มาเลเซีย พบ โควิด-19 ระบาดใหญ่ 5,000 ราย ที่โรงงานถุงมือ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยถือว่าเป็นประเทศที่รับมือกับการระบาดของโควิด-19 ได้ค่อนข้างดีแต่โรคระบาดอย่างโควิด-19 ที่แพร่เชื้อได้ง่าย การคุมโรคระบาดจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ปัจจัยภายในประเทศ การระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีคนเดินทางเข้าออกจำนวนมาก จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญด้วย นอกจากการระบาดในเมียนมาที่ได้ลุกลามมายังไทยแล้ว การระบาดที่กำลังเกิดขึ้นในมาเลเซียเป็นสิ่งที่ไทยต้องเฝ้าระวังเช่นกัน หลังพบกลุ่มก้อนการระบาดขนาดใหญ่ถึง 5,000 รายในโรงงานที่มาเลเซีย

ลงทะเบียน "คนละครึ่ง เฟส 2" เริ่ม 6 โมงเช้า 16 ธ.ค. มั่นใจระบบไม่ล่มแน่นอน

"เชราร์ อุลลิเย่ร์ " อดีตกุนซือหงส์แดงเสียชีวิตในวัย 73 ปี

รายงานจากประเทศมาเลเซียว่า เกิดกลุ่มก้อนการระบาดขนาดใหญ่ที่โรงงานผลิตถุงมือที่ใช้ในทางการแพทย์ในเขตกลาง (Klang) ทางตะวันตกของกรุงกัวลาลัมเปอร์

เริ่มจากพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นคนงานที่ต้องการเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด ซึ่งเขาต้องได้รับการตรวจเชื้อก่อน จึงได้พบว่าคนงานคนนี้ติดเชื้อโควิด-19

หลังจากนั้นก็มีการเร่งตรวจหาเชื้อกับคนงานทั้งหมดที่ทำงานโรงงาน ผลออกมาปรากฎว่า มีคนงานมากกว่า 5 พันคนติดเชื้อโควิด-19 และมีหนึ่งรายเสียชีวิตแล้ว เป็นแรงงานชาวเนปาลอายุ 29 ปี ที่เสียชีวิตจากอาการข้างเคียงคือ พังผืดเกาะปอด ทำให้ที่นี่ตอนนี้กลายเป็นกลุ่มก้อนการระบาดขนาดใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย

รัฐบาลมาเลเซียได้ออกคำสั่งให้บริษัทแห่งนี้ปิดโรงงานทุกแห่งที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และสั่งการให้มีการคัดกรองและกักตัวกลุ่มเสี่ยงอย่างเข้มงวด

การที่มีคนติดเชื้อเยอะในโรงงานเนื่องจากการรักษาระยะห่างทางกายภาพภายในโรงงานนั้นเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่คนงานจะสัมผัสอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยกัน ง่ายต่อการติดเชื้อโควิด-19

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า สภาพห้องพักคนงานที่มีความแออัดยัดเยียดก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่การแพร่ระบาดเป็นไปอย่างรวดเร็ว

มาเลเซียเป็นประเทศที่มีแรงงานต่างชาติจำนวนมาก ส่วนใหญ่มาจากแถบเอเชียใต้คือบังกลาเทศ อินเดีย จนถึงแรงงานจากเมียนมา มีรายงานว่าในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 นั้นเป็นแรงงานต่างชาติจำนวนมาก เนื่องจากพวกเขามักถูกละเลยจากภาครัฐ ในการเข้ามาตรวจสอบดูแลความเป็นอยู่ หรือตรวจหาเชื้อให้กับคนเหล่านี้ จนเกิดกลายเป็นกลุ่มก้อนการระบาดตามพื้นที่ต่างๆ

ขณะนี้แรงงานเหล่านี้ยังมีการเดินทางเข้าออกประเทศ แม้รัฐบาลมาเลเซียจะมีมาตรการตรวจหาเชื้อให้กับคนเหล่านี้ก่อนเดินทางกลับบ้าน แต่ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อประเทศอื่นๆ ได้

ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา มาเลเซียพบยอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากราว 200-300 ราย เป็นมากกว่า 1,000 รายต่อวัน

จนขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมของมาเลเซียอยู่ที่มากกว่า 83,000 คน เสียชีวิตมากกว่า 400 คน

การระบาดอย่างลุกลามในมาเลเซีย ย่อมทำให้ไทยต้องเฝ้าระวังตามชายแดนอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกับการระบาดในเมียนมา ย่างกุ้งยังคงเป็นศูนย์กลางการระบาดอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ที่ผ่านมา ย่างกุ้งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 700 รายต่อวัน

แต่มีรายงานว่า ตามตลาด ผู้คนก็ยังละเลยการสวมใส่หน้ากากอนามัย จนนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ต้องออกมาเตือนประชาชนให้รักษามาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด

โดยกลุ่มก้อนการระบาดในเมืองย่างกุ้งมักเกิดขึ้นจากการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ และร้านอาหาร ผับ บาร์ต่างๆ ที่ตอนนี้ทางการย่างกุ้งออกคำสั่งให้ประชาชนทุกคนที่ใช้ขนส่งสาธารณะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และห้ามรวมตัวกันตามผับบาร์ต่างๆ

อุปสรรคสำคัญในการคุมระบาดในเมียนมาคือ ระบบสาธารณสุขที่ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้เพียงพอ แม้ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เมียนมาจะพยายามสร้างโรงพยาบาลชั่วคราวขึ้นมาเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ แต่เจ้าหน้าที่หรืออุปกรณ์ต่างๆ ก็ยังไม่เพียงพอ

ไปจนถึงระบบการติดตามและคัดกรองผู้ป่วยที่ยังไม่ดีมาก ทางการติดตามผู้ป่วยโควิด-19 ได้อย่างไม่ทั่วถึง

ขณะนี้เมียนมามียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมมากกว่า 108,000 รายในเวลาเพียงราว 4 เดือน และมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 2,200 ราย

ซึ่งเมียนมาเป็นประเทศที่มีแรงงานเข้าออกประเทศอย่างผิดกฎหมาย การระบาดในเมียนมาจึงส่งผลต่อประเทศใกล้เคียงอย่างจีน และไทย ที่พบผู้ป่วยโควิด-19 ที่เดินทางอย่างผิดกฎหมายมาจากเมียนมา

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ