินต่อไปในทุกๆวัน (ร้องไห้) ความรักที่พี่ตูนให้ก้อย มันมากพอที่จะทำให้ก้อยมีแรงเดินต่อไปในทุกๆวัน ผ่านรื่องราวทุกๆอย่างด้วยกัน ชีวิตคู่เราเหมือนการวิ่งมารธอนเหมือนกันนะ ระหว่างทางเราต้องผ่านการฝึกซ้อม ความอดทน กว่าจะลงสนาม บางทีเราไม่รู้ว่าต้องเจออะไร จะร้อน จะหนาว ทางจะยากลำบาก เราจะบาดเจ็บไหม จะเป็นอะไรไหม แต่สุดท้ายเราเดินไปถึงเส้นชัยแล้วทุกอย่างมันสวยงามเสมอ วันนี้เรารู้สึกว่าจริงๆแล้วเหมือนจะเดินไปถึงเส้นชัยนะ แต่ว่าจริงๆแล้วมันเพิ่งเริ่มต้น มันคือจุดเริ่มต้นของก้าว ของมาราธอนใหม่ในชีวิต ที่เราต้องไปด้วยกันต่อ (ยิ้ม)”

 

TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ